หลังจากที่ Honda BR-V (ฮอนด้า บีอาร์-วี) โฉมปัจจุบัน ลากขายยาวมาตั้งแต่ 2016 และไมเนอร์เชนจ์ไปเมื่อปี 2019 ก็ถึงเวลาของการปรับโฉมครั้งใหม่แล้ว

โดยมีภาพคอนเซปท์ของ Honda N7X (ฮอนด้า เอ็น7เอกซ์) ที่ย่อมาจาก “New 7-Seater eXcitement” ปล่อยออกมาให้เราได้เห็นถึงรถยนต์ 7 ที่นั่งรุ่นใหม่ ที่จะมาแทนที่ Honda BR-V ออกมากันให้เห็นกันตั้งแต่เดือนพฤษภาคม และจะเปิดตัวในเดือนสิงหาคม

ซึ่งกล่าวว่าจะเปิดตัวในงาน Gaikindo Indonesia International Auto Show (GIIAS) ในเดือนสิงหาคม แต่งานก็ได้เลื่อนออกมาจน Honda (ฮอนด้า) รอไม่ไหว ขอมาเปิดตัวกันก่อนโดยยังใช้ชื่อเดิม

โดยราคานั้น ทางฮอนด้าอินโดนีเซียยังไม่ได้ประกาศออกมาอย่างเป็นทางการ แต่แจ้งว่ารุ่นเริ่มต้นมีราคาอยู่ที่ 250 ล้านรูเปียห์อินโดนีเซีย หรือก็คือประมาณ 587,000 บาทไทย

หน้าตาสวยขึ้น แฝงความบึกบึน

แม้ว่า Honda N7X ที่เผยออกมาจะเป็นเพียงภาพคอนเซปท์ แต่คันจริงจะมีรูปทรงไม่ต่างจากเดิมมากนัก โดยจะมีการเปลี่ยนแปลงในด้านหน้ามากที่สุด

การออกแบบด้านหน้าได้กระจังหน้าใหม่ขนาดใหญ่พร้อมแถบโครเมียมสีเข้มทรงเหลี่ยมหนา ติดตรา H ตรงกลาง โคมไฟเรียวบาง ไฟ Daytime Running Light รูปตัว L แถบไฟด้านล่างเหนือไฟตัดหมอก

ด้านข้างเรียบง่ายแต่ยังมีเส้นสายที่ดูให้บึกบึน มีแร็คหลังคาสีเงิน เสาอากาศครีบฉลาม สอยเลอร์หลังและไฟเบรกดวงที่ 3 รอบคันติดตั้งแผงกันกระแทกสีดำ

ใช้ไฟท้าย LED รูปทรงตัว U เหมือนกับใน Honda City (ฮอนด้า ซิตี้)  และกันชนด้านล่างสีเงิน

ภายในน่านั่ง

สำหรับภายในได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด โดยพวงมาลัยเปลี่ยนเป็นทรงเหลี่ยม พร้อมระบบแอร์ออโต้ จอแสดงผลการขับขี่ขนาด 4.2 นิ้ว ที่จะมีการแสดงผลการทำงานของ Honda SENSING

หน้าจอกลางขนาด 7 นิ้วรองรับ Apple Carplay/Android Auto ระบบบลูทูธ แสดงผล Honda LaneWatch พร้อมการตกแต่งด้วยหนังตามจุดต่าง ๆ รอบคัน 

ที่บังแดดใส่กระจกแต่งหน้าพร้อมไฟ ที่เก็บของหลังเบาะ ที่วางแก้วถึง 8 ตำแหน่ง เบาะแถว 3 สามารถพับได้ 50/50 เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของ

อ่านเพิ่มเติม ภาพภายใน 2021 Honda N7X เห็นคอนโซลของจริง

เครื่องยนต์เดิมจากรถรุ่นอื่น ๆ 

สำหรับเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตรใน BR-V ใหม่จะเป็นบล็อกเดียวกับที่วางอยู่ใน Honda City Hatchback สเปกอินโดนีเซียที่มีขนาดความจุ 1.5 ลิตร DOHC i-VTEC พละกำลังสูงสุด 121 แรงม้า และมีแรงบิดสูงสุด 145 นิวตันเมตร

สำหรับชาวไทย มีข่าวดีว่าหากเข้ามาขาย ก็อาจจะได้เป็นเครื่อง 1.0 ลิตรเทอร์โบของ Honda City ในบ้านเราแทน ซึ่งจะมี 122 แรงม้า แรงบิด 173 นิวตันเมตร

ระบบความปลอดภัยอัพเกรดเต็มพิกัด

ได้รับการอัพเกรดถุงลมจากเดิมมีแค่คูหน้า ได้มาเป็น 6 ใบแล้ว ครบครันด้วยระบบ Honda Sensing ในตัวท็อปที่ประกอบไปด้วย 

• Adaptive Cruise Control
• ระบบเตือนการชนด้านหน้า
• ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน
• ระบบแจ้งเตือนและช่วยเหลือเมื่อรถออกนอกเลน
• ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าออกตัว
• Honda Lane Watch
• Engine Remote Start
• ระบบล็อครถเมื่ออกห่าง

อ่านเพิ่มเติม Honda BR-V เจเนอเรชันถัดไป ควรปรับปรุง 3 อย่างนี้

ไทยน่าจะผลิตเองพร้อมเครื่องเทอร์โบปีหน้า

สาเหตุที่ Honda BR-V ในประเทศไทยน่าจะได้ใช้เครื่องเทอร์โบ เพราะบีอาร์-วีรุ่นปัจจุบันผลิตอยู่ในประเทศไทย และน่าจะยังใช้สายการผลิตในไทยเช่นเดิม และในประเทศไทยก็ไม่มีเครื่องยนต์ 1.5 ลิตรทำตลาดอยู่แล้ว ขณะที่ทั้งมาเลเซียและอินโดนีเซียไม่มีเครื่องยนต์ 1.0 ลิตร เทอร์โบ ทำให้เลือกใช้เครื่องยนต์รุ่นเดิม

ส่วนราคาจะอยู่ที่เท่าไร ต้องรอติดตามครับ เพราะรุ่นปัจจุบันราคาเริ่มจาก 7.65 - 8.35 แสนบาท ถ้าออพชั่นมาครบ ๆ พร้อมเครื่องยนต์ใหม่ ราคาไม่น่าจะลงไปเหมือนที่อินโดนีเซียคาดการณ์แน่นอน