เทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามามีบทบาทในโลกของยานยนต์ทุกวัน และเทคโนโลยีเก่า ๆ ก็ถูกลบให้หายไปเมื่อหมดประโยชน์แล้ว ของบางอย่างที่เป็นมาตรฐานยาวนานมาเกือบศตวรรษ ใครจะไปคิดว่าอีกไม่กี่ปีข้างหน้ามันอาจจะเป็นเพียงภาพในความทรงจำที่ไม่มีวันหวนกลับมา?
วันนี้ บอริสจะคาดการณ์ถึง 5 อุปกรณ์ติดรถที่ในอีก 10 ปี น่าจะหายไปจากรถใหม่ทุกรุ่น และเราอาจจะคิดถึง หรือไม่คิดถึงมันกันก็ได้?
3 แป้น + 1 คันเกียร์ = ความสนุก
พวกท่านทันสังเกตไหมครับ ว่ารถยนต์ที่เปิดตัวใหม่ในช่วง 2-3 ปีหลัง ถ้าหากไม่ใช่รถกระบะ แทบจะไม่มีรุ่นใดเลยที่มีตัวเลือกเกียร์ธรรมดามาให้?
แม้ว่าในปัจจุบัน จะยังมีผู้เฒ่าผู้แก่จำนวนหยิบมือที่ขับรถเกียร์อัตโนมัติไม่เป็น แต่แม้กระทั่งจำนวนคนที่ขับรถเกียร์ธรรมดาเป็น ก็มีจำนวนน้อยลงไปทุกวัน ๆ กลายเป็นสิ่งหายากไปแล้ว บริษัทรถเองสังเกตเห็นความจริงนี้ และตัดสินใจที่จะไม่นำรถเกียร์ธรรมดามาจำหน่ายทั้งในระดับโลกและในประเทศไทย ยกเว้นในบางกรณีพิเศษ
เครื่องยนต์สันดาปไม่ใช้ระบบอัดอากาศ
นับตั้งแต่การเปิดตัวทั้ง Nissan Almera (นิสสัน อัลเมร่า) และ Honda City (ฮอนด้า ซิตี้) รุ่นใหม่เมื่อปี 2019 ความจริงที่ว่ารถยนต์แม้แต่ในระดับเล็กสุด ถูกที่สุด ก็ต้องอัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีเครื่องยนต์ขนาดเล็ก พ่วงด้วยเทอร์โบชาร์จเจอร์ อันมีจุดประสงค์ในด้านมลภาวะ และอัตราสิ้นเปลือง
แม้แต่ค่ายรถยนต์สปอร์ตระดับโลกที่ชูโรงด้านการขับขี่อย่าง Porsche (ปอร์เช่) ยังเหลือเครื่องยนต์สันดาปไม่ใช้ระบบอัดอากาศเฉพาะกับรุ่นพิเศษ ซึ่งมักจะมีราคาขายต่อดีเพราะคนเฉพาะกลุ่มอยากได้กันเยอะ แต่สุดท้ายแล้ว เมื่อมอเตอร์ไฟฟ้าเข้ามาแทนที่ เครื่องยนต์ไร้ระบบอัดอากาศที่สามารถปั่นได้ถึง 9000 รอบต่อนาที ก็จะเป็นอดีตในอีกไม่ช้า
ระบบหัวฉีดเชื้อเพลิงคอท่อไอดี
เช่นเดียวกันกับเทอร์โบชาร์จเจอร์ ระบบหัวฉีดเชื้อเพลิงแบบตรงเข้าห้องเผาไหม้ Direct Injection ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยในเรื่องอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง และเมื่อมาตรฐานโลกเปลี่ยนไป ระบบหัวฉีดแบบฉีดคอท่อไอดี ก็ถูกลดทอนความสำคัญลงไป
ระบบหัวฉีด Multi-Point Fuel Injection ที่ฉีดคอท่อไอดีนี้ เริ่มมีการใช้อย่างแพร่หลายในช่วงต้นยุค 1990 และเป็นระบบจ่ายเชื้อเพลิงที่ราคาถูก เกิดปัญหาน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับทั้งคาร์บูเรเตอร์และหัวฉีดตรง แต่เมื่อมาตรฐานอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงโหดขึ้นทุกวัน จึงถูกลดทอนความสำคัญไป เครื่องยนต์รุ่นใหม่ ๆ ไม่ใช้กันอีกต่อไปแล้ว
เบรกมือแบบกลไก
มีผู้อ่านท่านใดไม่เคยลองดึงเบรกมือในลานจอดรถว่าง ๆ บ้างไหมครับ? แม้ว่าจะไม่อยากยอมรับกัน แต่วัยรุ่นเพิ่งหัดขับรถยนต์จำนวนมาก ต้องเคยอยากลองดึงเบรกมือให้ท้ายปัดกันเล่น ๆ สักครั้งหนึ่งในชีวิต แต่มันอาจจะเป็นอดีตได้ในอีกไม่ช้านี้
รถยนต์รุ่นใหม่จำนวนมากใช้เบรกมือไฟฟ้า มีปุ่มเพียงปุ่มเดียวเท่านั้น และรถอย่าง Toyota GR Yaris (โตโยต้า จีอาร์ ยารีส) ถึงกับใช้เป็นจุดขายว่ายังมีเบรกมือระบบกลไกพร้อมระบบตัดการส่งกำลังขับเคลื่อนสี่ล้อ สำหรับผู้ที่อยากท้ายปัดกันเหมือนรถแรลลี่สมัยก่อน แต่สำหรับรถทั่ว ๆ ไป เราคงไม่ได้เห็นท้ายกวาดแจ่ม ๆ กันอีกต่อไปในอนาคตละครับ
กระจกมือหมุน
หลายท่านเห็นข้อนี้อาจจะถามว่า เดี๋ยว อะไรนะ? กระจกมือหมุน? เดี๋ยวนี้ยังมีอยู่อีกเหรอ? คำตอบคือ ถูกต้องครับ รถอย่าง Suzuki Celerio (ซูซูกิ เซเลริโอ้) GA M/T หรือ Isuzu D-max (อีซูซุ ดีแมกซ์) Chassis Cab ก็ยังไม่มีระบบกระจกไฟฟ้ามาให้
แต่ในโลกปัจจุบันที่การลดต้นทุนทำกันในระดับหลักสิบบาทต่อคัน การจัดระเบียบโรงงานผลิตเป็นเรื่องที่สำคัญมาก การที่บริษัทต้องเพิ่มชิ้นส่วนประตูซึ่งใช้กับเฉพาะรุ่นกระจกมือหมุน กลับกลายเป็นว่าสร้างต้นทุนให้สูงกว่าการใส่กระจกไฟฟ้ามาให้ครบทุกรุ่นไปเสียอย่างนั้น ในอนาคตเราจึงจะไม่ได้เห็นกระจกมือหมุนสำหรับออกกำลังข้อมืออีกต่อไปครับ
สรุป
หลายสิ่งอย่างที่อยู่ในการจัดอันดับนี้ ถ้าเกิดหายไป เราก็คงจะเสียใจพอสมควร เช่น เกียร์ธรรมดา หรือเครื่องยนต์ที่ไม่ใช้ระบบอัดอากาศช่วย แต่อีกหลายสิ่งเราก็คงจะลืม ๆ ไม่ได้สนใจมันเสียเท่าไหร่ เช่น กระจกมือหมุน
โลกนั้นก็หมุนไปทุกวันเช่นกัน ปาฏิหาริย์ที่จะทำให้ตัวใครย้อนเวลากลับมานั้นก็ไม่มีอยู่จริง ถ้าหากท่านชอบอุปกรณ์ใดที่อยู่ในลิสต์นี้ ก็ลองพิจารณาเก็บรถที่มีอุปกรณ์เหล่านี้ให้ยาวนานยิ่งขึ้นไปเสียหน่อย ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจนะครับ