รัฐบาลไทยเชื่อมั่นเต็มร้อยยังคงเป็นศูนย์กลางฐานการผลิตยานยนต์อาเซียนหลังพ้น Covid-19

รัฐบาลไทยประกาศความเชื่อมั่นว่าจะสามารถรักษาสถานะศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ในอาเซียนได้หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ Covid-19 คลี่คลาย

การแสดงความเชื่อมั่นของรัฐบาลไทยเกิดขึ้นหลังจาก Nissan ย้ายฐานการผลิตรถยนต์ออกจากประเทศอินโดนีเซีย ทำให้ไทยกลายเป็นฐานการผลิตรถยนต์แห่งเดียวของ Nissan ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา Nissan เพิ่งประกาศปิดโรงงานแห่งที่สองในแดนอิเหนา หลังจากในเดือนกันยายนปีกลาย ค่ายรถยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่นได้ประกาศปิดโรงงานแห่งแรกไปแล้วซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการปรับโครงสร้างการดำเนินธุรกิจทั่วโลก

ฮับการผลิตเพื่อการส่งออกทั่วโลก

สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวหลังจากได้พบปะกับราเมช นาราสิมัน ประธานกรรมการ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ว่า Nissan มีความมั่นใจอย่างเต็มที่ในประเทศไทย และยืนยันว่าจะเดินหน้าตามแผนธุรกิจที่วางไว้

หนึ่งในแผนธุรกิจสำคัญของ Nissan คือการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ไฮบริดในระยะยาว ซึ่งจะช่วยเพิ่มการว่าจ้างงานในประเทศไทย สุริยะเปิดเผยว่า Nissan Kicks e-Power ซึ่งเพิ่งเปิดตัวครั้งแรกในโลกในไทยเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาจะขึ้นสายการผลิตในไทยเพื่อการส่งออกไปยังหลายประเทศ รวมถึงญี่ปุ่น

รัฐมนตรีอุตสาหกรรมกล่าวย้ำด้วยว่า ถึงแม้จะต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์ใหม่ แต่ประเทศไทยก็จะยังคงรักษาตำแหน่งศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ในอาเซียนไว้ได้อย่างมั่นคง

ประเทศไทยและอินโดนีเซียมีการแข่งขันกันมาอย่างยาวนานในการช่วงชิงความเป็นผู้นำด้านยานยนต์ในภูมิภาคนี้ ถึงแม้ไทยและอินโดนีเซียจะมียอดขายในประเทศใกล้เคียงกัน แต่สำหรับยอดการผลิตรถยนต์ ไทยยังเป็นผู้นำด้วยยอดการผลิตในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้อยู่ที่ 8.9 แสนคัน ส่วนอินโดนีเซียมียอดการผลิต 5.2 แสนคัน