รถยกสูง หรือครอสโอเวอร์ กำลังเป็นที่นิยมมาก เพราะความสูงของใต้ท้องรถมีมากกว่ารถเก๋ง ทำให้มีความสามารถในการข้ามสิ่งกีดขวาง อย่างที่ทุกคนเจอบ่อยนั่นคือ น้ำท่วม หรือหลุมบ่อ อีกทั้งประโยชน์จากความสูงของรถที่เพิ่มขึ้น ยังช่วยให้ทัศวิสัยการขับขี่ที่ดี และมีการเข้า-ออกจากรถได้ง่ายกว่า จนทำให้เจ้าของรถซีดานถึงกับมองตาปริบ ๆ เพราะไม่มีงบประมาณมากพอที่จะเปลี่ยนรถคันใหม่
เก๋งยกสูง เป็นแนวทางใหม่ของการแต่งรถ ซึ่งกำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นตามกระแสนิยมของ SUV ไปด้วย หากใครที่มีรถเก๋งพื้นเตี้ย สนใจอยากทำสูงขึ้น แต่ยังลังเล หรือไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร ลองอ่านบทความนี้ ซึ่งจะแนะนำจากงบประมาณน้อยสุด ในการเพิ่มความสูงทีละนิด เพื่อให้ได้ความสูงที่พอดีกับการใช้งาน และเป็นมิตรต่อกระเป๋าสตางค์ด้วย
เสริมสปริง
การเสริมสปริง คือวิธีการได้ความสูงที่รวดเร็วและมีราคาถูกที่สุด โดยใช้งบประมาณไม่เกิน 4,000 บาท ในการเสริมทั้ง 4 ล้อพร้อมกัน(รวมค่าแรง) เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มต้นอยากลองทำรถเก๋งยกสูง โดยไม่ตัดแปลงตัวรถใด ๆ มากนัก
สิ่งนำมาเสริมสปริงคือ สเปเซอร์ ทำจากโลหะ หรือยางยูริเทนชนิดแข็ง รูปทรงตลับ มีความหนาเลือกได้ตามใจชอบ เช่น 30 มม. 50 มม. 70 มม. ติดตั้งระหว่างขดสปริง กับเบ้าด้านบน ช่วยให้รถสูงตามความหนาที่เลือกไว้อย่างตรงจุด
อย่าสับสนกับ ยางบัฟเฟอร์คั่นระหว่างสปริง อันนั้นไม่ได้ช่วยให้รถสูงขึ้น แค่ทำให้สปริงแข็งขึ้นเท่านั้น
อ่านเพิ่มเติม : โช๊ค Monotube มีดีอย่างไร ต่างกับ Twin-tube แค่ไหน
เสริมยางใหญ่
การเสริมยางใหญ่แก้มสูง เป็นขั้นตอนต่อมาเมื่อต้องการยกสูง สำหรับผู้ที่ไปรองสปริงแล้วคิดว่าซุ้มล้อยังโล่งไป หรือต้องการความสมส่วน
รถเก๋งปกติมักใส่แก้มยางขนาด 50 หรือ 55 เพื่อความประหยัด ควรจะเพิ่มขนาดยางขึ้นอีก 2 ขั้นเป็นแก้มยางขนาด 60 หรือ 65 จะทำให้รถสูงขึ้นอีกประมาณ 20 มม. โดยที่ไมล์ยังไม่เพี้ยนมาก หรือถ้ายังไม่พอใจ ก็ให้หายางรถกระบะหน้ากว้างขนาดใหญ่ใส่เพิ่มตามความชอบได้ การแต่งขั้นนี้ใช้งบประมาณตั้งแต่ 6,000 - 20,000 บาทแล้วแต่ขนาดยางที่ชอบ
อ่านเพิ่มเติม : เทียบสเปคความสูงใต้ท้องรถใหม่ 2021
เปลี่ยนสปริง โช้ค กับปีกนก
หากเปลี่ยนยางแล้วยังมีความสูงจากพื้นไม่พอใจ ก็ต้องใช้วิธีการเปลี่ยนสปริง และเปลี่ยนโช้คอัพให้สูงขึ้น ใช้วิธีหาโช้คสตรัทปรับเกลียวตรงรุ่น หรือถ้าคุณใช้รถรุ่นหาอะไหลยาก ไม่มีตรงรุ่น ก็ต้องแปลงเอา โดยนำสปริงรุ่นอื่นมาใส่ และเลือกโช้คอัพความสูงใหม่ มาตัดเชื่อมเปลี่ยนจุดยึดให้เข้ากับของเดิม
นอกจากเปลี่ยนโช้คกับสปริงแล้ว ยังต้องเสริมปีกนกใหม่ให้ยาวขึ้น เพื่อให้มุมแคมเบอร์ของล้อไม่เพี้ยนจนเกินไป ซึ่งจะส่งผลเรื่องการเลี้ยว การทรงตัว และการสึกหรอดอกยางกับบูชจุดยึดต่าง ๆ ซึ่งต้องใช้อู่ที่มีประสบการณ์ดัดแปลงรถโดยเฉพาะ และใช้งบประมาณหลักหมื่นขึ้นไปรวมค่าแรง
วิธีนี้เหมาะกับคนที่เริ่มมาแนวทางนี้จริงจัง ไม่คิดจะขายรถไปใช้ SUV อีกต่อไปแล้ว เตรียมพร้อมโมดิฟายไปสเต็ปสุดท้าย
อ่านเพิ่มเติม : รวมตำนานรถแข่งแรลลี่ 10 รุ่นจาก 5 ยุคสมัย 1973-ปัจจุบัน แต่ละรุ่นมีประวัติสุดจี๊ดจากเรื่องจริง
วางคาน คว้านซุ้ม
วิธีสุดท้ายนี้จะได้ความสูงมากสุด โดยตัดช่วงล่างเดิมออกไปหมด แล้วนำคานแข็งจากรถออฟโรดของจริงมาใส่แทน พร้อมให้โรงกลึงทำเพลาขับขึ้นมาใหม่ และมีการผ่าซุ้มล้อให้กว้างขึ้น เพื่อรับกับล้อที่ขนาดใหญ่กว่าเดิมมาก ๆ อีกทั้งต้องมีการเจาะ เชื่อม เสริม ทำจุดยึดช่วงล่างใหม่ทั้งหมด ซึ่งการโมดิฟายระดับนี้ ต้องไม่คิดเสียดายรถอีกต่อไป ตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าทำใช้เองยาว ๆ จนกว่าจะกลายเป็นซาก เพราะรถดัดแปลงจะขายต่อยาก หรือขายได้แต่โดนกดราคาหนัก
อ่านเพิ่มเติม : Honda Civic Wagon จินตนาการพ่อบ้านขาซิ่ง
ข้อเสียต้องทราบ
การยกสูงรถอย่างนี้ มีข้อเสียที่ต้องตามไปแก้ไข หรือต้องทำใจ เพราะปัญหาทั้งหมดเกิดมาจากการยกสูงนั่นเอง ถ้าใจรักแล้ว ก็พร้อมแก้ปัญหา และอยู่ร่วมกับมันด้วย ซึ่งมีหลายข้อพอสมควร
-
ล้อติดซุ้ม ต้องเพิ่มสเปเซอร์รองล้อให้ยื่นออกมา เพื่อให้ยางไม่ติดซุ้มล้อตอนเลี้ยว ส่วนการจะเสียเงินซื้อสเปเซอร์ยื่นออกมากี่พันบาท ก็ขึ้นอยู่กับขนาดความใหญ่ของยางนั่นเอง
-
ปัญหาตามมาอย่างที่สองคือ มาตรวัดความเร็วเพี้ยน มาจากขนาดยางที่ใหญ่ขึ้น ทำให้จำนวนรอบการหมุนช้าลง ทำให้รถบางรุ่นที่มีเซนเซอร์ตรวจจับความเร็วตรงล้อ เกิดทำงานผิดพลาด ความเร็วที่ได้ต่ำกว่าความเป็นจริง วิธีแก้คือ เพิ่มมาตรวัดความเร็วแบบ OEM ติดตั้งเพิ่มออกมา
-
ปัญหาเรื่องความทนทานของช่วงล่างเดิม เนื่องจากการใส่ล้อใหญ่และสูงขึ้น จะเกิดน้ำหนักตกที่ล้อมากขึ้น ซึ่งสร้างภาระให้กับข้อต่อช่วงล่าง ข้อต่อเพลา และจุดหมุนลูกปืนล้อ เกิดการสึกหรอไวกว่าเดิมมาก ต้องเปลี่ยนบูชและลูกปืนล้อไวกว่าเดิม ลามไปถึงเพลาขับในระยะยาวด้วย
-
ปัญหาเสียงรบกวนมีมากกว่าเดิม เกิดจากการใช้ยางรถกระบะ ที่มีดอกใหญ่และเนื้อแข็งกว่ายางรถเก๋ง ทำให้เกิดเสียงดอกยางกระทบพื้นถนนเวลาวิ่งด้วยความเร็วสูง ดังมากกว่ารถเก๋งเป็นธรรมดา หากใช้ไปนาน ๆ แล้วอาจจะเคยชินและทำใจได้ไปเอง
การแต่งรถไม่มีขอบเขต บางคนทำเกินกว่าขีดจำกัดของรถเก๋งจะรับไหว บางคนทำแค่พอขับได้อารมณ์โย่ง ๆ นิดหน่อยพอรู้สึกได้ ดังนั้นเราจึงแนะนำให้เริ่มแต่งทีละน้อย ๆ ก่อน เพื่อหาความพอดีของแต่ละคน ซึ่งอาจจะชอบแต่งมากแบบไม่กลับไปเดิมแล้ว หรืออาจจะแค่แต่งแก้เบื่อ ก็ยังสามารถทำกลับเดิม เพื่อขายไปต่อยอดเป็นรถ SUV ของจริงก็เป็นได้