Toyota Fortuner เรียกได้ว่าเป็นรถเอสยูวียอดนิยมที่คุ้นหน้าคุ้นตากันมาตั้งแต่ปี 2004 ด้วยความใหญ่ และขนาดเครื่องยนต์ 164 แรงม้า ที่ถือว่าแรงที่สุดในขณะนั้น ตามมาด้วยอัตราสิ้นเปลืองที่มาก แต่คนก็ยังชอบอยู่ดี
ล่าสุดโตโยต้า ได้เปิดตัวฟอร์จูนเนอร์ 2020 - 2021 ใหม่ที่ถือเป็นการปรับโฉมอย่างเป็นทางการในรอบ 5 ปี ออกแบบและพัฒนารูปลักษณ์ให้มีความ “Prestige & Cool” มากยิ่งขึ้น จนมีข่าวจากฝ่ายผลิตว่ามีการผลิตล่าช้ากว่าแผน ทำให้ส่งรถไม่ทัน รวมถึงรถใหม่อีก 2 คันอย่าง Corolla Cross และ Hilux Revo Rocco ทำให้อดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมมันถึงขายดีได้ขนาดนี้
Toyota Fortuner |
รุ่น |
ราคา |
2.4 G AT |
1,349,000 |
2.4 V AT |
1,454,000 |
2.4 V 4WD AT |
1,524,000 |
Toyota Fortuner Legender |
รุ่น |
ราคา |
2.4 Legender AT |
1,564,000 |
2.4 Legender 4WD AT |
1,634,000 |
2.8 Legender AT |
1,769,000 |
2.8 Legender 4WD AT |
1,839,000 |
1.เครื่องที่แรงกว่าเดิม
ปี 2015 เครื่องเบนซิน 4 สูบ 2.6 ลิตร 166 แรงม้าที่ 5,200 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 245 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที
ปี 2020 ดีเซลเทอร์โบ 4 สูบ 2.8 ลิตร 204 แรงม้าที่ 3,400 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ที่ 1,600-2,800 รอบต่อนาที
แน่นอนว่ารถใหม่ เครื่องก็ต้องใหม่ ตัว 2020 แรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดด้วยม้าอีก 38 ตัวและรอบที่มาเร็วกว่าเดิมจับคู่เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ส่งพลังสู่ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Part-time 4WD แบบ Sigma 4 และมีโหมดขับขี่ Eco, Normal รวมถึง Sport ให้การตอบสนองต่างกัน
2.ภายนอกสวยงาม
ทั้งตัว Fortuner ธรรมดาและตัวแต่ง Legender นั้นมีหน้าตาที่เปลี่ยนไปเยอะมากจากรุ่นก่อนๆที่คล้ายกับการนำเอาหน้ากระบะวีโก้มาแปะ รวมทั้งสีที่มาใหม่ 2 สีคือ สีแดง Emotional Red และ น้ำเงิน Dark Blue Mica
สำหรับตัว Legender สามารถเลือกออพชั่นหลังคาสีดำให้กับตัวรถสีแดงและสีขาว ซึ่งสีแดงหลังคาดำและสีน้ำเงินนี้เองที่ขายดีเอามากๆ จนทำให้โตโยต้าผลิตกันไม่ทัน เนื่องจากเป็นสีที่ยังไม่มีในค่ายอื่นนั่นเอง
3.ออพชั่นความปลอดภัยจัดเต็ม
หลังจากเคยฟอร์จูนเนอร์โฉมก่อนเคยแฟนๆบ่นว่ากั๊กออปชั่น มาคราวนี้ใน Legender 2.8 ทั้งรุ่น 2WD และ 4WD จึงมาพร้อมระบบป้องกันการชนด้านหน้า Pre-collision System, ระบบเตือนรถออกนอกเลนพร้อมหน่วงพวงมาลัยอัตโนมัติ Lane Departure Alert และระบบควบคุมความเร็วแปรผันตามคันหน้าอัตโนมัติ Dynamic Radar Cruise Control ซึ่งเราแอบเสียดายที่ไม่ได้ใส่ระบบแจ้งเตือนรถในมุมอับด้านข้าง-ด้านหลังมาให้
4.พลังแห่งแบรนด์สามห่วง
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า หากพูดถึงชื่อ Toyota ภาพลักษณ์มักจะมีความเชื่อถือได้ มั่นใจในคุณภาพรถ ศูนย์บริการมากมาย บวกกับนิสัยคนไทยที่ค่อนข้างจะติดแบรนด์เล็กน้อย แม้จะมีคู่แข่งมากมายที่หน้าตาอาจจะดูดี สมรรถนะแรง หรือราคาใกล้กัน แต่เชื่อได้ว่าผู้ใช้โตโยต้า มั่นใจว่าซื้อมาใช้แล้วไม่ผิดหวังแน่นอน
5.ราคาขายต่อดีงาม
เมื่อเป็นรถและแบรนด์ติดตลาด การขายฟอร์จูนเนอร์นั้นเป็นเรื่องที่ทำได้ไม่ยาก และได้ราคาขายดี ไม่ตกวูบจนเกินไป เทียบกับราคาของคันอื่นๆ ที่บางเตนท์รถยังไม่รับก็มี การเป็นฟอร์จูนเนอร์จึงถือว่าได้เปรียบไม่น้อย
6.ราคาซ่อมสบายกระเป๋า
สำหรับคนซื้อรถ บางยี่ห้ออาจมีชื่อเสียงไม่ดีกับค่าบริการที่แพงแสนแพง ศูนย์น้อยอะไหล่นาน เข้าศูนย์กันทีกุมขมับออกมาเลย
แต่สำหรับฟอร์จูนเนอร์แล้ว หากดูแลเขาดีๆ พาเข้าเช็คศูนย์บริการบ่อยๆ ก็ไม่ต้องกังวลใจ อีกทั้งมีพื้นฐานเดียวกับ Revo และอะไหล่หาได้ง่าย ใช้แทนกับคันอื่นได้ จึงเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้คนเลือกใช้คันนี้
อันที่จริง นี่เป็นเพียงเหตุบางประการ ที่ทำให้เจ้า 2020 Toyota Fortuner นั้นขายดี ยังมีปัจจัยอีกมากมาย เช่น ภายในที่ดูทันสมัยขึ้น งานตกแต่งด้วยวัสดุที่ดูงาม เก็บเสียงดีขึ้น ช่วงล่างนุ่มนวลนั่งสบาย เบาะนั่งสบาย เป็นต้น นี่จึงเป็นเพียงการแสดงจุดแข็งของรถให้ดูกันว่ามันดียังไง การซื้อรถนั้นขึ้นอยู่กับคุณผู้อ่านถูกใจคันไหนล้วนๆเลยครับ