เจ้าหน้าที่ระดับสูงหลายคนในรัฐบาลญี่ปุ่นพยายามผลักดันการควบรวมกิจการระหว่าง Nissan (นิสสัน) และ Honda (ฮอนด้า) แต่ไม่สัมฤทธิ์ผลเนื่องจากทั้งสองบริษัทไม่เห็นด้วย
เว็บไซต์ Financial Times รายงานโดยอ้างแหล่งข่าววงในว่าหนึ่งในเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลญี่ปุ่นที่มีส่วนร่วมผลักดันแผนการควบรวมกิจการระหว่าง Nissan และ Honda คือที่ปรึกษาคนสนิทของนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ผู้นำของญี่ปุ่น
การผลักดันการควบรวมกิจการดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงปลายปีที่แล้วท่ามกลางกระแสการควบรวมกิจการของบริษัทรถยนต์ทั่วโลกเพื่อสร้างขีดความสามารถทางการแข่งขันในอุตสาหกรรมยานยนต์ที่หันเหไปสู่การสร้างรถพลังงานไฟฟ้าและระบบขับขี่อัตโนมัติมากขึ้น
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_fourthp_under_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678191139-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678191139-0'); });
Honda - Nissan ยังปฏิเสธข่าวลือดังกล่าว
ขณะเดียวกัน หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดแนวคิดการรวมกิจการระหว่าง Nissan และ Honda คือความสัมพันธ์ระหว่างพันธมิตร Nissan-Renault Alliance ที่อยู่ในสถานะไม่สู้ดี โดยผู้เชี่ยวชาญมองว่าถ้า Nissan แยกตัวออกมาและต้องดำเนินธุรกิจอย่างโดดเดี่ยวก็จะมีความเสี่ยงที่จะประสบความล้มเหลว
อย่างไรก็ตาม ทั้ง Nissan และ Honda ปฏิเสธแผนการควบรวมกิจการ โดยรายงานข่าวระบุว่าแผนดังกล่าวไม่เคยถูกนำมาหยิบยกหารือในที่ประชุมบอร์ดบริหารระดับสูงของทั้งสองบริษัทด้วยซ้ำไป
สาเหตุที่ Honda ปฏิเสธการรวมกิจการเนื่องจากมองว่า Nissan มีโครงสร้างเงินทุนที่ซับซ้อนเกินไปและยังคาบเกี่ยวกับ Renault ในหลายส่วน ขณะที่ Nissan เองก็ต้องการมุ่งเน้นการสร้างความแข็งแกร่งกับพันธมิตร Renault ต่อไปในระยะยาว
ความสัมพันธ์ Nissan – Renault กระเตื้องขึ้น?
การจับกุมคาร์ลอส กอส์น อดีตประธานใหญ่ Nissan และ Ranault ในข้อหากระทำผิดกฎหมายการเงินในช่วงปลายปี 2018 ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสองบริษัทย่ำแย่ลง มีรายงานว่าผู้บริหารระดับสูงของ Nissan ต้องการแยกตัวออกจากกลุ่มพันธมิตรหรือลดบทบาทด้านการบริหารของ Ranault ลงในหลายส่วน
อย่างไรก็ตาม ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา Nissan และ Ranault รวมถึง Mitsubishi ได้ประกาศแผนธุรกิจฉบับปรับปรุงใหม่ซึ่งแบ่งการดำเนินธุรกิจตามภูมิภาค โดย Nissan จะเน้นทำตลาดจีน อเมริกาเหนือ และญี่ปุ่น ส่วน Renault มุ่งทำตลาดยุโรป และ Mitsubishi โฟกัสที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นหลัก
แผนธุรกิจใหม่ดังกล่าวถูกประกาศออกมาในช่วงเวลาที่อุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลกอยู่ในสภาวะถดถอยอย่างหนักผลจากการแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์ใหม่ จึงดูเหมือนว่า Nissan และ Ranault จะตระหนักดีว่าควรจะปล่อยวางความขัดแย้งไว้เบื้องหลังและผนึกกำลังกันต่อสู้กับอุปสรรคข้างหน้าเพื่อความอยู่รอด
อดีตนักข่าว เอเจนซี่ และฟรีแลนซ์ฝีมือเยี่ยม ที่นำประสบการณ์ร่วม 20 ปีมาถ่ายทอดคอนเทนท์และประเด็นข่าวในวงการยานยนต์ทั้งไทยและเทศในรูปแบบที่สดใหม่และแตกต่าง
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_relatedmodel_above_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678175456-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678175456-0'); });