5 จุดเด่น Honda XL750 Transalp ที่ใครคิดจะซื้อต้องอ่าน!

รีวิว 5 จุดเด่น Honda XL750 Transalp แอดเวนเจอร์ไบค์ที่ขี่ง่าย แถมราคาสบายกระเป๋า!

สำหรับรถแอดเวนเจอร์ไบค์สายลุยรุ่นล่าสุดจากค่ายปีกนกอย่าง Honda XL750 Transalp นั้นได้มีการเปิดตัวมาระยะเวลาหนึ่งแล้ว ซึ่งในประเทศไทยของเรานั้นได้มีการนำมาโชว์ตัวกันไปภายในงาน Motor Show 2023 ที่ผ่านมา และต่อมาจึงได้มีการประกาศราคาวางจำหน่ายตามมาภายหลัง ก่อนที่จะได้มีการส่งมอบรถให้ลูกค้าได้เมื่อช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา และทาง AutoFun Thailand ของเราเองก็ได้มีโอกาสได้ไปขับขี่ทดสอบมันกันมาแล้ว เราจึงอยากจะนำประสบการณ์ในการขับขี่ครั้งนี้มาบอกเล่าให้เพื่อน ๆ ฟัง เผื่อใครกำลังเล็งที่จะสอยเจ้า Honda XL750 Transalp คันนี้อยู่

• รูปลักษณ์ปราดเปรียว คล่องตัว
• ขุมพลังเครื่องยนต์คุมง่าย เป็นมิตร
• ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ครบครัน
• ช่วงล่าง และระบบเบรก
• สุดท้ายคือความคุ้มค่าคุ้มราคา

รูปลักษณ์ปราดเปรียว คล่องตัว

สิ่งแรกที่เราสัมผัสได้จาก Honda XL750 Transalp ครั้งแรกที่เห็นเลยก็คือตัวรถมาพร้อมรูปร่างที่ดูปราดเปรียว และมีมิติตัวรถที่ดูเล็กมาก ๆ ซึ่งนั่นทำให้ด้วยขนาดความสูงสำหรับคนเอเชียแบบเราสามารถขับขี่เจ้า Honda XL750 Transalp ได้อย่างมั่นใจเพราะมันมีขนาดความสูงของตัวเบาะเพียง 850 มม. เท่านั้น แถมด้วยน้ำหนักตัวเพียง 208 กก. นั่นทำให้เราสามารถควบคุม และบังคับเลี้ยวได้อย่างมั่นใจ

ไม่ว่าจะเป็นในเส้นทางออนโรดที่ต้องขับขี่มุดลัดเลาะภายในเมืองที่มีการจราจรหนาแน่น หรือจะเป็นเส้นทางออฟโรดที่มีทั้งหินลอย ทรายละเอียด หรือลำธาร และบ่อโคลนต่าง ๆ เราก็สามารถขยับถ่ายเทน้ำหนักเพื่อสร้างสมดุลบนตัวรถได้อย่างง่ายดายด้วยลักษณะของตัวเบาะแบบตอนเดียวที่เรียวยาวอย่างที่ใช้กันบนรถวิบากพิกัดเล็ก รวมไปถึงตัวแฮนด์บาร์ทรงกว้างที่ให้มาก็ยังมอบท่าทางการขับขี่ที่สะดวกสบายให้แก่เราอีกด้วย

ขุมพลังเครื่องยนต์คุมง่าย เป็นมิตร

มาต่อกันที่ขุมพลังเครื่องยนต์ของเจ้า Honda XL750 Transalp คันนี้ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์แบบ 2 สูบ ขนาด 755 ซี.ซี. ที่มาพร้อมขุมพลัง 90.5 แรงม้าที่ 9,500 รอบ/นาที พร้อมแรงบิด 75 นิวตันเมตรที่ 7,250รอบ/นาที ซึ่งกำลังของเครื่องยนต์บล็อกนี้เรียกว่ารอบต้นถึงกลางมีให้ใช้ ถึงแม้รอบปลายจะมาแบบไหล ๆ ค่อย ๆ ไต่ระดับความเร็ว แต่ก็ถือว่ามันสามารถตอบโจทย์การใช้งานได้เป็นอย่างดีทั้งในรูปแบบของการขับขี่ท่องเที่ยวสไตล์ทัวริ่ง และการขับขี่ในรูปแบบแอดเวนเจอร์ที่ต้องบุกป่าฝ่าดงตัวรถก็มีกำลังให้ใช้อย่างเพียงพอ

ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ครบครัน

สิ่งที่เราประทับใจอีก 1 อย่างบนตัวรถ Honda XL750 Transalp คันนี้นั่นก็คือโหมดการขับขี่ที่ตัวรถให้มาเรียกได้ว่ามันครบเครื่องมาก ๆ โดยตัวรถจะมาพร้อมโหมดการขับขี่ให้คุณได้เลือกใช้ถึง 5 โหมดด้วยกันคือ Standard โหมดที่เอาไว้ใช้สำหรับการขับขี่ทั่วไปหรือภายในเมืองซึ่งเครื่องยนต์จะมาแบบสมูทคุมง่ายสุด ๆ ต่อมาที่โหมด Sport ตัวรถจะปรับให้เครื่องยนต์มาพร้อมแรงม้าที่เต็มกำลัง และการตอบสนองของคันเร่งที่ฉับไว ตามมาด้วยโหมด Rain ที่เอาไว้ใช้ขับขี่ตอนฝนตก หรือถนนเปียกลื่นที่ตัวแทร็คชั่น และ ABS จะทำงานแบบเต็มระบบในโหมดนี้

ต่อมาคือโหมด Gravel หรือพูดง่าย ๆ มันคือโหมดออฟโรดที่ช่วยให้คุณสามารถขับขี่ในเส้นทางออฟโรดได้อย่างปลอดภัย โดยที่ตัวรถจะยอมให้คุณสไลด์ท้ายได้นิดหน่อยแต่ก็ไม่ล้นจนเกิดอันตราย แต่หากคุณอยากมันให้สุดเราแนะนำโหมด User ที่คุณสามารถปรับตั้งค่าการทำงานของตัวรถได้ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นพละกำลังเครื่องยนต์ แทร็คชั่นคอนโทรล แอนจิ้นเบรค หรือแม้แต่การเลือกเปิดปิด ABS ซึ่งแน่นอนว่าโหมดนี้จะช่วยให้คุณขับขี่ในแบบของคุณได้อย่างเต็มที่นั่นเอง ซึ่งเราพูดได้เลยว่าเส้นทางที่เราได้ใช้ขับขี่ทดสอบในครั้งนี้เราได้ใช้กันครบทุกโหมดเลยจริง ๆ ซึ่งเมื่อคุณเข้าใจโหมดการทำงานต่าง ๆ และเลือกปรับใช้ตามสถานการณ์เส้นทางที่คุณได้ขับขี่นั้นมันจะทำให้คุณขับขี่เจ้า Honda XL750 Transalp ได้แบบง่ายขึ้นเยอะเลยทีเดียว

ช่วงล่าง และระบบเบรก

สำหรับ Honda XL750 Transalp คันนี้มันมาพร้อมโช้คอัพแบบ Up Side Down ที่ด้านหน้าขนาดแกน  43 มม. จาก Showa ส่วนด้านหลังมาพร้อม Mono Shock แบบ Pro-Link ที่สามารถปรับตั้งค่าพรีโหลดได้ ในส่วนของระบบเบรกด้านหน้าตัวรถมาพร้อมจานดิสก์เบรกคู่ขนาด 310 มม. ที่ทำงานร่วมกับคาลิปเปอร์เบรกแบบ 2 พอร์ต ส่วนด้านหลังตัวรถให้มาเป็นจานดิสก์เดี่ยวขนาด 256 มม. ทำงานร่วมกับคาลิปเปอร์แบบ 1 พอร์ต พร้อมด้วยชุดล้อแบบซี่ลวดด้านหน้า 21 นิ้ว และด้านหลัง 18 นิ้ว

ซึ่งเชื่อไหมว่าถึงแม้สเปคที่ให้มาจะไม่ได้หวือหวาอะไรมาก แต่ของเดิมติดรถที่ให้มาก็เพียงพอให้คุณได้ขับขี่เจ้า Honda XL750 Transalp คันนี้ได้อย่างสนุกสนานมากแล้ว ซึ่งช่วงล่างที่ให้มาไม่ว่าจะเป็นทางดำ หรือทางฝุ่นมันก็สามารถรับแรงกระแทกได้เป็นอย่างดี ถึงแม้การขับขี่ด้วยความเร็วสูงบนทางดำภายในโค้งความเร็วสูงตัวรถจะมีอาการย้วยให้เห็นบ้างแต่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เพราะโดยภาพรวมแล้วทั้งในเส้นทางออนโรด และออฟโรดตัวรถสามารถทำออกมาได้ดีมากเลยทีเดียว และถือเป็นรถที่ขับขี่ได้อย่างสนุกมาก ๆ อีก 1 คัน ส่วนระบบเบรกนั้นของเดิมเอาอยู่แน่นอนเราลองมาแล้ว

สุดท้ายคือความคุ้มค่าคุ้มราคา

และสุดท้าย Honda XL750 Transalp คือรถมอเตอร์ไซค์ที่เราอยากจะบอกคุณว่า ถึงแม้มันจะไม่ได้มาพร้อมออฟชั่นที่หวือหวาอะไร หรือเพียบพร้อมไปด้วยเทคโนโลยีชั้นยอด แต่เชื่อเราเถอะของที่ให้มาบนตัวรถคันนี้มันเพียงพอ และของที่ให้มาทุกชิ้น ทุกโหมด ทุกออฟชั่นบนตัวรถคุณจะได้ใช้มันแบบทั้งหมดจริง ๆ ไม่ใช่เพียงแค่ยัดออฟชั่นมาให้ล้นไว้ก่อนผู้ขับขี่จะได้ใช้ไม่ได้ใช้ไม่รู้

แต่นี่คือทุกอย่างบนตัวรถถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใช้งานจริงในรูปแบบการขับขี่ประเภทต่าง ๆ ที่คุณจะต้องพบเจอ และด้วยเหตุที่ออฟชั่นของตัวรถไม่ได้ล้นนี่เองจึงทำให้ทาง Honda สามารถวางจำหน่าย Honda XL750 Transalp คันนี้ได้ในราคาที่ดีมาก ๆ โดยในรุ่นสีดำล้อดำจะมาพร้อมราคา 389,000 บาท และในรุ่นสีขาวล้อทองสุดฮิตจะมาพร้อมกับราคาที่สูงกว่าเล็กน้อยคือ 394,000 บาท และสุดท้ายนี้หากคุณกำลังมองหารถแอดเวนเจอร์ไบค์ที่มีราคาไม่สูงจนเกินไป แต่สามารถพาคุณออกไปท่องโลกกว้างได้อย่างอิสระในทุกเส้นทาง เราบอกได้เลยว่า Honda XL750 Transalp คันนี้จะไม่ทำให้คุณผิดหวังอย่างแน่นอน 

อ่านเพิ่มเติม : 2023 Honda XL750 Transalp เปิดตัวแล้ว

อ่านเพิ่มเติม : ลองขี่ Suzuki V-Strom 800DE แอดเวนเจอร์ไบค์พิกัดกลาง

อ่านเพิ่มเติม : ลองขี่ Aprilia Tuareg 660 แอดเวนเจอร์ไบค์พิกัดกลางที่กลมกล่อม ลงตัวในทุกมิติ