BMW (บีเอ็มดับเบิ้ลยู) ได้มีการเผยภาพอย่างเป็นทางการครั้งแรกของซีดานไฟฟ้าขนาดใหญ่ BMW i7 (บีเอ็มดับเบิ้ลยู ไอ7) ที่จะมาเป็นคู่แข่งในเซกเมนต์ซีดานสายหรูของ Mercedes-EQS (เมอร์เซเดส อีคิวเอส)

โดยตัวรถได้มีการปรับเปลี่ยนหน้าตามาใหม่ แต่ยังคงเอกลักษณ์เดิมไว้ในหลายจุด พร้อมมาเขย่ากระเป๋าเงินเหล่าผู้บริหารแน่นอน

กระจังหน้าใหญ่เหมือนเดิม

ด้านหน้าของ BMW i7 จะยังคงเอกลักษณ์กระจังหน้าทรงไตคู่ขนาดใหญ่เอาไว้ แต่มีการเปลี่ยนทรงไฟหน้าแบบแยกอันเรียวบาง คล้ายกับ BMW X7 (บีเอ็มดับเบิ้ลยู เอกซ์7) เจเนอเรชั่นใหม่ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้

ด้านล่างมีช่องดักลม พาดด้วยเส้นแบ่งกลางสีฟ้า พร้อมล้อลาย 5 ก้านใหม่ 

ส่วนด้านท้ายจะเปลี่ยนจากแถบไฟที่เคยพาดยาวซ้าย-ขวา มาเป็นแบบแยก จะเห็นได้ว่ามีการเล่นสีตัวรถด้วยสีฟ้าในจุดต่าง ๆ สื่อถึงความเป็นรถยนต์ไฟฟ้า มีช่องชาร์จไฟอยู่ด้านขวา มือจับถูกซ่อนอยู่ในประตูรถ

ของดีอยู่ภายใน

เรียกได้ว่าจุดเด่นจริง ๆ ของ BMW i7 นั้นจะอยู่ที่ภายใน สำหรับผู้ขับขี่จะมีจอโค้ง BMW Curved Display แบบใน BMW iX (บีเอ็มดับเบิ้ลยู ไอเอกซ์) ที่รวมหน้าจอความบันเทิงขนาด 12.3 นิ้ว เข้ากับหน้าปัดดิจิตอลขนาด 14.9 นิ้ว

นอกจากนี้ทั้งใน BMW i7 และ BMW 7-Series รุ่นเครื่องยนต์สันดาปใหม่ จะยังมีระบบ BMW Interaction Bar ที่ฝังตัวอยู่ที่แดชบอร์ดและแผงประตู ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นไฟห้องโดยสาร Ambient Light และสามารถเปลี่ยนสีเพื่อบอกสถานะต่าง ๆ เช่น ระบบเตือนการชน รวมถึงสายเรียกเข้า

สำหรับเบาะหนังเป็นแบบ Merino ที่สามารถเลือกได้ถึง 5 เฉดสี หรือสามารถเปลี่ยนเป็นหนังเทียม Veganza ได้โดยไม่ต้องจ่ายเพิ่ม เพราะหนัง Merino ต้องได้รับการดูแลค่อนข้างมาก

แต่ก็สามารถจ่ายเพิ่มเพื่อเอาออพชั่นเบาะหนังแคชเมียร์ได้ด้วย

จอ 31.3 นิ้ว

สิ่งที่หน้าสนใจที่สุด ก็คือหน้าจอหลังความชัดระดับ 8K ขนาด 31.3 นิ้ว BMW Theatre Screen ที่เป็นออพชั่นเสริมที่สามารถพับเก็บขึ้นบนหลังคาได้

โดยใช้ซอฟท์แวร์ Amazon Fire จากทีวี ทำให้สามารถใช้งานได้หลากหลาย 

นอกจากนี้ยังสามารถเลือกเสริมลำโพง 36 ตัว ระบบเสียงจาก Bowers & Wilkins Diamond กำลัง 2,000 วัตต์ แต่หากเอาตัวเลือกธรรมดาก็จะมีลำโพง 18 ตัว

ขุมกำลัง

สำหรับตัวรถนั้นจะมาด้วยรหัส xDrive60 มาพร้อมกับมอเตอร์คู่ ให้กำลังรวม 536 แรงม้า แรงบิด 745 นิวตันเมตร และกล่าวว่าในช่วงปี 2023 จะมีการเผยรุ่น i7 M70 ที่จะอัพพลังไปถึง 651 แรงม้า

ตัวรถสามารถเร่งจาก 0-100 กม./ชม.ได้ภายใน 4.7 วินาที ทำความเร็วสูงสุดที่ 239 กม./ชม. 

ตัวแบตเตอรี่นั้นมีขนาด 101.7 kWh วางใต้พื้นซึ่งทางผู้ผลิตกล่าวว่ามีความบางมากที่ 110 มม.

BMW คาดการณ์ระยะวิ่งของ BMW i7 ไว้ที่ประมาณ 590-625 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP ในสหรัฐอเมริกา แต่ก็ยังไม่เป็นที่แน่ชัด

ตัวรถมีอัตราการชาร์จ AC อยู่ที่ 11 kW ส่วน DC จะอยู่ที่ 195 kW ซึ่งจะทำให้สามารถชาร์จระยะ 160 กม.ได้ภายใน 10 นาที

และสำหรับลูกค้าในสหรัฐ จะได้รับการชาร์จฟรีเป็นเวลา 3 ปีที่ Electrify America

ราคาเริ่ม 4.7 ล้านบาท

BMW i7 จะมีให้เลือกเฉพาะความยาวฐานล้อเดียว มี 2 รุ่นให้เลือก คือ Excellence ราคา 107,400 ปอนด์ หรือ 4.7 ล้านบาท มาพร้อมกับล้อขนาด 19 นิ้ว

และ M Sport ราคา 111,900 ปอนด์หรือ 4.9 ล้านบาทพร้อมล้อขนาด 20 นิ้ว พร้อมการตกแต่งที่ด้านหน้าและหลัง

นอกจากนี้ยังสามารถเลือกแพคเกจ M Sport Pro ที่เพิ่มล้อเป็นขนาด 21 นิ้ว ตกแต่งสีดำรอบคัน เข็มขัดลายใหม่ รวมถึงมีการอัพเกรดเบรกด้วย

สำหรับประเทศไทย ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า BMW จะนำเข้ามาจำหน่ายในช่วงไหน หรือจะนำเข้ามาหรือไม่ แต่หากมาจริง เมื่อดูจากราคาของ BMW 745Le xDrive M Sport ที่เป็น PHEV ราคา 6,399,000 บาทแล้ว ก็อาจจะแพงขึ้นไปอีกก็เป็นได้