2024 Toyota Crown Sport เปิดตัวแล้วในญี่ปุ่น ในตัวถังที่มีความเป็นเอสยูวีมากขึ้น โดยตัวถังนี้เป็นหนึ่งในไลน์อัพของ Crown เจเนอเรชั่นใหม่ นับเป็นตัวถังที่สองที่อยู่ภายใต้ชื่อนี้ โดยยังใช้การขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ไฮบริดเช่นเคย
ดีไซน์แบบฉบับ Toyota แต่ต่างจากรุ่นครอสโอเวอร์
ดีไซน์ของ Crown Sport ดูน่าสนใจตั้งแต่ด้านหน้าที่ยังเป็นแบบ Hammerhead พร้อมไฟหน้ารูปตัว C ที่เข้ากับกระจังหน้าได้ดี แต่เมื่อดูในภาพรวมแล้วจะเห็นได้ว่ามีความแตกต่างกับรุ่นตัวถังครอสโอเวอร์ซีดานอยู่พอสมควร
ด้านข้างเราจะเห็นได้ว่า ดีไซน์ของ Crown Sport ทำให้ตัวรถดูเคลื่อนไหว แม้ตัวรถจะจอดนิ่งอยู่ก็ตาม เส้นสายของตัวรถนั้นดูมีทั้งความสนุกสนานและหรูหราอยู่ในตัว เมื่อมองลงมาด้านล่างจะพบถึงสเกิร์ตข้างที่ดูแข็งแรง ล้ออัลลอยขนาด 21 นิ้วเข้ากันกับซุ้มล้อได้เป็นอย่างดี ทำให้นึกถึงเอสยูวีจากอิตาลีค่ายหนึ่งเลยทีเดียว
Crown Sport มีความยาว 4,720 มม. กว้าง 1,880 มม. สูง 1,565 มม. และระยะฐานล้อ 2,770 มม. โดยในสเปคญี่ปุ่นมาสีภายนอกให้เลือกทั้งหมด 11 สี ประกอบด้วยสีโทนเดียว 6 สี และสีทูโทน 5 สี
ขุมพลังยังเป็นไฮบริด
ในเบื้องต้น Crown Sport จะมาพร้อมเครื่องยนต์ไฮบริด 4 สูบ ขนาด 2.5 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังรวมสูงสุด 231 แรงม้า มีอัตราสิ้นเปลืองอยู่ที่ 21.3 กม./ลิตร
เครื่องยนต์นี้อาจไม่ได้มีสมรรถนะที่ดีที่สุด แต่ Toyota กล่าวว่าขุมพลังนี้จะช่วยให้การขับขี่ในชีวิตประจำวันเป็นเรื่องง่ายและมีอัตราเร่งที่น่าประทับใจ ด้วยการขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ e-four ตามฉบับรถไฮบริดของค่าย
เมื่อมาดูที่รายละเอียดแล้ว Crown Sport นั้นอยู่บนพื้นฐานแพลทฟอร์ม TNGA-K เช่นเดียวกับ Camry และโครงสร้างตัวถังมีความแข็งแกร่งมากขึ้นด้วยการเชื่อมด้วยเลเซอร์ รวมถึงตัวถังถูกออกแบบมาให้ทนต่อแรงกระทำภายนอกมากขึ้น
ใน Crown รุ่นนี้ยังมาพร้อมระบบเลี้ยวล้อหลัง Dynamic Rear Steering ซึ่งช่วยในเรื่องความคล่องตัวที่ความเร็วต่ำและเพิ่มเสถียรภาพที่ความเร็วสูงและบนทางขรุขระ ช่วงล่างของรถถูกปรับแต่งพิเศษเพื่อทำให้ผู้ขับขี่ตอบสนองต่อตำแหน่งและพฤติกรรมบนถนนของรถได้อย่างเป็นธรรมชาติ
ภายในแบบหรูหรา แต่เพิ่มความสปอร์ตเล็กน้อย
ภายในห้องโดยสารมีความคล้าย Crown ตัวถังครอสโอเวอร์ที่เปิดตัวก่อนหน้านี้ แต่เน้นการตกแต่งที่สปอร์ต พร้อมตกแต่งด้วยโลหะ Warm Steel ให้สัมผัสที่พรีเมียม และการใช้หนังเทียม Softex สีดำ เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง และเบาะข้างคนขับ 4 ทิศทางเป็นมาตรฐาน ลูกค้าสามารถเลือกได้ระหว่างภายในสีดำหรือสีน้ำตาล
สิ่งอำนวยความสะดวกในรถมาพร้อมจอ Infotainment แบบสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay แบบไร้สายและ Android Auto พร้อม 4G Wi-Fi จอแสดงผล HUD Head-up display พร้อมสามารถอัปเดตแบบ over-the-air รวมถึงบนหลังคามีพาโนรามิคซันรูฟมาให้ด้วย
ระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense ก็มีมาให้อย่างครบครัน ได้แก่
- ระบบเตือนความปลอดภัยก่อนการชน (Pre-Collision System)
- ระบบช่วยควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Dynamic Radar Cruise Control -DRCC) แบบ All-Speed
- ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
- ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง Blind Spot Monitor (BSM)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อออกนอกเลน Lane Departure Alert (LDA)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางเลน Lane Trace Assist (LTA)
- ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Automatic High Beam)
เริ่ม 1.43 ล้านบาท
สำหรับราคาของ Toyota Crown Sport ในญี่ปุ่นนั้นเริ่มต้นที่ 5,900,000 เยนหรือประมาณ 1.43 ล้านบาท ซึ่งมากกว่ารุ่นครอสโอเวอร์ซีดานเล็กน้อยเมื่อเทียบในตลาดเดียวกัน และพร้อมส่งมอบรุ่นไฮบริดครั้งแรกในเดือน พ.ย. นี้
นอกจากนี้ ในอนาคตจะมี Crown อีก 3 รุ่นที่รอเปิดตัวในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า แต่จะเริ่มที่ Crown Sport ขุมพลัง PHEV ก่อนในธันวาคมนี้ ส่วน Crown ตัวถังซีดานจะเผยโฉมในเดือน พ.ย. นี้ และ Crown ตัวถังวากอนคาดว่าจะถูกเผยโฉมก่อนหมดสิ้นปีนี้
อ่านเพิ่มเติม: 2023 Toyota Crown เปิดตัวด้วย 4 ตัวถัง รับความต้องการที่หลากหลาย ในขุมพลังไฮบริดใหม่