- มิติตัวถังที่เกือบใหญ่สุดในคลาส
- เครื่องยนต์ที่เป็นรองแค่ Honda BR-V
- ช่วงราคาที่ครอบคลุมทุกความต้องการ
- รุ่น 6 ที่นั่ง หนึ่งเดียวในคลาส
- ประโยชน์ใช้สอยครบครัน
- ระบบความปลอดภัยครบครัน ในรุ่นท็อป
2023 Hyundai Stargazer (2023 ฮุนได สตาร์เกเซอร์) เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยแล้ว โดยมีราคาอยู่ระหว่าง 769,000 - 909,000 บาท ซึ่งดูแล้วอาจจะราคาสูงไปสักหน่อยสำหรับการเป็นแบรนด์รอง
แต่เมื่อลองดูดี ๆ แล้ว ทั้งหน้าตา อุปกรณ์ที่ให้มานั้นถือว่าครบครัน และมีบางอย่างที่เหนือกว่าคู่แข่ง หากลองเทียบในภาพรวมแล้ว จะมีอะไรที่สูสีเทียบเท่า หรือมีอะไรที่เหนือกว่าคู่แข่งบ้างไหมนะ?
กว้างสุด ฐานล้อยาวสุด แต่เตี้ยสุดในคลาสเช่นกัน
2023 Hyundai Stargazer มีความยาว 4,460 มม. กว้าง 1,780 มม. สูง 1,695 มม. ระยะฐานล้อ 2,780 มม. โดยเมื่อเทียบความยาวของรถอาจจะเท่า ๆ กัน แต่ความกว้างและฐานล้อของรถถือว่ามากที่สุดในคลาส
แต่ความสูงของรถนั้นอยู่ที่ 195 มม. ถือว่ามีพื้นที่ใต้ท้องรถต่ำสุดในคลาส เพราะคู่แข่งอยู่ในหลัก 200 มม. ขึ้นไปทั้งนั้น
เครื่องยนต์เกือบแรงสุดในคลาส
ขุมพลังของรถคันนี้เป็นเครื่องยนต์ Smartstream เบนซิน 4 สูบ 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 115 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 144 นิวตันเมตร ระบบส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติแปรผันต่อเนื่อง IVT ขับเคลื่อนล้อหน้าเท่านั้น มีโหมดการขับขี่ 2 แบบคือ Eco และ Sport
หากมองจากสเปกและเมื่อเทียบกับคู่แข่งแล้วไม่ได้ความโดดเด่นเท่าไหร่ โดยเป็นรองเพียงรุ่นที่แรงสุดอย่าง Honda BR-V เท่านั้น
ราคาอยู่กลางตาราง ครอบคลุมทุกความต้องการ
สำหรับราคาของ Stargazer นั้นอยู่ระหว่าง 769,000 - 909,000 บาททำให้รถคันนี้มีช่วงราคากว้าง แต่ก็ยังอยู่ตรงกลาง ไม่มีรุ่นไหนที่ราคาโดดกว่าคู่แข่ง เมื่อลองเทียบกับคู่แข่งที่ค่าตัวแพงที่สุดอย่าง Honda BR-V ที่ 973,000 บาท และที่ต่ำสุดอย่าง Suzuki XL7 ที่ 814,000 บาท
และด้วยช่วงราคาที่กว้าง ทำให้มีโอกาสที่จะครอบคลุมความต้องการผู้บริโภคมากขึ้น เพราะบางคนอาจต้องการเพียงรถ 7 ที่นั่งรุ่นเริ่มต้นที่ไม่ต้องมีออพชั่นอะไรมากมายก็ได้
รุ่น 6 ที่นั่ง หนึ่งเดียวในคลาส
สำหรับ 2023 Hyundai Stargazer รุ่นท็อป ทั้ง Smart 6 และ Smart 6 Black Roof นั้นจะมาพร้อมเบาะ 3 แถว 6 ที่นั่ง โดยแถวที่ 2 ตรงกลางจะเป็น Captain Seat เพิ่มความสะดวกสบายเมื่อเดินทางไกล อีกทั้งยังเหมาะกับผู้ใหญ่อีกด้วย
ส่วนในรุ่นอื่น ๆ จะเป็นเบาะ 3 แถว 7 ที่นั่ง ซึ่งให้ความสะดวกสบายไม่แพ้กัน เพราะเบาะทุกที่นั่งของรถคันนี้สามารถปรับเอนได้
ประโยชน์ใช้สอยครบครัน
สำหรับภายในของ Stargazer มีออพชั่นเด่นคือ มาตรวัดดิจิทัล TFT ขนาด 4.2 นิ้ว ได้จออินโฟเทนเมนท์กลางขนาด 8 นิ้ว ยังมีระบบ Hyundai Bluelink และไฟตกแต่งภายในห้องโดยสาร แท่นชาร์จไร้สาย ช่องเสียบ USB สำหรับแถว 1 และ 2 และมี Power Outlet บริเวณเบาะแถว 3
และยังมีช่องเก็บของซ่อนอยู่ภายในรถมากมาย เช่น คอนโซลด้านหน้า คอนโซลกลาง ที่วางแก้วมีให้ทุกที่นั่ง รวมถึงยังมีถาดวางของหลังที่นั่งผู้โดยสารและที่เก็บของหลังเบาะคนขับ
นอกจากนี้ เบาะนั่งแถวที่ 2 และ 3 สามารถพับได้หลากหลาย เช่น การพับเรียบทั้งหมดหรือ 60:40 เพื่อเก็บสัมภาระ เบาะแถวที่ 2 ยังสามารถพับม้วนไปเพื่อการเข้า-ออกแถวที่ 3 ได้สะดวกขึ้นด้วย
ระบบความปลอดภัยครบครัน แต่ต้องรุ่นท็อป
สำหรับความปลอดภัยของ 2023 Hyundai Stargazer 2 รุ่นล่าง Trend และ Style จะมาพร้อมถุงลมนิรภัย 2 ตำแหน่ง ISOFIX ระบบ ABS ESC และ HAC
แต่ในรุ่นท็อปอย่าง Smart 7 และ Smart 6 จะมีถุงลมนิรภัยเพิ่มขึ้นเป็น 6 ตำแหน่ง และมีระบบความปลอดภัยเพิ่มขึ้น โดยเรียกว่าแพ็คเกจ Hyundai SmartSense ดังนี้
- ระบบเตือนและเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ
- ระบบป้องกันการชนด้านหน้า
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางเลน
- ระบบเตือนและช่วยควบคุมพวงมาลัยเมื่อมีรถในมุมอับสายตา
- ระบเตือนและเบรกอัตโนมัติขณะถอยรถ
- ระบบควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ
- ระบบเตือนการเปิดประตูเมื่อมีรถวิ่งมาด้านข้าง
- ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้า
การเข้ามาของ 2023 Hyundai Stargazer ถือว่าทำให้ตลาด MPV ขนาดเล็ก 7 ที่นั่งดุเดือดขึ้นไปอีก โดยเฉพาะหลังจากนี้ที่บริษัทแม่ของฮุนไดจะมาทำตลาดในไทยด้วยตนเอง เราจะได้เห็นรถจากค่ายเกาหลีบนท้องถนนเมืองไทยมากขึ้นเป็นแน่
อ่านเพิ่มเติม: เปิดราคา 2023 Hyundai Stargazer เริ่มต้น 769,000 - 909,000 บาท มี 4 รุ่นย่อย ขายโดยบริษัทแม่มาเอง