Fast Auto Show 2023 งานมหกรรมงานแสดงรถยนต์ปีนี้ ครบเครื่องเรื่องรถยนต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดช่วงกลางปี รวมภาพไฮไลท์รถในงานครบทุกบูธที่นี่

Mitsubishi โชว์ต้นแบบกระบะ Triton

ว่าที่รถกระบะ Mitsubishi Triton รุ่นใหม่ ถูกเปิดเผยโฉมหน้าในงานนี้ ยังเป็นรถต้นแบบ XRT Concept ที่หุ้มด้วยสติ๊กเกอร์ลายพรางเหมือนกับรถต้นแบบที่เคยโชว์ตัวมาก่อนหน้านี้ โดยมีการเปิดไฟโชว์เส้นเดย์ไลท์ และพบว่ามีไฟเลี้ยวอยู่รวมกับกรอบไฟหน้า แยกส่วนจากเส้นไฟ DRL อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีรถกระบะ Triton รุ่นปัจจุบันมาจอดให้ทุกคนได้จองกัน โดยมีรถส่งมอบได้ทันที พร้อมด้วยรถเก๋ง Attrage และมินิแวน Xpander ที่มีการปรับโฉมใหม่เมื่อไม่นาน

Honda เปิดตัว City Minorchange

ในบูธฮอนด้าที่งานนี้ ต้องยกเวทีให้กับ 2023 Honda City (2023 ฮอนด้า ซิตี้) โฉมไมเนอร์เชนจ์ใหม่ เพิ่มรุ่นย่อยไฮบริด ปรับปรุงรูปลักษณ์ภายนอก ตรงกันชนหน้าและกันชนหลังดีไซน์ใหม่ กระจังหน้าลายใหม่ มีคิ้วโครเมียมขนาดเล็กลง

ไฮไลท์เป็นของรุ่น RS เน้นความสปอร์ตด้วยกันชนหน้า กันชนหลัง สเกิร์ตข้าง สปอยเลอร์หลัง ล้ออัลลอยแบบทูโทนสไตล์สปอร์ตขนาด 16 นิ้ว และกระจังหน้าสไตล์สปอร์ตแบบ RS เปิดขายแล้วด้วยราคา 629,000 - 839,000 บาท

Toyota โชว์รถครบทุกรุ่น

บูธโตโยต้ามีความเด่นสุดอยู่ที่ 2023 Toyota Yaris (2023 โตโยต้า ยาริส) ที่เพิ่งไมเนอร์เชนจ์ไปแล้ว นอกจากนี้ยังมีรถเก๋ง มินิแวน และกระบะ มาจอดพร้อมขายแทบทุกรุ่นประกอบด้วย Yaris Ativ, Corolla Altis, Camry, Hilux Revo, Fortuner แต่ยังไม่มีวี่แววของ Innova Zenix ที่กำลังจะเปิดตัววันที่ 19 เดือนนี้

Mazda จัดอีโค่คาร์พร้อมขาย

มาสด้าในงาน Fast Auto Show คราวนี้มีจุดเด่นตรงที่ 2023 Mazda 2 (2023 มาสด้า 2) โฉมไมเนอร์เชนจ์ ที่เปลี่ยนด้านหน้าใหม่ ประกอบด้วยกระจังหน้ารังผึ้ง Mesh Grille ดีไซน์ใหม่ มีการตกแต่งที่เพิ่มความสปอร์ตด้วยกระจกมองข้างและหลังคาสีดำ และมาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้วดีไซน์ใหม่  ส่วนในรุ่น Clap Pop จะมาพร้อมความสปอร์ตสุดคูล ประกอบด้วยกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ กระจกมองข้างและฝาครอบล้อสีขาว Ceramic Metallic กระจังหน้าสีขาวและหลังคาสีขาว และยังมีสติ๊กเกอร์ดีไซน์พิเศษ Clap Pop สำหรับรถรุ่นนี้โดยเฉพาะ

Mazda 2 ไมเนอร์เชนจ์ มีให้เลือกทั้งหมด 5 รุ่นย่อยมาตรฐาน ทั้งในรุ่นตัวถังซีดาน 4 ประตู และแฮทช์แบ็ค 5 ประตู ขายแล้วด้วยราคา 599,000 - 647,000 บาท

MG นำโดย Maxus 9

MG (เอ็มจี) เน้นความเป็นผู้นำทางด้านรถยนต์ไฟฟ้า ด้วยการโชว์รถยนต์พลังมอเตอร์และไฮบริด นำโดย Maxus9, MG4, MG VS เป็นดาวเด่นในการขาย พร้อมด้วยโปรโมชั่นของรุ่น VS ได้ดอกเบี้ย 0% 48 เดือนแล้ว นอกจากนี้ยังมีรุ่น HS และ MG5 ให้สัมผัสตัวจริง แต่ในงานนี้ยังไม่มีรุ่น MG EP และ ES ให้ลอง 

Isuzu X-series แต่งจากโรงงาน

Isuzu (อีซูซุ) ในงานนี้มีรถกระบะ Isuzu D-Max รุ่นแต่ง X-series กับรถอเนกประสงค์ MU-X รุ่นแต่ง Active เป็นรถชูโรงพร้อมขายในงานนี้ นอกจากนี้ยังมีรถต้นแบบแข่งแรลลี่แต่งยกสูง ด้วยคอนเซปต์ Master of All Roads เช่นเดียวกับรถที่ใช้ในการถ่ายทำ “Isuzu V-Cross 4×4 Master of All Roads…ลุย! ท้าโลก” นำมาโชว์ตัวเป็นรถกระบะหนึ่งเดียวในงานนี้ที่แต่งแนวออฟโรด

BYD โชว์ตัว Dolphin

ในงาน Fast Auto Show 2023 ยังมีรถยนต์ไฟฟ้าอย่าง BYD Dolphin สเปคพวงมาลัยขวา พร้อมเปิดให้จองรุ่น Standard Range ในราคาคาดการณ์จำหน่าย 799,999 บาท โดยมีตารางผ่อนจากตัวแทนจำหน่ายออกมาแล้ว ส่วนรถยนต์ก็เปิดให้ลองนั่งกันอย่างจุใจแล้ว นอกจากนี้ยังมีรถมินิแวนรุ่น E6 ยังขายในราคา 1,199,000 บาท และรถตู้เพื่อการพาณิชย์รุ่น T3 ขายราคา 999,000 บาท

Mercedes-Benz มีรุ่นหรูสุดและไฟฟ้ามาโชว์

ค่ายดาวสามแฉกนำรถหรูสุดขีดมาจอดให้จองกันแล้ว กับรุ่น Mercedes-Maybach S560 ในราคา 9.88 ล้านบาท และรุ่น S560 4Matic ตัวท็อปราคา 18.3 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังมีรถยนต์ไฟฟ้ามาขายครบทุกรุ่นในไทย ประกอบด้วย Mercedes-EQS ในราคา 7.2 - 8.57 ล้านบาท และ Mercedes-EQB ขายราคา 3.02 ล้านบาท

Volvo โชว์ EV ราคาย่อมเยา

Volvo XC40 Single Motor เปิดตัวมาได้ไม่นาน ก็รับจองด้วยราคา 1.99 ล้านบาท และรุ่น C40 Recharge Single Motor ราคา 2,090,000 บาท ส่วนคันที่นำมาโชว์เป็นตัวมอเตอร์คู่ XC40 ราคา 2.69 ล้านบาท และ C40 ราคา 2.79 ล้านบาท เป็นการนำเข้าจากจีนทั้งคัน ส่วนรุ่น EX30 กำลังจะมาไทยในเดือนกันยายนปีนี้ นอกจากนี้ยังมีโซนวอลโว่มือสอง Volvo Selekt ให้เลือกซื้ออีกด้วย

Subaru จัดโปรแรงดอกเบี้ย 0%

Subaru Forester 2.0 IL Eyesight 4.0 ราคาพิเศษเพียง 1,290,000 บาท ส่วนโฉมก่อนไมเนอร์เชนจ์ยังมีโปรล้างสต็อคด้วยการให้ดอกเบี้ย 0% นาน 60 เดือนกันเลยทีเดียว

ส่วนทางด้านรถสปอร์ต Subaru BRZ ก็มาขายด้วยรุ่นย่อย 2.4 A/T Eyesight ราคา 2,849,000 บาท รีบคว้าไว้ ก่อนที่จะถูกปรับราคาจำหน่ายขึ้นอีกในอนาคต

ทดลองขับ EV

นอกจากนี้ยังมีบูธ EV ประกอบด้วย EVme, PTT EV Charger สาธิตการให้บริการสถานีอัดประจุไฟฟ้าจาก ออน-ไอออน, บริการสลับแบตเตอรี่มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าจาก Swap & Go  และ OR ได้เตรียม EV Station PluZ จำลองสถานีบริการชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า อีกทั้งยังมีสนามทดลองขับ EV อีกหลายรุ่นที่มีขายในไทยด้วย

Fast Auto Show Thailand เริ่มแล้วตั้งแต่วันนี้ - 10 ก.ค นี้ ที่ศูนย์แสดงสินค้า BITEC บางนา

อ่านเพิ่มเติม : ลองขับและนั่งรถไฟฟ้าลงสนามกับ Volvo Electrify Your Driving Experience ทั้ง C40 และ XC40