- การแข่งขันเครื่องเสียงรถยนต์ระหว่างค่ายรถ
- แบรนด์ที่มีชื่อเสียง ไม่ได้แปลว่าดีเสมอไป
- เชื่อในหูของตัวเอง
เทคโนโลยีในรถยนต์สมัยนี้มีมากมายจนเราแทบจะมองข้ามระบบเสียงภายในรถ แต่สำหรับผู้ที่รักในเสียงดนตรี การฟังเพลงในรถถือเป็นการหลีกหนีจากความวุ่นวายต่าง ๆ ของโลกภายนอก นอกเหนือจากการฟังเพลงในบ้าน
และการฟังเพลงในรถพร้อมกับเสียงของยางบดถนนระหว่างเดินทางนั้นก็เป็นบรรยากาศที่ดีกว่านั่งอยู่กับที่เป็นไหน ๆ
ผู้ผลิตรถยนต์ต่างพัฒนาเครื่องเสียงภายในรถให้ดีจนเราไม่แทบจะต้องไปติดตั้งอะไรเพิ่มเติม แม้การติดตั้งเครื่องเสียงเพิ่มเติมจะทำใหเราได้เสียงที่เราพอใจ แต่นั่นก็ทำให้เรามีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม และเราอาจมีปัญหาเมื่อเราเข้าเช็คระยะกับศูนย์บริการ
ทั้งหมดที่เราจ่ายไปอาจทำให้คุณภาพเสียงเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย คล้ายกับการจูนเครื่องยนต์ แล้วคุณภาพเสียงที่ได้มากับเงินที่เสียไปจะคุ้มกันไหมนะ
การแข่งขันเครื่องเสียงรถยนต์ระหว่างค่ายรถ
หากเราไม่ต้องการไปติดเครื่องเสียงอะไรเพิ่มเติม ทางเลือกของเราก็มีเพียงระบบเครื่องเสียงที่ติดรถยนต์มาแล้ว หรือแบบพรีเมียมที่เป็นออพชั่นหรืออยู่ในรุ่นที่สูงกว่า
ระบบเสียงแบบพรีเมียมมักจะทำงานได้ดีกว่าแบบมาตรฐานที่ติดรถ เนื่องด้วยจำนวนของลำโพงและกำลังขับของแอมป์(วัตต์)
ในรถแบรนด์หรูหลาย ๆ แบรนด์ มักแข่งขันกันด้วยจำนวนของลำโพงและกำลังขับของแอมป์อันมหาศาล แต่การที่มีจำนวนลำโพงและกำลังขับที่มากกว่าไม่ได้แปลว่าจะมีประสิทธิภาพที่ดีเสมอไป
ยกตัวอย่างเช่น ในระบบเสียง Mark Levinson ของ Lexus LS เจเนอเรชั่นล่าสุด ด้วยลำโพง 16 channel แอมพลิไฟเออร์กำลังขับ 2,400 วัตต์ พร้อมด้วยลำโพง 23 ตัว ใน 16 ตำแหน่งภายในรถ
แต่ลำโพงของ Acura TLX(เซกเมนต์เดียวกับ BMW 3-Series) ที่มีเพียง 17 ตัว และกำลังขับเพียง 710 วัตต์ ก็ให้ประสิทธิภาพที่ดีกว่าระบบเสียงที่มีกำลังขับหรือมีจำนวนลำโพงมากกว่าอยู่หลายรุ่น
อย่าไขว้เขวกับแบรนด์
สิ่งหนึ่งที่ทำให้เราไขว้เขวสำหรับคุณภาพของเครื่องเสียงในรถที่เราเลือกก็คือ ยี่ห้อบนลำโพงของเครื่องเสียงนั้น การมียี่ห้อของเครื่องเสียงที่เราชอบอาจไม่ได้แปลว่าจะมีระบบเสียงที่ดี
ผู้ผลิตรถยนต์ต่างร่วมมือกับแบรนด์เครื่องเสียงชั้นนำมากมาย เช่น Burmeister ใน Mercedes-Benz, Meridian ใน Jaguar-Land Rover หรือ Mark Levinson ใน Lexus
แต่ความลับของเครื่องเสียงติดรถเหล่านี้คือ ส่วนประกอบต่าง ๆ เช่น แอมพลิฟายเออร์นั้นนำมาจากผู้ผลิตหลายราย เช่น ระบบเสียง Bang & Olufsen อาจมาจากซัพพลายเออร์หลายราย เช่น Alpine หรือ Panasonic
ขณะที่ Bose ได้คิดค้นแบรนด์ด้วยตัวเองมากว่า 40 ปี แต่ก็ได้คำวิจารณ์ที่ไม่ดีจากชาวออดิโอไฟล์ว่า ถ้าเป็น Bose จะไม่มีเสียงย่านแหลมและย่านต่ำ แต่ระบบเสียง Bose ที่ดีที่สุดก็สามารถเทียบได้กับแบรนด์ชั้นนำอื่น ๆ และแม้จะเป็นรถค่ายเดียวกันแต่ระบบเสียงของ Bose ในรถแต่ละรุ่นก็อาจแตกต่างกันได้เช่นกัน
ตำแหน่งการวางลำโพง และคุณสมบัติด้านเสียง
นอกเหนือจากสเปคและยี่ห้อแล้ว เราต้องคำนึงว่าระบบนั้นติดตั้งมาอย่างไร ในสมัยก่อน ผู้ที่ชื่นชอบในเครื่องเสียงรถยนต์นั้นไปไกลมากถึงขนาดปรับเปลี่ยนภายในรถใหม่ บางคนนำลำโพงไว้ตรงกลางคอนโซล นำทวีตเตอร์หรือนำซัพวูฟเฟอร์มาไว้ที่แผงประตูด้านหน้าเพื่อคุณภาพเสียงที่ดีขึ้น
แต่ในปัจจุบัน ลำโพงที่อยู่ตรงกลางคอนโซล หรือทวีตเตอร์ที่แผงข้างประตูกลายเป็นสิ่งที่เป็นมาตรฐานไปแล้ว เช่น Lincoln ทีมีวูฟเฟอร์ที่ด้านหน้าเพื่อเสียงเบสที่ต่อเนื่องมาจากด้านหลัง
หรือผู้ผลิตรถยนต์อย่าง Land Rover ที่มีลำโพงอยู่ตรงด้านบนหลังคาเพื่อให้แต่ละที่นั่งได้รับคุณภาพเสียงที่ดีขึ้น บางค่ายก็นำลำโพงไว้ที่พนักพิงศีรษะ เช่น Nissan บางรุ่น
นอกจากนี้ ยังต้องหาว่าระบบเสียงของรถมีซอฟท์แวร์ที่ช่วยปรับแต่งเสียงหรือไม่ หลายระบบใช้การประมวลผลสัญญาณ(Signal Processing)เพื่อปรับแต่งมิติเสียงให้เข้ากับภายในห้องโดยสาร
โดยสามารถเลือกได้ว่าจะเน้นไปที่ผู้ขับขี่ คนนั่งด้านหน้า หรือผู้โดยสารในรถทุกคน แม้มันจะสามารถทำให้เสียงดูดีขึ้น แต่เราก็สามารถปิดมันได้หากต้องการเสียงจริง ๆ จากลำโพง
นอกจากการปรับแต่งมิติของเสียงแล้ว เรายังสามารถปรับเสียงในย่านต่าง ๆ โดยการปรับ EQ ซึ่งมีหลายค่ายที่ทำ EQ เป็นแบบกราฟฟิก เช่น BMW
เชื่อในตัวเอง
สุดท้ายแล้วสิ่งที่เชื่อถือได้มากที่สุดก็คือหูของตัวเอง เราไม่ต้องคำนึงถึงซาวด์สเตจ หรือเสียงในย่านต่าง ๆ ให้เราลองไปที่ตัวแทนจำหน่ายรถเพื่อลองฟังระบบเสียงที่เหมาะกับเรามากที่สุด
วิธีในการวัดผลที่ดีที่สุดก็คือ ใช้เพลงเดียวกันจากแหล่งที่มาเดียวกัน และลองเปรียบเทียบกัน เหมือนที่นักรีวิวเขาทำกัน หากเราต้องเพิ่มเงินสำหรับระบบเสียงแพงขึ้น เราก็ควรเสียเวลาสักหน่อยเพื่อลองฟังว่ามันคุ้มกับที่ต้องจ่ายไหม?
หากเราไม่ได้เน้นคุณภาพของเสียงมาก เราอาจใช้แหล่งที่มาจากระบบสตรีมมิ่งทั่วไปได้ แต่หากเราต้องการเสียงคุณภาพที่สุดเท่าที่จะหาได้ ให้ใช้ไฟล์ที่ตัวเองเตรียมมาเองใส่ใน USB หรือแผ่น CD(ถ้ายังมีช่องใส่อยู่นะ) หรือระบบสตรีมมิ่งคุณภาพสูงก็มีมากมาย เช่น Tidal
เวลาที่ใช้บนท้องถนนวันหนึ่งอาจมีหลายชั่วโมง เครื่องเสียงในรถที่เหมาะกับเราก็อาจพอบรรเทาความวุ่นวายของการจราจรภายนอกได้บ้าง...
อ่านเพิ่มเติม : กระจกกันเสียง ที่หลายคนมองข้าม เผยชื่อวัสดุที่ซ่อนอยู่ ใส่แล้วคนในรถจะได้ยินไซเรนไหม?