Nio ได้รับเงินอัดฉีดจากรัฐบาลท้องถิ่น กับธนาคารที่มีรัฐเป็นเจ้าของ ช่วยให้ขายรถได้ในราคาถูกจนขาดทุน เพื่อให้คนหันมาซื้อสินค้าจีนแทนรถยุโรป
สหภาพยุโรปได้เปิดการสอบสวน Nio ผู้ผลิตรถยนต์ของจีน ว่าได้รับความช่วยเหลือจากรัฐซึ่งทำให้พวกเขาได้เปรียบอย่างไม่ยุติธรรมกว่าผู้ผลิตรถยนต์ของชาติตะวันตกหรือไม่
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_fourthp_under_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678191139-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678191139-0'); });
ขาดทุนทุกคันที่ขาย
ขณะเดียวกันมีรายงานใหม่ใน New York Times เผยให้เห็นอย่างชัดเจนถึงความได้เปรียบของบริษัทจีนในเรื่องการกำหนดราคารถยนต์ ตัวเลขที่น่าตกใจในรายงานนี้ก็คือ Nio ขาดทุน 35,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ จากรถยนต์ทุกคันที่ผลิตขึ้นมา ไม่น่าแปลกใจเลยที่ผู้ผลิตรถยนต์ในยุโรปและ EU มีความกังวล
อเมริกามีกำแพงภาษี
ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติอเมริกันได้รับการปกป้องในระดับหนึ่งในตลาดบ้านเกิดของตนจากการแข่งขันกับรถจีนด้วยภาษีนำเข้า แต่ถ้าบริษัทรถยนต์ของจีนอย่าง Nio ยอมสูญเสียเงินจำนวนนั้นได้ต่อไปเรื่อย ๆ จะทำให้ธุรกิจรถอเมริกันน่าเป็นห่วงเหมือนกับที่พันธมิตรในยุโรปเป็นห่วงมาก่อนแล้ว
รัฐบาลจีนหนุนเงิน
นิวยอร์คไทมส์รายงานว่า การมีรัฐบาลจีนสนับสนุนช่วยให้ Nio เติบโตต่อไปได้แม้จะสูญเสียเงินก็ตาม โดยระบุว่าเมื่อ Nio ใกล้จะหมดเงินสดในปี 2020 รัฐบาลท้องถิ่นอัดฉีดเงิน 1 พันล้านดอลลาร์เพื่อถือหุ้น 24 เปอร์เซ็นต์ในบริษัท และได้รับการเติมเงินเพิ่มอีก 1.6 พันล้านดอลลาร์จากกลุ่มธนาคารที่ควบคุมโดยรัฐ
ต้นทุนค่าแรงต่ำ
บริษัทอย่าง Nio สามารถสร้างรถยนต์โดยใช้เงินลงทุนน้อยกว่าแบรนด์ตะวันตก โดยเฉพาะอย่างยิ่งค่าแรงคนงานโดยเฉลี่ยในโรงงานผลิตรถยนต์ในจีนมีรายได้ 30,000 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นแค่เพียง ¼ ของรายได้และสวัสดิการของคนงานรถยนต์ในอเมริกัน และเมื่อนักวิจัยทำการรื้อ BYD Seal โดยพบว่าต้นทุนในการผลิตจะน้อยกว่า VW ID3 ที่ผลิตในยุโรปอย่างน้อย 35 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ บริษัทจีนยังเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีแบตเตอรี่อีกด้วย
การบุกที่น่ากลัว
สื่อบางสำนักเปรียบเทียบการบุกตลาดรถจีนครั้งนี้ เหมือนกับสมัยรถจักรยานยนต์ญี่ปุ่นบุกตลาดโลกเมื่อยุค 1960 และครองตลาดได้สำเร็จในยุค 1970 เหตุการณ์บุกตลาดเช่นเดียวกันนี้จะกลับมาอีกครั้งในวงการรถยนต์ และครั้งนี้มีรัฐบาลจีนหนุนหลังอีกด้วย จึงเป็นเรื่องที่ค่ายรถตะวันตกควรกังวล
อ่านเพิ่มเติม : Nio ใช้เวลาแค่ 4 ปี ผลิตและขายรถถึง 2 แสนคันได้อย่างไร
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_relatedmodel_above_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678175456-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678175456-0'); });