การศึกษาที่น่าสนใจแสดงให้เห็นว่าเจ้าของ EV จำนวนมากไม่ได้ยึดติดกับแนวคิดเรื่องการใช้ EV เพียงอย่างเดียว
ยกเว้นเจ้าของ Tesla
การวิจัยจาก S&P Global Mobility ในอเมริกาพบว่า เจ้าของ EV ไมได้สนใจรถพลังไฟฟ้าอย่างเดียวเท่านั้น จริงๆ แล้ว เกือบครึ่งหนึ่งของครอบครัวที่เป็นเจ้าของ EV จะซื้อรถยนต์สันดาปภายในเป็นลำดับถัดไป ยกเว้นเจ้าของ Tesla (เทสลา)
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_fourthp_under_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678191139-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678191139-0'); });
ซื้อเป็นคันที่ 2 ของบ้าน
การศึกษาเก็บข้อมูลจนถึงเดือนกรกฎาคมปีนี้ เผยให้เห็นว่าครอบครัวที่ใช้ EV จากแบรนด์รถตลาดแมสชื่อดังต่าง ๆ มีความยึดมั่นในรถพลังไฟฟ้าอยู่ที่ 52.1% ผู้วิจัยตั้งข้อสังเกตว่า ข้อมูลนี้ไม่ได้หมายความว่า EV ที่เหลือจำนวน 47.9% จะถูกแทนที่ด้วยรถสันดาปแต่อย่างใด แต่การซื้อรถใหม่ครั้งต่อไป อาจซื้อรถสันดาปเป้นคันที่ 2 หรือ 3 ของบ้านต่อไป
ลูกค้า Nissan Leaf จงรักภักดีมาก
สถาบัน S&P Global Mobility แยกสถิติรถยนต์แต่ละรุ่นพบว่า เจ้าของรถไฟฟ้ายี่ห้อ Nissan (นิสสัน) จำนวน 63.2% จะซื้อ EV อีกเป็นรถคันต่อไป ไม่ใช่ยี่ห้อนิสสันเหมือนเดิม แต่เป็น Tesla Model Y ส่วนผู้ใช้ Nissan Leaf ส่วนน้อยที่คิดกลับไปใช้รถเครื่องสันดาป กลับยึดมั่นในยี่ห้อนิสสัน เช่นรุ่น Sentra, Altima, Rouge
ตลาดแมสไว้ใจสันดาป
ส่วนแบรนด์เชพโรเล็ตพบว่าเจ้าของ Chevrolet Bolt EV รุ่นยอดฮิตในสหรัฐ ฯ มีจำนวนคนยึดมั่นในรถไฟฟ้า 60.7% ส่วนที่เหลือจะซื้อเชพโรเลตเครื่องสันดาปใช้เป็นคันถัดไป ไม่ได้จำกัดแค่ SUV หรือรถกระบะของยี่ห้อเชพโรเลตเท่านั้น
ทางด้านเจ้าของรถ Ford Mustang Mach-E จำนวน 37.3% เท่านั้นที่จะซื้อรถยนต์ไฟฟ้าเป็นรถคันถัดไป ในขณะที่ 45.8% เลือกซื้อรถ Ford ที่ใช้เครื่องยนต์ ทั้งแบบสันดาปล้วน หรือแบบไฮบริดก็ได้
ตลาดรถหรูไว้ใจ EV มากขึ้น
นอกจากนี้ เจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าระดับหรู ได้เพิ่มความไว้ใจต่อ EV คันต่อไปอย่างมากในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งในบางรุ่นมีจำนวนคนไว้ใจ EV รุ่นหรูมากเกิน 60% ด้วยซ้ำ ตัวอย่างเช่น ผู้ซื้อ Mercedes-Benz EV จำนวน 56.6% จะซื้อรถไฟฟ้าอีกคันเป็นรถคันถัดไป ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 24.3% ในไตรมาสที่ 2 ปี 2020
ทางด้านแบรนด์ Jaguar ก็มีคนซื้อรถไฟฟ้าอีกคันเพิ่มขึ้นจาก 25% เป็น 56.5% ในขณะที่ Audi เพิ่มขึ้นจาก 25.5 % เป็น 50.1% Porsche เพิ่มขึ้นจาก 23.3% เป็น 36.8% และผู้นำตลาด Tesla เพิ่มขึ้นจาก 51.8% เป็น 76.7%
นั่นแสดงให้เห็นว่า ตลาดรถหรูยังครองโดยเทสล่าอยู่ดี
บทวิเคราะห์สาเหตุ
การวิจัยไม่ได้เผยสาเหตุของความเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการซื้อรถนี้ แต่ผู้เขียนวิเคราะห์ว่า เป็นเพราะสถานีชาร์จเทสลาครองตลาดไปจนหมด แทบไม่เหลือพื้นที่ให้ EV ยี่ห้ออื่นเข้ามาแทรก อีกทั้งสภาพพื้นที่ของอเมริกาที่กว้างใหญ่ เดินทางไกล และมีน้ำมันราคาไม่แพงเกินค่าครองชีพพื้นฐานมากนัก ทำให้เจ้าของรถ EV หลากหลายยี่ห้อ เกิดความลำบากในการชาร์จไฟ จึงหันมาซื้อรถสันดาป มาไว้สำรองในโรงรถตัวเองดังกล่าว
อ่านเพิ่มเติม : Nissan เผยโฉมเอ็มพีวีไฟฟ้ารุ่นต้นแบบที่คนรักครอบครัวต้องตาลุกวาว
ที่มา spglobal
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_relatedmodel_above_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678175456-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678175456-0'); });