เจ้าของ Tesla Model Y (เทสล่า โมเดล วาย) รายหนึ่งออกมาเล่าประสบการณ์ตรง หลังจากซื้อมาใช้นาน 2 ปีแล้ว ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าครอสโอเวอร์ EV จะออกสู่ตลาดตั้งแต่เดือนมีนาคม 2020 นับเป็นรถรุ่นล่าสุดที่เทสล่าเปิดตัว โดยเจ้าของรถรายนี้เป็นหนึ่งในคนกลุ่มแรกๆ ที่รับมอบ ซึ่งสมเหตุสมผลตาม VIN ของ Model Y ของเขาที่ระบุว่ามันเป็นหนึ่งใน 2,200 คันแรกที่สร้างขึ้น
แม้ว่าการเป็นอันดับแรกมักจะเป็นข้อได้เปรียบว่าได้ประหยัดน้ำมันก่อนใคร แต่ก็ไม่เสมอไปที่จะเกิดขึ้นกับรถยนต์ไฟฟ้า อันที่จริงเจ้าของรถคันนี้รู้สึกทั้งตื่นเต้นและหวาดกลัวเกี่ยวกับการเป็นเจ้าของ Model Y รุ่นแรกๆ และมีหลายคนเตือนเขาเกี่ยวกับการซื้อ Tesla ในล็อตแรกด้วย
ล็อตแรกมักจะคุณภาพต่ำ
เทสลาปรับปรุงคุณภาพการประกอบรถยนต์อย่างต่อเนื่อง และมีวัสดุการตกแต่งที่รับได้ ดูเหมือนว่ากว่าคุณภาพจะดีขึ้น ก็เมื่อเวลาผ่านไปสักระยะ หากแต่ตอนแรกที่รุ่นใหม่ออกสู่ตลาด ล็อตแรกของรุ่นนั้นจะมีคุณภาพต่ำอยู่เสมอ และยังคงเป็นเวลาหลายเดือนหลังจากนั้น กว่าจะเริ่มปรับปรุงคุณภาพการประกอบ ตัวอย่างเช่น Model 3 อยู่ในตลาดมานานกว่า 1 ปีก่อนที่จะเริ่มเป็นที่ชัดเจนว่า Tesla ได้ทำการปรับปรุงคุณภาพโดยรวมที่โดดเด่น
มีทั้งดีและไม่ดี
เจ้าของรถ Tesla Model Y คนนี้ยอมรับว่าเขามีนัดเข้ารับบริการหลายครั้ง และเขาก็เปลี่ยนแบตเตอรี่ด้วย อย่างไรก็ตาม เขายังบอกด้วยว่าเขามีประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมกับรถรุ่นนี้ จากทั้งหมดที่กล่าวมา เป็นที่ชัดเจนว่าเขามีเรื่องมากมายที่จะแบ่งปัน ทั้งดีและไม่ดี ซึ่งสามารถพิสูจน์ได้ว่ามีประโยชน์มากสำหรับเจ้าของเทสลาที่กำลังสนใจ
ปัญหาแรกพบ
Tesla Model Y คันนี้เป็นรุ่นย่อย AWD มอเตอร์คู่ ราคาในตอนแรกที่เขาซื้อมาคือ 63,000 ดอลล่าร์ รวมภาษี ค่าชุดแต่ง ค่าขนส่ง ฯลฯ แต่ยังไม่มีระบบช่วยเหลือการขับขี่อัตโนมัติ เมื่อรถออกมาใหม่ ๆ เขาได้พบปัญหาการพ่นสีมีความหนาไม่เท่ากัน สีเยิ้ม สีบางจุดเข้าไม่ถึง บางจุดมีรอยขีดข่วนก่อนส่งมอบ ซึ่งเคลมได้
ปัญหาการประกอบยังมีอีกเพียบ เช่น เบาะนั่งของรถไม่อยู่ในแนวที่ถูกต้องและมีเสียงดัง บางครั้งฝากระโปรงหน้าของรถก็ไม่เปิด และยังมีคำเตือนปรากฏบนแผงหน้าปัด ยิ่งไปกว่านั้น พนักพิงศีรษะส่งเสียงดังสั่นคลอนไปพร้อมกับเบาะหลัง กระจกหน้าต่างข้างคนขับสั่นตลอดเวลาที่รถวิ่ง พบคิ้วล้อด้านซ้ายก็เผยอออกมา และกันชนหน้าก็ลดแรงลงเล็กน้อยเมื่อกดเข้าไป
การใช้งานจริง
รถคันนี้ถูกขับมาแล้ว 34,000 กม. ถูกชนท้ายมาแล้ว 2 ครั้ง ชนถึงขั้นแบตเสียหายต้องเปลี่ยนใหม่ ซ่อมโดยใช้เบี้ยประกันภัยออกให้ทั้งหมด เขาใช้งานรถเกือบทุกวัน ส่วนใหญ่ชาร์จจากตัวชาร์จที่บ้าน ไม่นิยมหาชาร์จฟรีข้างนอก เพราะเสียเวลาต่อคิว หากวันไหนที่รถไม่ได้ขับ ก็ยังเสียพลังงานไปวันละ 1% เพื่อจ่ายไฟเลี้ยงแผงวงจร ยิ่งเปิดโหมดกล้อง Sentry mode จะยิ่งกินไฟวันละ 2-5% เลยทีเดียว
ค่าไฟถูกกว่าน้ำมัน 4,000 ดอลล่าร์
เจ้าของรถรายนี้ยังพูดถึงความประหยัดค่าน้ำมัน โดยยกตัวอย่างรถสันดาประดับเดียวกันอย่าง Honda CR-V (ฮอนด้า ซีอาร์-วี) คำนวนจากอัตราสิ้นเปลืองและค่าเชื้่อเพลิง เทียบกับกำลังไฟที่ใช้ชาร์จไปทั้งหมดและค่าไ พบว่าภายใน 2 ปีเขาประหยัดเงินไปได้ 4,620 ดอลล่าร์สหรัฐ ยังไม่รวมค่าบำรุงรักษาซึ่งยังไม่ได้คำนวน เพราะรถยังใหม่ อยู่ในระยะประกัน
ราคาขายต่อดีเยี่ยม
ราคามือสองของ Tesla Model Y นั้นดีมากในสหรัฐ เพราะว่ารถใหม่รอคิวยาว และรถมือสองถูกเคลมคุณภาพจนใช้งานได้ปกติแล้ว โดยเจ้าของรถคันนี้ได้รับการประเมินมูลค่ามือสองอยู่ที่ 56,000 ดอลล่าร์ ซึ่งนับดีกว่ารถสันดาปในสภาพใกล้เคียงกัน แต่ย้ำว่านี่เป็นแค่ช่วงโปรโมชั่นในระยะแรกเท่านั้น หากหมดการรับประกันแล้ว ใครจะรู้ว่าจะตกฮวบกว่านี้หรือไม่
อย่างไรก็ตาม หากเทียบกับรถสันดาประดับเดียวกันด้วยการยกตัวอย่าง Honda CR-V แล้วล่ะก็ ต้องไม่ลืมว่า ราคาค่าตัวของเทสล่านั้นแพงกว่า 3 เท่า ด้วยส่วนต่างราคาขายถึง 37,000 ดอลล่าร์ ยังเป็นจุดอ่อนของ EV ที่ทำให้คนไม่ยอมเปลี่ยนมาใช้ รวมถึงยังต้องมีการพิสูจน์ค่าอะไหล่ในอนาคตหลังหมดการรับประกันด้วย ดังนั้นเวลาการใช้งานเพียง 2 ปีอาจจะยังไม่พอพิสูจน์ตนเองให้คนทั่วไปได้เปลี่ยนมาใช้งาน
อ่านเพิ่มเติม : Tesla Model 3 มือสอง ควรซื้อหรือไม่ เจ้าของรถแสนไมล์มารีวิว ดูว่าแบตเสื่อมลงไปแค่ไหน ?