หัวเรือใหญ่ Tesla (เทสล่า) ชี้ว่าบริษัทรถยนต์ไฟฟ้ารายใดก็ตามที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ต้องมองหาลู่ทางในการลงทุนด้านเหมืองแร่เพื่อรองรับการผลิตแบตเตอรี่
อีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Tesla ให้สัมภาษณ์สำนักข่าว Financial Times ยืนยันว่าบริษัทฯ ภายใต้การกุมบังเหียนของเขาไม่มีแผนการซื้อกิจการบริษัทรถยนต์รายอื่นอย่างแน่นอน เพราะไม่มีความจำเป็นแต่อย่างใด
ขณะเดียวกัน มัสก์เปิดเผยว่า บริษัทฯ ประสบความสำเร็จอย่างมากในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ดังนั้นจึงมีความต้องการใช้งานแบตเตอรี่มากขึ้น จึงกำลังวางแผนลงทุนในอุตสาหกรรมเหมืองแร่เพื่อรองรับการจัดหาวัตถุดิบที่มีความจำเป็นในอนาคตระยะยาว
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_fourthp_under_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678191139-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678191139-0'); });
กำลังการผลิตไม่สำคัญเท่าวัตถุดิบ
หลังจากมัสก์บรรลุข้อตกลงการเทคโอเวอร์แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่อย่างทวิตเตอร์ ล่าสุด มีการคาดการณ์จากสื่อหลายสำนักว่าเขาอาจใช้กลยุทธ์การซื้อกิจการบริษัทรถยนต์เพื่อส่งเสริมการเติบโตของ Tesla ในอนาคต
หากค่ายรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติอเมริกันสามารถฮุบบริษัทรถยนต์ที่จะรวมถึงโรงงานผลิตและบุคลากรได้สำเร็จ ก็จะทำให้พวกเขาติดปีกขยายตัวอย่างก้าวกระโดดจากความคุ้มค่าในการผลิตซึ่งอาจทำให้ราคาจำหน่ายลดลงด้วย
แต่ล่าสุด มัสก์ปฏิเสธแนวคิดดังกล่าว เนื่องจากเขามองว่ากำลังการผลิตรถยนต์ไม่สำคัญเลยหากไม่สามารถจัดหาหรือผลิตแบตเตอรี่ได้เพียงพอต่อความต้องการ
“การซื้อบริษัทรถยนต์ไม่อยู่ในแผนการของเรา” มัสก์กล่าวย้ำภายในงานสัมนา Financial Times Future of the Car ซึ่งสอดคล้องกับคำให้สัมภาษณ์ในอดีตของเขาที่ยอมลงทุนสร้างโรงงานเองมากกว่าการเทคโอเวอร์บริษัทอื่น
สาเหตุสำคัญที่มัสก์มีแนวคิดเช่นนี้มาจากการที่ Tesla เคยซื้อโรงงานฟรีมอนต์ที่แต่เดิมเป็นของ GM และ Toyota ก่อนนำมาปรับปรุงใหม่ ซึ่งพวกเขาพบว่ามีความยุ่งยากอย่างยิ่ง และซับซ้อนมากกว่าการก่อสร้างโรงงานเป็นของตนเอง อีกหนึ่งสาเหตุคือมัสก์มองว่าการจัดหาแบตเตอรี่มีความสำคัญมากกว่า
“เราไม่ได้ต้องการซื้อบริษัทเหมืองแร่เช่นกัน แต่ถ้านั่นเป็นหนทางเดียวที่จะช่วยเพิ่มกำลังการผลิตและผลักดันอุตสาหกรรมยานยนต์ไปสู่ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า เราก็จะต้องซื้อบริษัทเหมืองแร่” มัสก์ กล่าว
ซีอีโอ Tesla เคยทวีตไว้ด้วยว่าราคาต้นทุนลิเธียมเพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่ง Tesla จึงกำลังมองหาลู่ทางเข้าสู่การผลิตวัตถุดิบเอง หากต้นทุนไม่ดีขึ้นในเร็ววัน
ปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบทำให้ Tesla ไม่สามารถผลิตรถยนต์ได้ตรงกับความต้องการของลูกค้า มัสก์ถึงกับเอ่ยปากไว้ว่าอาจต้องหยุดรับจองรถหากช่วงเวลารอรับรถของลูกค้านั้นนานเกินไป และถึงเวลาจะต้องเข้าสู่ธุรกิจขุดเหมืองแร่อย่างจริงจัง
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_relatedmodel_above_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678175456-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678175456-0'); });