สำหรับความเป็นสปอร์ตของเจ้า 2023 Vespa GTS Super Sport 150 i-Get ABS นั้นเป็นอะไรที่เราชอบมาก ๆ โดยตัวรถมาพร้อมการจับคู่สีดำ และตัดเส้นด้วยสีส้มเอาไว้อย่างลงตัว ซึ่งมันทำให้ตัวรถดูสปอร์ตขึ้นมาก ๆ นอกจากนี้ในส่วนของชุดไฟ LED ตัวรถก็มาพร้อมการดีไซน์ใหม่โดยเฉพาะไฟเลี้ยวด้านหน้าที่ได้มีการเพิ่มไฟ Day Time Running Lift เข้าไปด้วยเพื่อเพิ่มความสว่างแม้ในยามกลางวันนั่นเอง
แน่นอนว่าสำหรับ 2023 Vespa GTS Super Sport 150 i-Get ABS จะต้องมาพร้อมกับโช้คอัพด้านหน้าไฮดรอลิคแขนเดี่ยวอันเป็นเอกลักษณ์ประจำค่ายเลยก็ว่าได้ที่มีการใช้โช้คอัพในลักษณะนี้กับรถสกู๊ตเตอร์ของพวกเขามาอย่างยาวนาน
ส่วนระบบ ASR หรือระบบป้องกันการลื่นไถลไหนก็ทำงานได้ดีเกินคาดซึ่งเมื่อไหร่ที่ตัวรถจับได้ว่าความเร็วของล้อด้านหลัง และด้านหน้าไม่สัมพันธ์กันตัวรถจะทำการตัดความเร็วให้แบบอัตโนมัติซึ่งเท่าที่เราลองในช่วงทางตรงยาวความเร็วจะถูกล็อคไว้ที่ 80 กม./ชม. เท่านั้น แต่ไม่ต้องกังวลไปเพราะคุณสามารถปิดระบบนี้ได้ด้วยปุ่มทางด้านขวามือใกล้กับคันเร่งที่เขียนว่า ASR เพียงกดค้างไว้ประมาณ 3 วินาทีจนมีสัญลักษณ์ขึ้นบนหน้าจอเรือนไมล์ว่า ASR Off เพียงเท่านี้คุณก็จะกลับมาใช้ความเร็วแบบเต็มแม็กได้เหมือนเดิม แต่เราไม่แนะนำให้คุณปิดระบบนี้เท่าไหร่ เพราะมันคือระบบที่ช่วยในเรื่องของความปลอดภัยนั่นเอง เพราะถ้าเกิดคุณปิดระบบไปแล้วมีการเปิดคันเร่งภายในโค้งที่เกินไปก็อาจทำให้ตัวรถเกิดอาการท้ายปัดจนล้มพับได้นั่นเอง
ต่อมาในส่วนของสิ่งอำนวยความสะดวกที่ให้มาไม่ว่าจะเป็น ช่องเก็บสัมภาระใต้เบาะที่สามารถเก็บหมวกกันน็อคแบบครึ่งใบได้ 1ใบ หรือช่องเก็บของด้านหน้าที่มาพร้อมช่องชาร์จ USB ก็ช่วยให้คุณสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นในการจัดเก็บสัมภาระต่าง ๆ ต่อมาในส่วนของระบบเบรก ABS ที่ให้มาก็ช่วยให้เราสามารถหยุดรถได้อย่างมั่นใจ และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ 2023 Vespa GTS Super Sport 150 i-Get ABS คันนี้ยังมาพร้อมระบบ Start & Stop ที่ตอบสนองได้อย่างฉับไวซึ่งช่วยในเรื่องของความประหยัดให้กับคุณได้อีกเยอะเลยทีเดียว โดยเฉพาะการใช้งานภายในเมืองที่มีการจราจรหนาแน่น
สรุป 2023 Vespa GTS Super Sport 150 i-Get ABS
สรุปแล้ว 2023 Vespa GTS Super Sport 150 i-Get ABS คันนี้เราคิดว่ามันเหมาะกับทุกเพศทุกวัย เพราะตัวรถยังคงความเป็น Vespa เอาไว้อย่างครบถ้วนคือเป็นรถที่ขี่ง่าย ไม่ซับซ้อน ทุกคนภายในบ้านสามารถขี่ได้ และที่สำคัญคือมันบ่งบอกสไตล์ของผู้ขับขี่ได้อย่างชัดเจน สามารถใช้งานในชีวิตประจำวันได้ เดินทางท่องเที่ยวแบบชิลล์ ๆ ก็ได้