BYD (บีวายดี) ยังมาแรงแซงโค้งด้วยการทำยอดขายรถยนต์ทะยานขึ้นติดอันดับท็อป 5 ในตารางยอดขายทั่วโลก
เว็บไซต์ TrendForce เปิดเผยยอดขายรถยนต์ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาใน 37 ตลาดใหญ่ทั่วโลก มีจำนวนอยู่ที่ 5.55 ล้านคัน โดยผู้นำตลาดโลกยังคงเป็นยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่นอย่าง Toyota มีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 9.8%
ขณะที่อันดับ 2 เป็นของ Volkswagen ตามมาด้วยมาร์เก็ตแชร์อยู่ที่ 6.5% และอันดับที่ 3 เป็นอีกหนึ่งค่ายรถจากแดนอาทิตย์อุทัย Honda มีส่วนแบ่งตลาดตามมาห่าง ๆ ที่ 4.9%
ไฮไลท์ของการสำรวจยอดขายทั่วโลกในเดือนสิงหาคมอยู่ที่อันดับ 4 ซึ่งเป็นของค่ายรถจีนหนึ่งเดียวคือ BYD มีส่วนแบ่งตลาดไล่จี้มาติด ๆ ที่ 4.8% ขณะที่อันดับ 5 เป็นของค่ายรถเกาหลี Hyundai มีส่วนแบ่ง 4.3%
การเติบโตของ BYD มาจากการทำตลาดรถยนต์พลังงานทางเลือกทั้งรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดและรถยนต์ไฟฟ้าในเมืองจีนและอีกหลายประเทศทั่วโลก ทำให้พวกเขาสามารถแซงหน้าอีกหลายค่ายไปได้อย่างเซอร์ไพรส์
ถึงแม้ตลาดรถแดนมังกรจะอยู่ในสภาวะชะลอตัว แต่ BYD ยังสามารถทำยอดขายให้สูงขึ้นได้ 5% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า หากดูจากส่วนแบ่งตลาดก็เป็นที่น่าติดตามว่าพวกเขาจะเขี่ย Honda เพื่อขึ้นไปยึดท็อป 3 ได้หรือไม่ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
กลยุทธ์ของ BYD คือความรวดเร็วในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการของตลาดด้วยความรวดเร็วในราคาจำหน่ายที่ย่อมเยา ชนิดที่ทำให้ค่ายรถจากญี่ปุ่นหรือจากฝั่งตะวันตกไล่ตามไม่ทัน
ยกตัวอย่างในเมืองไทย BYD นำเสนอรถยนต์ไฟฟ้า Atto 3 เป็นรุ่นแรก เมื่อประสบความสำเร็จด้วยดีก็ส่งรถอีวีขนาดเล็กกว่าอย่าง Dolphin มากวาดฐานลูกค้าที่มองหารถซิตี้คาร์ราคาเอื้อมถึงได้สักคัน
เมื่อทั้งสองรุ่นข้างต้นสร้างความพึงพอใจในด้านยอดขาย ก็ถึงคราวส่งรถยนต์ไฟฟ้าที่มีความพรีเมียมมากขึ้นอย่าง Seal พร้อมกับเคาะราคาอยู่ที่ล้านกลาง ๆ จนทำให้ตลาดรถอีวีในเมืองไทยฮือฮากันยกใหญ่
กลยุทธ์การทำผลิตภัณฑ์เช่นนี้คล้ายคลึงกันในหลายประเทศ อย่างในญี่ปุ่น BYD ก็นำเสนอทั้ง 3 รุ่นเช่นกัน ต้องจับตามองกันต่อไปว่าหลังจากนี้ พวกเขาจะมีไม้เด็ดอะไรออกมาอีก อาจเป็นรถอีวีรุ่นเริ่มต้นที่มีราคาจำหน่ายสุดย่อมเยาก็เป็นได้
ตรวจสภาพรถ 175 จุด
รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
การรับประกัน 1 ปี
ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง
{{variantName}}
{{carMileage}} กม.
{{registrationYear}} ปี
{{storeCity}}