Mazda 3 Skyactiv-X เฮือกสุดท้ายของเครื่องยนต์สันดาป แต่ถ้ามาก็ไม่ใช่คู่แข่งของ Honda Civic Turbo?

Mazda 3 (มาสด้า 3) เจเนอเรชั่นที่ 4 ถูกเปิดตัวและวางจำหน่ายในปี 2019 มีความโดดเด่นในเรื่องรูปลักษณ์ภายนอกและการตกแต่งภายในที่หายใจรดต้นคอแบรนด์ Premium จากยุโรปต่าง ๆ กวาดรางวัลทั่วโลก แต่กลับไม่ประสบความสำเร็จในด้านยอดขายเนื่องจากถูกคู่แข่งทั้งค่ายอื่นและเพื่อนร่วมค่ายกินส่วนแบ่งไปเสียหมด

เราสามารถให้เหตุผลต่าง ๆ ได้มากมายว่าทำไมจึงเป็นเช่นนั้น ไม่ว่าจะด้วยความไม่มั่นใจในแบรนด์ หรือด้วยรูปลักษณ์ที่เฉี่ยวเกินกว่าวัยทำงานจะให้ความสำคัญ หรือประสิทธิภาพพละกำลังของเครื่องยนต์ที่สู้คู่แข่งไม่ได้ หรืออาจจะแค่ภายในที่รู้สึกว่าเล็กเกินไปสำหรับการใช้งานของคนไทย แต่สิ่งเหล่านี้ก็เป็นเพียงข้อคิดเห็น

2021 Mazda 3 Hatchback

บางครั้ง เหตุผลสำคัญก็อาจจะเป็นเพียงแค่พละกำลังที่สู้คู่แข่งไม่ได้ แม้ว่ารูปลักษณ์จะสปอร์ต แต่เครื่องยนต์ Skyactiv-G ก็ถูกยกมาจากตัวก่อนหน้าและไม่ได้ฟังดูโดดเด่น มีระบบวาล์วแปรผันคู่ พร้อมระบบ ไอ-สต๊อป ให้กำลังสูงสุด 165 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 213 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ แม้จะไม่ได้เลวร้ายเลย แต่ก็อาจจะสู้คู่แข่งไม่ได้อีกต่อไป

แน่นอนถ้าว่าปัญหาอยู่ที่จุดนี้จริง การแก้ไขก็ไม่ได้ยากเลย เพราะในตลาดโลก Mazda ก็มีเครื่องยนต์ถึง 2 แบบที่จะช่วยเสริมพละกำลังให้กับรถ Mazda 3 ได้ แบบหนึ่งคือ 2.5 Turbo ซึ่งยังคงมีเฉพาะในตลาดพวงมาลัยซ้ายและคงไม่มาจำหน่ายในไทยอย่างแน่นอน

Mazda Skyactiv-X 2.0 ลิตร

เครื่องยนต์ในแบบที่สอง คือประเด็นที่เราจะพูดถึงกันในวันนี้ นั่นคือเครื่องยนต์ Skyactiv-X อันเป็นเครื่องที่ Mazda กล่าวว่าจะเป็นอนาคตของเครื่องยนต์สันดาป เชื้อเพลิงเบนซิน และหลายคนบอกว่ามันอาจจะเป็นเฮือกสุดท้ายของการพัฒนาเครื่องยนต์ประเภทนี้ด้วย นี่จึงเป็นเทคโนโลยีที่มีความสำคัญมากกับผู้คนสายน้ำมันที่ยังรักและหลงใหลในการจุดระเบิดอยู่

แต่ถ้าผมบอกว่า ถ้าหาก Mazda นำเครื่อง Skyactiv-X เข้ามาจำหน่ายในไทยจริง ผมไม่คิดว่าเครื่องยนต์ Skyactiv-X จะทำให้ Mazda 3 เป็นคู่ฟัดคู่เหวี่ยงกับรถเจ้าถนนอย่าง Honda Civic Turbo (ฮอนด้า ซีวิค เทอร์โบ) ได้ ท่านจะแปลกใจไหมครับ? ในบทความนี้ผมจะให้เหตุผลว่าทำไม

เครื่องยนต์ Skyactiv-X คืออะไร?

ขอเท้าความสักเล็กน้อย สำหรับคนที่อาจจะยังไม่ได้ศึกษาเกี่ยวกับเครื่องยนต์แบบใหม่นี้

เครื่องยนต์สันดาปบนโลก สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ชนิดใหญ่ ๆ ด้วยกัน นั่นคือ เครื่องที่ใช้เชื้อเพลิงเบนซิน และเชื้อเพลิงดีเซล ทั้งสองรูปแบบนี้มีการทำงานที่แตกต่างกัน อธิบายอย่างรวบรัดได้ว่า เครื่องยนต์เบนซิน ทำงานโดยใช้หัวเทียนเป็นตัวจุดระเบิดให้เกิดการหมุน ในขณะที่เครื่องยนต์ดีเซล ใช้แรงอัดในการจุดระเบิดเชื้อเพลิง

Mazda Skyactiv-G Turbo 2.5 ลิตร เบนซิน

Mazda Skyactiv-D Turbo 2.2 ลิตร ดีเซล

เครื่องยนต์เบนซินทำงานได้เรียบกว่า สะอาดกกว่า และหมุนรอบได้มากกว่า แต่เครื่องยนต์ดีเซลมีประสิทธิภาพสูงกว่า ประหยัดน้ำมันกว่า

มีความพยายามที่จะนำเอาข้อดีของเครื่องยนต์ทั้งสองชนิดมารวมกันในรูปแบบของเครื่องยนต์ Homogenous Charge Compressed Ignition (HCCI) ซึ่งใช้ระบบวาล์วแปรผัน ทำให้เครื่องยนต์สามารถจุดระเบิดได้ทั้งแบบใช้หัวเทียน และไม่ใช้หัวเทียน

นั่นคือทฤษฎีที่เครื่องยนต์ Skyactiv-X นำมาเป็นพื้นฐานในการพัฒนาสิ่งที่เรียกว่า SPCCI หรือ Spark Controlled Compression Ignition เครื่องยนต์แบบนี้ยังคงมีหัวเทียนอยู่เพื่อให้ในบางจังหวะที่การจุดระเบิดด้วยกำลังอัดนั้นไม่สามารถทำได้เพราะกำลังอัดไม่เพียงพอ การเปลี่ยนผ่านจากเครื่องยนต์แบบ Spark Ignition เป็น Compression Ignition จึงทำได้อย่างราบลื่นมากขึ้น อีกทั้งเมื่อเร่งรอบสูงมาก เครื่องยนต์ก็จะใช้หัวเทียนในการจุดระเบิดแบบเครื่องเบนซินเต็มตัว

ผลลัพธ์ที่ได้ Mazda เคลมว่า นี่คือเครื่องยนต์ที่มีประสิทธิภาพสูงแบบดีเซล แต่เดินเรียบและตอบสนองไว รวมถึงปล่อยมลพิษน้อยแบบเครื่องเบนซิน โดยที่ไม่ต้องใช้เทอร์โบชาร์จเจอร์ซึ่งอาจส่งผลเสียในด้านอื่นตามมา

ฟังดูเหมือนว่าอนาคตมาถึงแล้ว ติดปัญหาอะไร?

ปัญหาหลัก ๆ ของเครื่องยนต์ Skyactiv-X ซึ่งได้ถูกวางจำหน่ายในตลาดโลกนับตั้งแต่เปิดตัว Mazda 3 รุ่นปัจจุบัน มีอยู่สองเรื่องด้วยกัน

ประเด็นแรกคือ ความสลับซับซ้อนของเครื่องยนต์นี้ ถ้าหากในส่วนก่อนหน้า คำอธิบายนั้นฟังดูยาก ละเอียดและวุ่นวาย นั่นเป็นเพราะเครื่องยนต์นี้มีทฤษฎีในการทำงานที่ซับซ้อน และผลที่ตามมาคือการที่เครื่องยนต์นี้ต้องเพิ่มอุปกรณ์ส่วนต่าง ๆ ทั้งปั้มลม ระบบวาล์วแปรผัน และระบบควบคุม ECU เพิ่มเติมเสียจนเครื่องยนต์ Downsizing Turbo ที่กำลังเป็นที่นิยมก็ดูเรียบง่ายไม่ซับซ้อนไปเลย

อีกประเด็นคือ เครื่องยนต์ Skyactiv-X นี้ ละเอียดอ่อนต่อคุณภาพของเชื้อเพลิงพอสมควร และนี่เป็นเหตุผลที่ในหลายตลาดยังไม่ได้รับเครื่องยนต์ Skyactiv-X ไปใช้กัน

2021 Mazda 3 Hatchback

เครื่องยนต์ Skyactiv-X เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ไม่เหมือนใคร และถ้าหากจะมีบริษัทไหนคิดค้นที่จะทำ Mazda ก็คงเป็นคำตอบแรก ๆ อย่างแน่นอน แต่ Mazda เอง ผู้ซึ่งมีประสบการณ์กับเครื่องยนต์แหวกแนวมามาก ก็คงเข้าใจถึงข้อกังวลของผู้ใช้งาน และตั้งใจทดสอบและพัฒนาให้มั่นใจก่อนที่จะนำมาใช้ทั่วโลก

แล้วมันดีจริงหรือเปล่า?

นี่เป็นอีกประเด็นที่ทำให้ผู้เขียนตัดสินใจที่เขียนบทความนี้ขึ้นมา

เครื่องยนต์ Skyactiv-X ที่ถูกใช้กับ Mazda 3 ตลาดโลกนี้ เป็นเครื่องยนต์ชนิด SPCCI พ่วงกับระบบ Mild Hybrid มอเตอร์ไฟฟ้า 24 โวลต์ หลักการทำงานเหมือนกับระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) ที่ช่วยดึงเอาพลังงานจากการเบรคมาปั่นมอเตอร์ไฟฟ้าในรถแข่งฟอร์มูล่า 1 Mazda 3 Skyactiv-X มีกำลังอยู่ที่ 187 แรงม้า และมีแรงบิด 240 นิวตันเมตร

2021 Mazda 3 Hatchback

ถ้าหากพิจารณาในด้านพละกำลังแล้ว Mazda 3 Skyactiv-X ก็มีแรงม้าไม่ได้สูงไปกว่ารถ Compact เครื่องยนต์ Turbo ที่มีความสลับซับซ้อนน้อยกว่ามากอย่างรถยนต์ขาซิ่งประจำชาติ Honda Civic Turbo ที่มีแรงม้าจากโรงงาน 173 แรงม้า แต่ทำตัวเลขออกมาได้ดีเกินกว่าที่แรงม้าจะบ่งบอก อีกทั้งยังสามารถนำไปปรับแต่งให้มีพละกำลังมากกว่าเดิมได้เป็นเท่าตัว ในขณะที่เครื่องยนต์ Skyactiv-X จะแทบไม่สามารถทำอะไรเพิ่มเติมได้เลย

2021 Mazda 3

แน่นอนว่าถ้าความคาดหวังของท่านอยู่ที่ความแรงแล้วนั้น Mazda 3 Skyactiv-X ก็อาจจะไม่ตอบโจทย์ขนาดนั้น

แต่บางที Mazda ก็ไม่ได้ตั้งเป้าหมายไว้แบบนั้นอยู่แล้ว?

เฮือกสุดท้ายของเครื่องยนต์สันดาป เป็นหนทางสู่อนาคตที่ดีกว่า

เราต้องไม่ลืมว่า Mazda เคลมตัวเลขแรงม้า 187 แรงม้านี้ พร้อมกับอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ 5.2ลิตร/100 กิโลเมตร ทดสอบผ่านมาตรฐานของ NEDC ใน Mazda 3 Skyactiv-X รุ่นเกียร์อัตโนมัติ 4 ประตู ซึ่งอยู่ในระดับใกล้เคียงกับรถดีเซล และยิ่งไปกว่านั้น Mazda ยังได้เคลมอีกว่า ในการทดสอบที่รอบต่ำ เช่นในกรณีรถติด เครื่องยนต์ชนิดนี้ใช้น้ำมันน้อยกว่าเครื่องยนต์ Skyactiv-G ถึง 50%

2021 Mazda 3

แน่นอนว่ากระแสทั่วโลกกำลังเปลี่ยนสู่ยุคของรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มตัว แม้แต่ Mazda เอง ก็ได้เปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้า MX-30 ไปแล้วก่อนหน้านี้ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงอนาคตที่ชัดเจนเป็นอย่างมาก

แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะพร้อมใช้รถยนต์ไฟฟ้าในทันที ความจำเป็นของคนเราไม่เหมือนกัน

2021 Mazda MX-30

Mazda Skyactiv-X เป็นเหมือนกับเครื่องมือเปลี่ยนผ่านสู่ยุคสมัย เป็นที่แน่นอนแล้วว่าเครื่องยนต์สันดาปคงมีอายุอีกไม่นาน แต่มันก็ยังไม่หมดอายุขัยในตอนนี้ และจนกว่าภาครัฐจะแบนการจำหน่ายรถยนต์สันดาปอย่างสิ้นเชิง ซึ่งหลายประเทศตั้งไว้ในปี 2030 แต่ก็มีข้อกังขาอยู่ การพัฒนาเครื่องยนต์สันดาปก็ไม่อาจหยุดนิ่งได้

สิ่งที่ Mazda ทำ จึงไม่ใช่เพียงแค่การต่อสู้กับคู่แข่งในตลาด

เครื่องยนต์ Skyactiv-X นี้ ไม่ได้คิดจะเป็นคู่แข่งกับ Civic Turbo อยู่แล้ว

คู่แข่งที่แท้จริงของมันคือกาลเวลา

สรุป

เรายังไม่รู้ว่า Mazda จะนำเอาเครื่อง Skyactiv-X มาใส่ใน Mazda ที่ขายในประเทศไทยเมื่อไหร่ พวกเขาประกาศว่าเครื่องยนต์สันดาปทุกตัวจะกลายเป็น Skyactiv-X ในปี 2025 แต่ถ้าเครื่องยนต์ชนิดนี้มาก่อน ก็จะเป็นเรื่องที่ดี

ถ้าจะมีปัญหาอะไร ก็คงจะหนีไม่พ้นความไม่มั่นใจในการดูแล บำรุงรักษา การนำเทคโนโลยีใหม่เข้ามาใช้ก็คงเกิดคำถามในประเด็นนี้ ซึ่งถ้าได้ประโยชน์ในด้านประสิทธิภาพและความเป็นผู้นำนวัตกรรม ก็อาจจะคุ้มค่า แต่ Skyactiv-X ไม่ใช่สิ่งที่มีประโยชน์บนหน้ากระดาษ การใช้งานจริงต่างหากที่เป็นข้อดีของเครื่องยนต์ประเภทใหม่นี้

ซึ่งในตลาดรถยนต์ นี่เป็นสิ่งที่ขายให้ผู้ซื้อเชื่อมั่นได้ยาก ยากกว่าตัวเลขแรงม้า อัตราเร่ง รูปลักษณ์ความสวยงาม อุปกรณ์อ็อปชั่นต่าง ๆ มาก

ทาง Mazda เองก็คงกำลังพิจารณาเรื่องเหล่านี้อย่างละเอียดถี่ถ้วนละครับ

    Channel:
ติดตามพวกเราได้ที่:
Boris

นักเขียน

Boris รู้เรื่องเกี่ยวกับรถยนต์ในทุกส่วน ตั้งแต่การผลิตจนถึงมือเจ้าของ ถ้ามีเรื่องใดที่เขาไม่รู้ เขาจะไม่ทำอย่างอื่นจนกว่าจะได...

ขายรถคันเดิมเพื่อซื้อรถมือสองคุณภาพดีได้ง่ายและสะดวก

ผู้ใช้ แลกรถในฝันแล้ว
เพิ่มรถของคุณ

แลก

Mazda 3

ขายรถมือสอง

ตรวจสภาพรถ 175 จุด

รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน

การรับประกัน 1 ปี

ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง

ดูเพิ่มเติม

วีดีโอสั้นที่เกี่ยวข้อง

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

็Honda Civic RS ท้าชน Mazda 3 2.0SP ตัวท็อป ออพชั่นเพียบ เทียบกันได้ทุกมุม ชอบคันไหนได้หมด | AutoFun

ข่าวล่าสุด

Mitsubishi ลงทุนผลิตเครื่อง 4N16 Hyper Power ใหม่ ให้ใช้งานได้เกิน 400,000 กม.ขึ้นไป

การผลิตเครื่องยนต์ใหม่ 2.4 ลิตร ไฮเปอร์ พาวเวอร์ รุ่นใหม่ ถึงขั้นต้องปรับปรุงโรงงานขนานใหญ่ ให้เป็นไปตามมาตรฐานญี่ปุ่น ซึ่งจะทำให้การประกอบเครื่องยนต์มีความสมบูรณ์แบบมากที่สุด พร้อมเผยเคล็ดลับความทนทานของเครื่อง 4n16 ใหม่ในรถ 2023 Mitsubishi Triton (มิตซูบิชิ ไทรทัน) โฉมล่าสุด เปลี่ยนสายพานการผลิตเครื่องยนต์ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ยกระดับสายการผลิตให้ all-new Triton ต้อนรับการมาของรถรุ่นใหม่ และเครื่องยนต์ใหม่ 2.4 ลิตร ไฮเปอร์ พาวเวอร์ โดยใช้หุ่นยนต์อันทันสมัยมากกว่า 250 ตัว ทำหน้าที่ในการ

Mercedes-Benz เตรียมใช้แบตเตอรี่ Blade ของ BYD ในรถอีวี

Mercedes-Benz (เมอร์เซเดส-เบนซ์) ตกเป็นข่าวว่าเตรียมหยิบยืมเทคโนโลยี Blade Battery ของ BYD มาใช้ในรถยนต์ไฟฟ้าของตนเอง สำนักข่าว CBEA ของจีนรายงานโดยอ้างแหล่งข่าววงในว่า รถยนต์รุ่นแรกของ Mercedes-Benz ที่จะใช้แบตเตอรี่ของ BYD คือ All-New CLA รุ่นใหม่ที่สร้างบนแพลตฟอร์ม 800V MMA แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะเป็นเวอร์ชั่นที่จำหน่ายในจีนเท่านั้นหรือในต่างประเทศด้วย ข่าวดังกล่าวแพร่สะพัดตั้งแต่ต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา สำนักข่าว CBEA รายงานด้วยว่าค่ายรถยักษ์เยอรมันจะเริ่มต้นการผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่ใ

ส่อง MG ZS 7 คัน มือสองดาวน์น้อย ผ่อนสบาย จากทาง CARSOME

วันนี้ เราเอาใจคนรักครอบครัวที่กำลังหาซื้อรถมือสอง ด้วย MG ZS มือสอง คุณภาพเยี่ยมถึง 7 คันพร้อมโปรโมชันสุดปังอย่าง CARSOME Easy Sale ดาวน์น้อย ผ่อนง่าย จ่ายไหว ที่ให้ทุกคนผ่อนรถมือสองได้ง่ายๆ เริ่มต้นเพียง 4,xxx บาทต่อเดือน แถมยังมียอดดาวน์น้อย จ่ายได้สบายกระเป๋า แถมมีสิทธิ์เป็นผู้โชคดี ได้เงินคืนรวม 5 แสนบาท*** พร้อมความคุ้มค่าแบบจุกๆ อีกเพียบ ที่สำคัญ ยังมั่นใจได้ว่า รถมือสองทุกคันจาก แพลตฟอร์มซื้อ-ขายรถยนต์มือสองออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่าง CARSOME ยัง ผ่านการตรวจเช็กอย่

Honda ยืนยันร่วมใช้เทคโนโลยีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าของ Tesla

Honda (ฮอนด้า) เป็นบริษัทรถยนต์รายล่าสุดต่อจาก Ford และ General Motors ที่จะใช้เทคโนโลยีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าของ Tesla สำนักข่าว Asahi ของประเทศญี่ปุ่นรายงานว่า Honda ประกาศยืนยันอย่างเป็นทางการแล้วว่าจะใช้พอร์ทชาร์จไฟเร็วของ Tesla ในรถยนต์ไฟฟ้าที่จะออกจำหน่ายในภูมิภาคอเมริกาเหนือตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไป ก่อนหน้านี้ Ford และ General Motors ประกาศนโยบายคล้ายคลึงกันหลังบรรลุข้อตกลงกับ Tesla ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ขณะที่ Rivian อีกหนึ่งบริษัทรถยนต์สัญชาติอเมริกันก็จะเดินตามรอยด้วยเช่นกัน นักวิเคราะห์เ

วิศวกร Honda พัฒนาระบบป้องกันเมาหัวในรถยนต์ไฟฟ้าที่มีอัตราเร่งทันใจ

ทีมงานฝ่ายวิศวกรรมของ Honda (ฮอนด้า) พัฒนาระบบควบคุมอัตราเร่งในรถยนต์ไฟฟ้าที่ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดอาการเวียนหัวหรือเมารถ เป็นที่ทราบกันดีว่าอัตราเร่งของรถยนต์ไฟฟ้าที่มีแรงบิดให้ใช้แบบทันทีทันใดนั้นตอบสนองต่อเท้าขวาของผู้ขับขี่ได้เป็นอย่างดี แต่อาจจะไม่ถูกใจผู้โดยสารที่นั่งอยู่บนเบาะหน้าข้างคนขับหรือเบาะหลังเท่าใดนัก ธรรมชาติของรถยนต์ไฟฟ้านั้นทำงานด้วยความเงียบสงบ ราบรื่น ปราศจากเสียงเครื่องยนต์รบกวน แต่อัตราเร่งที่เกิดขึ้นแบบกระทันหันอาจส่งผลต่อประสาทรับรู้การเคลื่อนไหวของหูชั้นในที่ทำงานไม่ประส

รถแนะนำสำหรับคุณ

ยอดนิยมล่าสุดอัพเดท
ฮิต
MG

MG ZS

THB 689,000 - 799,000

ชมรุ่นรถ
MG

MG Maxus 9

THB 2,499,000 - 2,699,000

ชมรุ่นรถ
MG

MG ES

THB 959,000

ชมรุ่นรถ
Honda

Honda WR-V

THB 799,000 - 869,000

ชมรุ่นรถ
รุ่นใหม่
BMW

BMW X7

THB 5,999,000 - 8,959,000

ชมรุ่นรถ
BMW

BMW XM

THB 14,899,000

ชมรุ่นรถ
GAC

GAC Aion Y Plus

THB 1,069,900 - 1,299,900

ชมรุ่นรถ
Toyota

Toyota Vellfire

THB 4,129,000

ชมรุ่นรถ
Subaru

Subaru Levorg

THB 1,890,000

ชมรุ่นรถ
Mercedes-Benz

Mercedes-Benz Sprinter

THB 3,790,000

ชมรุ่นรถ

เปรียบเทียบรถที่เกี่ยวข้อง

Mazda 3
เช็คทันที