รีวิว NEW MG ES หลังลองใช้งานจริง 7 วัน กับราคาค่าตัว 959,000 คุ้มมั้ย??

รีวิวหลังใช้งานจริง NEW MG ES พบว่ามีหลายฟังก์ชั่นที่มีประโยชน์ ใช้งานได้จริงในการขับขี่ ทั้งระบบความปลอดภัย มีระบบจ่ายไฟให้อุปกรณ์อื่น ทำให้เป็นรถที่น่าใช้งานจนทำให้เราอยากได้

2023 MG ES (เอ็มจี อีเอส) รถยนต์ไฟฟ้าทรงแวกอน ที่มีจุดขายในเรื่องความจุของพื้นที่ด้านหลังของรถสไตล์นี้ สร้างบนพื้นฐาน MG EP เดิม แต่มีหลายสิ่งที่แตกต่างมาก ซึ่งทีมงาน Autofun ได้นำมาลองใช้จริงแล้วพบว่า มีหลายฟังก์ชั่นที่ติดใจ รู้สึกว่ามันสมกับราคาขาย 959,000 บาท อย่างที่มองข้ามไปไม่ได้เลย

มองด้วยตาก็รู้ว่าต่าง

ดีไซน์หน้าของ MG ES เป็นแนวสปอร์ตใหม่หมดจรด ไม่มีกระจังหน้าจำลองให้ดูเหมือนรถสันดาป กลายเป็นพื้นที่สีเดียวกับตัวรถที่ดูเรียบและแตกต่าง อีกสิ่งที่ชอบมากคือ ให้ล้อแม็กซ์ 17 นิ้วมาแล้ว พร้อมลายปัดเงาสีทูโทนที่ทันสมัยกว่าเดิมชัดเจน เพิ่มความอยากไอด้มากกว่ารุ่นเดิม นับเป็นความประทับใจแรกทันทีที่ตาเห็น หาจุดติเรื่องดีไซน์ไม่ได้เลย

ทุ่มทุนเปลี่ยนคอนโซลใหม่ทั้งหมด

เมื่อเปิดประตูเข้าไปนั่งภายใน จะพบความรู้สึกว่าเป็นรถคนละคันกับรุ่น EP เดิมไปเลย เพราะงานนี้ MG ES ลงทุนยกคอนโซลใหม่ทั้งชิ้น ซึ่งเป็นความเปลี่ยนแปลงที่มีต้นทุนมหาศาล แต่ทางเอ็มจีก็ใจป้ำให้มา เป็นการทุ่มทุนในเรื่องการออกแบบที่เห็นด้วยตา และทุ่มทุนด้านวัสดุใหม่อย่างสัมผัสได้เลยว่าไม่มีกั๊ก 

ออพชั่นใหม่ที่ใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน

MG ES ใส่ฟังก์ชั่นเพิ่มเติมจากรุ่น EP จากเดิมรองรับแค่มือถือ iOS แต่รุ่นนี้รองรับได้ทั้ง Apple CarPlay และสมาร์ทโฟนระบบ Android แล้ว และแน่นอนว่าได้เพิ่มระบบ i-Smart แบบ Lite ที่ตรวจสถานะรถยนต์ ดูความผิดปกติของรถยนต์ และค้นหารถ Find My Car หรือสามารถใช้สมาร์ทโฟนในการสั่งเปิดแอร์ หรือสั่งชาร์จไฟก็ได้ ทั้งหมดนี้ทำได้ผ่านแอปในมือถือเลย

ภายในให้ของไฮเทคเยอะ

เอ็มจีเป็นค่ายรถที่ถนัดเรื่องการออกแบบให้รถดูดีมีราคาแพงเกินกว่าที่จ่ายจริง อย่างเช่น หน้าจอใหม่ขนาด 10.25 นิ้ว ดีไซน์แบบลอยตัว เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง เบาะคนนั่งด้านหน้าปรับ 4 ทิศทาง ผิวสัมผัสของเบาะโมเดลนี้ทำจากหนังที่มีพื้นผิวแบบ Denim Texture Design ให้สัมผัสคล้ายผ้ายีนส์ปรับลุคให้ดูทันสมัยมากขึ้น นอกจากดีไซน์เบาะแล้ว ยังใส่นวมเบาะแบบ Zero-G ที่รองรับก้นและต้นขา ช่วยพยุงหลังไม่ให้น้ำหนักถ่ายลงจุดใดจุดหนึ่งมากเกินไป เริ่มเห็นผลลัพธ์ชัดเจนเมื่อเราขับทางไกลนานเกิน 1 ชั่วโมง แล้วพบว่าจะปวดเมื่อยน้อยลง

ติดใจฟังก์ชั่นจ่ายไฟ

MG ES มีฟังก์ชั่นที่ทำให้เราติดใจมากที่สุดคือ การรองรับระบบ V2L หรือ Vehicle to Load มันคือการเปลี่ยนรถยนต์ตัวเอง ให้เป็นพาวเวอร์แบงค์ไปจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า ด้วยกำลังไฟสูงสุด 2,200 วัตต์ นั่นหมายความว่า ไม่ใช่แค่ให้ชาร์จมือถือได้เหมือนรถรุ่นทั่วไป แต่มันสามารถชาร์จโน๊ตบุค ชาร์จกล้องถ่ายภาพในกองถ่ายของพวกเราได้ด้วย 

สามารถนำปลั๊กสามตามาเสียบต่อได้เลย ใช้งานเหมือนเป็นไฟบ้าน ซึ่งมันดีมากเลย เพราะทำให้เราเปลี่ยนรถเป็นออฟฟิศเคลื่อนที่ จะขับรถไปนั่งทำงานหรือเล่นคอมที่ไหนก็ได้ 

การขับขี่มั่นใจในระบบช่วยเหลือ

ความปลอดภัยที่มั่นใจสุดในรถ MG ES นั่นคือ ระบบช่วยขับขี่กึ่งอัตโนมัติ ที่เราลองใช้งานได้จริงคือ ระบบแปรผันความเร็ว Adaptive Cruise Control ในความเร็วสูงก็หยุดได้ระยะปลอดภัย และแปรผันในความเร็วต่ำได้ด้วยระบบ Traffic Jam Assist ได้จนถึงหยุดนิ่ง ที่มีความนุ่มนวล ทำให้ผู้โดยสารไม่เมารถ ติดไฟแดงอย่างสบายเท้าด้วยเบรคมือไฟฟ้าพร้อม Auto Hold 

ฟังก์ชั่นอีกอย่างที่ได้ลองใช้ นั่นคือกล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3 มิติ ที่ชัดเจนดี และเมื่อเราลองลงจากรถไปยืนมองระยะช่องจอดที่ภายนอก พบว่ามันแสดงผลได้แม่นยำตรงกับที่ตาเห็นอีกด้วย นี่ยังไม่นับรวมระบบอื่น ๆ ที่เพิ่มมาให้เต็มที่ เช่น ระบบควบคุมรถให้อยู่ในเลน และช่วยควบคุมรถเมื่อออกนอกเลน, ระบบช่วยเบรคฉุกเฉินอัตโนมัติ

การขับขี่ที่แน่นกว่าเดิม

ส่วนการขับขี่ MG ES นั้นรู้สึกได้ทันทีที่ออกตัวว่าแรงขึ้นจากเดิม รวมถึงช่วงล่างที่แน่นหนึบ ข้อสังเกตคือ ในความเร็วต่ำมีความกระด้างขึ้นเล็กน้อย แต่มันก็มีข้อดีคือ ในความเร็วสูงนี้แทบไม่มีอาการโคลงเลย แม้ว่าเราจะเพิ่งขับผ่านคอสะพานที่ความเร็วกว่า 100 กม./ชม.บนทางพิเศษมาแล้วก็ตาม น่าจะเป็นผลมาจากการเปลี่ยนขนาดล้อและยางใหม่ นี่คือความพิเศษอย่างที่ไม่ต้องแต่งเพิ่ม เพราะทางเอ็มจีตั้งค่าจากโรงงานมาให้อย่างพอดีแล้ว

2023 MG ES คือรถยนต์ไฟฟ้าที่ครบทุกองค์ประกอบที่ลูกค้าเคยร้องขอไว้ในรุ่น MG EP ด้วยความแรงของมอเตอร์ใหม่ที่เพิ่มประสิทธิภาพในเรื่องของการระบายความร้อน ช่วยให้อัตราเร่งดีขึ้นด้วย และระยะทางเพิ่มขึ้น มีฟังก์ชั่นไฮเทคและเทคโนโลยีความปลอดภัยทันสมัยแล้ว อีกทั้งมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกไว้รองรับเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ แถมยังมีดีไซน์ที่ปรับลุคให้ดูทันสมัย ใส่ความเป็นรถ EV ยุคใหม่ ทำให้เราอยากจ่ายเงิน 959,000 บาท เพื่อซื้อใช้จริงสักคันแล้วตอนนี้

อ่านเพิ่มเติม : ชมคันจริง 2023 MG ES ใหม่ สวยสปอร์ตกว่าเดิม เพิ่มเติมคือปลอดภัยมากขึ้น กับราคา 9.59 แสน