ทำไมซากรถคันนี้ประมูลขายได้กว่า 60 ล้านบาท?!

ซากรถคันที่เห็นนี้อาจดูเหมือนเศษเหล็กในสายตาคนทั่วไป แต่แท้จริงแล้วมีบางอย่างซ่อนอยู่ที่ทำให้มีมูลค่าสูงถึง 1.7 ล้านเหรียญสหรัฐหรือกว่า 60 ล้านบาท

นั่นเป็นเพราะซากรถคันนี้คือ 1954 Ferrari 500 Mondial Spider ที่มีจำนวนการผลิตเพียง 13 คันในโลกเท่านั้น รังสรรค์ความงดงามโดยสำนักออกแบบตัวถังชื่อดัง Pininfarina ซึ่งถือเป็นรถสปอร์ตคลาสสิคที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดและหายากที่สุดคันหนึ่งในโลก

บริษัทประมูล RM Sotheby's ได้นำซากรถคันดังกล่าวมาประมูลขาย พร้อมกับระบุคุณสมบัติไว้ว่าเคยร่วมการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตหลายรายการทั้ง  Mille Miglia, Targa Florio และ Imola Grand Prix มาแล้ว ภายใต้การกุมบังเหียนของฟรังโก คอร์ทีส นักแข่งทีม Ferrari 

500 Mondial Spider รุ่นมาตรฐานจะมาพร้อมเครื่องยนต์ 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร แต่รถคันนี้วางเครื่องยนต์ Tipo 119 Lampredi บล็อก 4 สูบ ขนาด 3.0 ลิตรที่ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์พิเศษที่รันหมายเลขการผลิต

มีรายงานว่าหลังจากนั้น Ferrari คันนี้ถูกขนข้ามน้ำข้ามทะเลไปยังสหรัฐอเมริกาในช่วงปี 1950 ก่อนติดตั้งเครื่องยนต์ V8 สัญชาติอเมริกัน และประสบอุบัติเหตุ ทำให้ต้องอยู่ในสภาพเศษซากแบบนี้มานานกว่าครึ่งศตวรรษ

เคาะประมูลกระฉูด

RM Sotheby's ได้นำซากรถ 1954 Ferrari 500 Mondial Spider ออกประมูลพร้อมตั้งตัวเลขไว้ที่ 1.2 – 1.6 ล้านเหรียญสหรัฐ ก่อนที่จะปิดประมูลได้ที่ 1.7 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งถือว่าน่าประทับใจอย่างมากที่สามารถทำเงินได้ขนาดนี้

นั่นทำให้เกิดข้อสงสัยว่าหากมีการประมูล Ferrari 500 Mondial Spider ในสภาพดีจะมีราคาอยู่ที่เท่าไหร่ คำตอบก็คือ ในปี 2019 เคยมีการประมูลรถรุ่นนี้ ก่อนจะเคาะตัวเลขสุดท้ายได้สูงถึง 4.1 ล้านเหรียญสหรัฐหรือ 145 ล้านบาทเลยทีเดียว

ยังไม่มีการยืนยันว่าเจ้าของเงินจำนวนมหาศาลที่ประมูลซากรถม้าลำพองคันนี้ไปได้นั้นจะนำไปบูรณะฟื้นฟูตัวรถหรือจะเก็บสภาพแบบนี้ไว้เพื่อตั้งโชว์

หากเป็นผู้อ่านจะทำอย่างไรกับรถคันนี้ดีครับ?