ดูคอมเมนท์ชาวอินโดนีเซีย “รถไฟฟ้าควรถูกกว่านี้สักครึ่ง” และ “ค่ายญี่ปุ่นควรทำอีวี”

รัฐบาลอินโดนีเซียพยายามผลักดันให้กรุงจาการ์ตาเป็นศูนย์กลางของรถยนต์ไฟฟ้าในอาเซียน แต่ดูเหมือนผู้บริโภคจะยังไม่ไว้วางใจเท่าใดนัก

สำนักข่าว Reuters รายงานว่าปัจจัยลบที่ทำให้ผู้บริโภคชาวแดนอิเหนายังไม่ไว้วางใจรถอีวีนั้นไม่แตกต่างจากประเทศอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นจุดชาร์จไฟที่ยังไม่ครอบคลุม ราคาจำหน่ายที่สูง และแบรนด์ที่จำหน่ายนั้นยังไม่น่าเชื่อถือ

โดดี ฮาร์โตโน ชาวจาการ์ตาซึ่งเข้าเยี่ยมชมงานอินโดนีเซีย ออโต้โชว์ที่เพิ่งปิดฉากลงไปนั้นวางแผนจะซื้อรถยนต์ไฟฟ้าในปี 2024 แต่เขาต้องการรถที่มีราคาจำหน่ายเหมาะสม

“เราต้องทำให้ผู้คนสนใจในรถยนต์ไฟฟ้าก่อนเป็นอันดับแรก เริ่มต้นจากราคาจำหน่ายที่ควรจะถูกลงกว่านี้สัก 60%” ฮาร์โตโน วัย 54 ปีกล่าวกับสำนักข่าว Reuters

อินโดนีเซียวางเป้าหมายสร้างการเติบโตให้ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าอย่างทะเยอทะยาน และแน่นอนว่าเป็นคู่แข่งสำคัญของประเทศไทย ในการวางตนเองให้เป็นศูนย์กลางการพัฒนาและผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในอาเซียน

อย่างไรก็ตาม สัดส่วนยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในอินโดนีเซียยังอยู่ที่เพียง 1% เท่านั้นของยอดขายรถยนต์ทั้งหมด

รัฐบาลจาการ์ตาได้ออกนโยบายปรับลดภาษีจาก 11% เหลือเพียง 1% ทำให้รถยนต์ไฟฟ้าอย่าง Hyundai Ioniq 5 ลดลงจาก 51,000 เหรียญสหรัฐเหลือ 45,000 เหรียญสหรัฐ

แต่ฮาร์โตโน ยืนยันว่าราคารถยนต์ไฟฟ้าควรจะอยู่ระหว่าง 10,000 – 13,000 เหรียญสหรัฐหรือประมาณ 3 – 4 แสนบาทเท่านั้นจึงจะดึงดูดผู้ซื้อได้

ปัจจุบัน มีรถยนต์ไฟฟ้าเพียง 2 รุ่นที่มีราคาใกล้เคียงกับตัวเลขข้างต้น นั่นคือ Wuling EV Lite และ Seres Group E1 ขณะที่รถเครื่องยนต์สันดาปอย่าง Daihatsu Ayla เคาะอยู่ที่ 9,000 เหรียญสหรัฐ

สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดในอาเซียนเวลานี้คือ BYD Atto 3 มีราคาที่ 31,000 เหรียญสหรัฐหรือราว 1 ล้านบาท

เฮนดรา ปราตามา อีกหนึ่งชาวจาการ์ตาที่มองหารถยนต์ไฟฟ้าเป็นคันต่อไปเผยว่า ราคารถอีวีในอินโดนีเซียนั้นแพงเกินไปทำให้ไม่ดึงดูดผู้บริโภคคนชั้นกลางระดับล่าง

“ราคารถไฟฟ้าไม่เป็นมิตรกับกระเป๋าสตางค์เลย” ปราตามา กล่าวเพิ่มเติม

ความเชื่อมั่นต่ำ

อีกหนึ่งประเด็นสำคัญคือความเชื่อมั่นในแบรนด์รถยนต์ ปัจจุบัน Toyota มียอดขายเป็นเจ้าตลาดอินโดนีเซียด้วยส่วนแบ่งตลาดถึง 2 ใน 3 แต่ค่ายรถยักษ์ญี่ปุ่่นยังไม่เดินหน้ารุกตลาดรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มตัว

เฮนดรา บูดี วัย 44 ปี มองว่าราคาไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขา แต่เขาต้องการแบรนด์ที่มีความน่าเชื่อถือสูงสุด

“หาก Toyota หรือ Honda เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า ผมเชื่อว่าชาวอินโดนีเซียจะให้ความสนใจอย่างแน่นอน” บูดี กล่าวเพิ่มเติม

อย่างไรก็ตาม Toyota ยืนยันว่ายังไม่มีแผนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในอินโดนีเซียในกรอบเวลาอันใกล้