ExxonMobil (เอ็กซอนโมบิล) เป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้านพลังงาน โดยแบรนด์ที่เรารู้จักกันดีนั่นคือ Mobil ผลิตภัณฑ์หล่อลื่นเครื่องยนต์ และ Esso สถานีบริการน้ำมันที่เพิ่งถูกขายให้กับบางจากไปเมื่อไม่นานมานี้
แต่ ExxonMobil มีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายกว่าที่เราคิด เพราะนอกจากผลิตภัณฑ์เหล่านี้แล้ว ยังมีส่วนของเคมีภัณฑ์ต่าง ๆ ซึ่งอยู่ในชีวิตประจำวันของเราทั้งทางตรงและทางอ้อม
วันที่ 21 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา บริษัท เอ็กซอนโมบิล มาร์เก็ตติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศความมุ่งมั่นที่จะให้บริการทั้งผู้บริโภคและภาคธุรกิจของประเทศไทยด้วยผลิตภัณฑ์จากนวัตกรรมคุณภาพ โดยเดินหน้าทำการตลาดผลิตภัณฑ์หล่อลื่น Mobil™ และเคมีภัณฑ์ในประเทศไทยต่อไป ภายใต้แนวคิด “โมบิล เพิ่มความมั่นใจในทุกการเดินทาง”
หลังจากนั้น ทางผู้บริหารของ เอ็กซอนโมบิล มาร์เก็ตติ้ง (ประเทศไทย) ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนในเรื่องของทิศทางของบริษัทที่จะเกิดขึ้นหลังเหตุการณ์ต่าง ๆ โดยเฉพาะเมื่อ เอสโซ่ (ประเทศไทย) ถูกซื้อกิจการโดย บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) รวมถึงในประเด็นอื่น ๆ
AutoFun Thailand ได้รวบรวมประเด็นสำคัญจากการแถลงข่าวครั้งนี้ รวมถึงข้อมูลจากการสัมภาษณ์ผู้บริหารของเอ็กซอนโมบิล มาร์เก็ตติ้ง (ประเทศไทย) มาให้อ่านกันครับ
จากที่กล่าวไว้ข้างต้น เอ็กซอนโมบิล ไม่ได้มีเพียงสถานีน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับรถยนต์เท่านั้น แต่รวมถึงผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เช่น น้ำมันหล่อลื่น เคมีภัณฑ์ หากพิจารณาถึงสัดส่วนของสถานีบริการน้ำมันอย่าง Esso นั้นถือว่าเป็นส่วนหนึ่งเท่านั้น
ข้อมูลจากการแถลงข่าวครั้งนี้ระบุว่า ผลิตภัณฑ์สำหรับหล่อลื่นจะอยู่ภายใต้แบรนด์ Mobil ซึ่งประกอบด้วย Mobil 1 และ Mobil Super สำหรับรถยนต์ส่วนบุคคล Mobil Delvac สำหรับรถเพื่อการพาณิชย์ และ Mobil SHC สำหรับการใช้งานกับเครื่องจักรและอุปกรณ์ในภาคอุตสาหกรรม
สำหรับผลิตภัณฑ์ที่เป็นเคมีภัณฑ์ก็มีด้วยเช่นกัน ซึ่งจะเป็นสารละลายประเภทไฮโดรคาร์บอนที่หลากหลายภายใต้แบรนด์ต่าง ๆ สำหรับธุรกิจและอุตสาหกรรมต่าง ๆ โดยผลิตภัณฑ์เหล่านี้เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของเราทั้งทางตรงและทางอ้อม
ได้แก่ Isopar เป็นเคมีภัณฑ์ที่ใช้อุปโภคบริโภค, Exxsol ตัวทำละลายที่ดีและไม่ส่งผลต่อสุขภาพ และ Solvesso เป็นสารละลายประเภทอะโรมาติก มีความสามารถทำละลายสูง ให้การระเหยที่เหมาะสม เช่น เคมีเกษตร สีพ่นรถยนต์
จะเห็นได้ว่า เอ็กซอนโมบิล มีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย และ Esso นั้นถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของผลิตภัณฑ์สำหรับรถยนต์ส่วนบุคคลเท่านั้น
ผู้บริหารได้ตอบคำถามนี้ว่า เอ็กซอนโมบิล นั้นประกอบด้วยธุรกิจย่อยหลายธุรกิจด้วยกัน ซึ่งแยก Value Chain จนเหมือนกับแยกธุรกิจกันไป การขาย Esso จึงเป็นการขายเฉพาะหนึ่งในธุรกิจที่มีเท่านั้น ธุรกิจอื่นที่มียังดำเนินการตามปกติ
โดยส่วนของธุรกิจน้ำมันใส (น้ำมันเชื้อเพลิงรถยนต์) ภายใต้บริษัทเอสโซ่ (ประเทศไทย)จะถูกขายให้บางจากไป แต่พนักงานที่มีจะถูกโยกย้ายให้ทำงานอยู่เช่นเดิม
ผู้บริหารกล่าวว่า การขายกิจการ Esso เป็นผลมาจากการ Optimize Portfolio เพื่อเพิ่มผลตอบแทนให้บริษัท และเป็นการส่งต่อกิจการให้กับคนที่เห็นคุณค่าเพื่อนำไปพัฒนาต่ออีกด้วย
ผู้บริหารให้สัมภาษณ์กับเราว่า การขาย Esso เป็นการปิดช่องทางการจำหน่ายสินค้า แต่ก็มีช่องทางอื่น ๆ ที่มีอยู่แล้ว ได้แก่ ศูนย์บริการรถยนต์ อู่ซ่อมรถที่เป็นพันธมิตร รวมไปถึงการผลิตเป็น OEM ให้บริษัทรถยนต์
ผู้บริหารยังเสริมว่า ผลกระทบในด้านยอดขายอาจมีบ้างในช่วงต้น แต่เชื่อว่าจะกลับมาได้ เพราะธุรกิจน้ำมันหล่อลื่นนั้นยังมีความต้องการที่สูง และมีความยืดหยุ่นต่อสถานการณ์ต่าง (โดยยกตัวอย่างกรณีโรคระบาดโควิด-19 ที่คนยังต้องใช้การขนส่งอยู่)
สำหรับการลงทุนเพื่อการผลิตนั้น ผู้บริหารชี้แจงว่า ในปัจจุบันที่มีการนำเข้าผลิตภัณฑ์จากประเทศสิงคโปร์นั้นเพียงพออยู่แล้ว แต่การลงทุนสำหรับตลาดประเทศไทยนั้นจะเป็นเรื่องการตลาดที่ต้องการสร้างการรับรู้และความเชื่อมั่นในแบรนด์ Mobil มากกว่า
ผู้บริหารชี้แจงว่า ผลิตภัณฑ์สำหรับรถ EV ในตลาดประเทศอื่น ๆ นั้นมีอยู่แล้ว ซึ่งจะอยู่ในรูปแบบของผลิตภัณฑ์หล่อลื่นระบบต่าง ๆ ในรถยนต์ไฟฟ้าภายใต้ชื่อ Mobil EV แต่สำหรับประเทศไทยนั้นอยู่ในขั้นตอนของการมองหาพันธมิตรกันก่อน
ผู้บริหารกล่าวว่าจะมีกิจกรรมให้กับผู้ใช้น้ำมันเครื่อง Mobil 1 ซึ่งจะมีการแจ้งกำหนดการในภายหลัง
อ่านเพิ่มเติม: เหตุใด Shell ยังมั่นใจพัฒนา V-Power ท่ามกลางกระแส EV - คนยังใช้น้ำมันอีกหลายปี?
ตรวจสภาพรถ 175 จุด
รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
การรับประกัน 1 ปี
ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง
{{variantName}}
{{carMileage}} กม.
{{registrationYear}} ปี
{{storeCity}}