รู้จักกับชายผู้ที่ถือครองหมายเลข 46 กับตำนานบนเส้นทางแห่งความเร็วที่ยังมีลมหายใจ Valentino Rossi

ตำแหน่งอยู่ไม่นาน แต่ตำนานจะอยู่ตลอดไป ประโยคนี้คงใช้อธิบายบุคคลผู้เป็นตำนานแห่งโลกแห่งความเร็วอย่าง Valentino Rossi (วาเลนตีโน รอสซี) เจ้าของตำแหน่งแชมป์โลก Wold Grand Prix 9 สมัย ได้เป็นอย่างดี

>>>2021 Yamaha YZF-R1

>>>2021 Yamaha YZF-R6

>>>2022 Yamaha YZF-R7

สำหรับผู้ที่เป็นสายความเร็ว หรือไบค์เกอร์หลาย ๆ คนคงจะรู้จักกับ Valentino Rossi กันเป็นอย่างดีอยู่แล้วไม่มากก็น้อย แต่สำหรับผู้ที่ไม่เคยได้ยินชื่อของ Rossi หรือไม่เคยรู้จักมาก่อนว่าเขาเป็นใคร และทำไมผู้คนในโลกความเร็ว หรือสายรถมอเตอร์ไซค์จึงต่างพากันยกย่องบุคคลผู้นี้ วันนี้ทาง AutoFun Thailand จะพาทุกคนไปรู้จักถึงประวัติความยิ่งใหญ่ของบุคคลอันเป็นตำนานผู้นี้กัน

Valentino Rossi เจ้าของตำแหน่งแชมป์โลก Wold Grand Prix 9 สมัย

Valentino Rossi (วาเลนตีโน รอสซี) หรือ Rossi ที่หลายคนเรียกกันเขาเกิดเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ค.ส.1979 ที่แคว้นตาวุลเลีย เมืองอูร์บีโน ประเทศอิตาลี โดย Rossi เป็นลูกชายของ Graziano Rossi(กราเซียโน รอสซี) อดีตนักแข่งรถมอเตอร์ไซค์ที่ใช้หมายเลข 46 ซึ่งนี่เองเป็นที่มาของหมายเลข 46 ซึ่งเป็นหมายเลขประจำตัวของ Rossi นั่นเอง

Rossi และพ่อของเขา

โดย Valentino Rossi นั้นได้รับฉายาในวงการว่า “เดอะด็อกเตอร์” หรือ “พ่อหมอ” ที่คนไทยส่วนใหญ่เรียกกันจนติดปากนั่นเอง โดยฉายาดังกล่าวที่ว่านี้ก็ไม่ได้เป็นเพียงแค่คำเรียกลอย ๆ เพราะความเป็นอัจฉริยะในเรื่องของความเร็วในตัว Rossi นั้นได้ฉายแววมาตั้งแต่เด็กเมื่อเขามีอายุเพียง 17 ปีเท่านั้น

หมายเลขประจำตัวบนรถแข่งของ Rossi ได้มาจากพ่อของเขานั่นเอง

ซึ่งเมื่ออายุ 17 ปี Rossi ได้ลงแข่งขันในรายการ World Grand Prix กับทาง Aprilia หรือเกมชิงแชมป์โลกในรุ่น WGP 125 โดยในปีแรกลงแข่งขัน 15 สนามได้คะแนนสะสม 111 คะแนนรั้งอันดับ 9 ของโลก ซึ่งเขาสามารถขึ้นโพเดี้ยมได้ถึง 2 ครั้งด้วยกัน และต่อมาในปี 1997 Rossi ก็สามารถแผลงฤทธิ์ได้สำเร็จด้วยรถ Aprilia RS125 ด้วยการคว้าแชมป์โลกในรุ่น WGP125 มาครองกับชัยชนะอันดับ 1 ถึง 11 สนามพร้อมคะแนนสะสมรวม 321 คะแนน 

เมื่ออายุ 17 เขาก็เริ่มฉายแวว

ต่อมาในปี 1998 ทาง Rossi ได้ขยับขึ้นไปแข่งในรุ่น WGP250 ซึ่งเป็นรุ่นที่ใหญ่ขึ้น ก็สามารถแสดงความอัจฉริยะด้วยการคว้าอันดับที่ 2 ในแต้มสะสมระดับโลกมาครอง และในปี 1999 ก็สามารถคว้าแชมป์โลกในรุ่น WGP250 มาครองได้สำเร็จด้วยชัยชนะ 9 ครั้ง และขึ้นโพเดี้ยมรวม 12 ครั้งจาก 16 สนามมีคะแนนสะสมรวม 309 คะแนน

รถแข่งในรุ่น WGP250 ของ Rossi

หลังจากที่ Rossi สามารถคว้าแชมป์โลกในรุ่น WGP250 ได้ก็ได้ขยับตัวเองขึ้นมาขี่ในรุ่นพรีเมี่ยมคลาสซึ่งในสมัยนั้นในปี 2000-2001 ยังคงใช้เป็นรุ่น WGP500 ซึ่งทางตัว Rossi เองก็สามารถคว้าแชมป์ในรุ่น 500 ซี.ซี. มาครองได้ในปี 2001 ด้วยรถมอเตอร์ไซค์ Honda NSR500

Honda NSR500 ในรุ่นพรีเมี่ยมคลาสของ Rossi

และต่อมาในปี 2002 เกมในพรีเมียมคลาสได้เปลี่ยนจากรถมอเตอร์ไซค์ 2 จังหวะ 500 ซี.ซี. เปลี่ยนมาเป็นรถมอเตอร์ไซค์ 4 จังหวะขนาด 990 ซี.ซี. แทน ซึ่งสำหรับการปรับเปลี่ยนในรุ่นพรีเมียมคลาสนี่เองทำให้ Rossi สามารถสร้างตำนานสุดยิ่งใหญ่ของตัวเองได้ด้วยการครองแชมป์โลกติดต่อกันได้ถึง 4 ปีซ้อนตั้งแต่ปี 2002-2005 

ในปี 2002-2003 Rossi ได้คว้าแชมป์โลกในทีม Honda 

โดยในปี 2004 ทาง Rossi ได้ตัดสินใจย้ายทีมมาอยู่กับ Yamaha และมีรถแข่งคู่กายเป็นรถอย่าง Yamaha YZR-M1 โดยในปีแรกกับรถแข่งคันใหม่ Rossi ก็สามารถคว้าตำแหน่งแชมป์โลกมาครองได้สำเร็จด้วยการขึ้นโพเดี้ยมได้มากถึง 11 ครั้ง โดยเป็นผู้ชนะถึง 9 ครั้งพร้อมโกยคะแนนสะสมแชมป์โลกไว้ที่ 304 คะแนน

ในปี 2002-2005 Rossi สามารถคว้าแชมป์โลกมาครองได้ถึง 4 สมัยติดต่อกัน

ต่อมาในปี 2005 ฉายา “เดอะด็อกเตอร์” ก็ได้ฉายแววอย่างต่อเนื่องด้วยการคว้าตำแหน่งแชมป์โลกในปี 2005 มาครองได้สำเร็จอีก 1 สมัย และต่อมาในปี 2006 และ 2007 แม้ Rossi จะไม่ได้แชมป์โลก แต่ก็ติดอันดับการคว้าตำแหน่งในอันดับที่ 2 และ 3 ก่อนที่จะกลับมาผงาดสู่ความเป็นแชมป์โลกอีกครั้งในปี 2008 และ 2009 ด้วยการคว้าแชมป์โลกติดต่อกัน และยังกลายเป็นเจ้าของตำแหน่งแชมป์โลก 9 สมัยอีกด้วย

Rossi ในปี 2009 

และต่อมาในปี 2010 ทั่วโลกต่างต้องอึ้งเมื่อทางตัวพ่อหมอได้ประกาศย้ายทีมไปอยู่กับทีมจากประเทศบ้านเกิดภายใต้สังกัดของ Ducati แต่ผลปรากฏว่าหลังจากย้ายทีมไปในฤดูกาล 2011 - 2012 ผลปรากฏว่า Rossi ไม่สามารถคว้าชัยชนะได้เลยแม้ในสนามเดียว 

Rossi กับทีม Ducati

จนในที่สุดในปี 2013 Valentino Rossi ก็ได้กลับมาบ้านเก่าอย่าง Yamaha อีกครั้ง พร้อมกับการขึ้นโพเดี้ยมได้ถึง 6 ครั้งและเป็นการคว้าชัยชนะมาครองได้ 1 ครั้งมีคะแนนสะสมรั้งอันดับที่ 4 ของโลก และในปี 2014 และปี 2015 Rossi ก็กลับมาทวงบัลลังก์ความยิ่งใหญ่ได้อีกครั้ง ด้วยการคว้าอันดับที่ 2 ในคะแนนสะสมแชมป์โลก MotoGP มาครองพร้อมทั้งยังเป็นการปลุกกระแสฟีเวอร์ Rossi หวนกลับมาอีกครั้ง 

กลับมาอยู่กับ Yamaha อีกครั้งในปี 2013

และในปีนี้เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาทาง Valentino Rossi ก็ได้ออกมาแถลงข่าวให้แฟน ๆ ได้ช็อคกันไปตาม ๆ กันเมื่อเจ้าตัวได้ออกมาพูดว่าฤดูกาลในปี 2021 นี้จะทำการแข่งขันเป็นปีสุดท้ายแล้ว ก่อนที่จะอำลาวงการ MotoGP ซึ่งก่อนที่ Rossi จะอำลาวงการนี้เขาได้สร้างประวัติความยิ่งใหญ่ของตัวเองเอาไว้มากมายให้เกิดขึ้นกับวงการมอเตอร์สปอร์ตที่มากกว่า 20 ปี

ปี 2021 จะเป็นฤดูกาลสุดท้ายของตำนานสุดยิ่งใหญ่คนนี้

โดย Valentino Rossi ได้จารึกสถิติของตนเองลงในรายการแข่งขันอย่าง World Grand Prix ไว้อย่างมากมายไม่ว่าจะเป็นการลงแข่งขันในรายการนี้มาแล้วกว่า 374 ครั้ง (นับจากปี1996-2015) การมีคะแนนสะสมรวมกันทั้งสิ้น 5,418 คะแนน เป็นการขึ้น โพเดี้ยมรวมทั้งหมด 211 ครั้ง โดยแบ่งเป็นรุ่น 125 ซี.ซี. 15 ครั้ง รุ่น 250 ซี.ซี. 21 ครั้ง 

Rossi ได้สร้างสถิติไว้มากมายในการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ต

รุ่นพรีเมียร์คลาส (500/MotoGP) 175 ครั้ง และถ้านับการครองชัยชนะอันดับที่ 1 Rossi สามารถคว้าชัยชนะได้มากถึง 112 ครั้ง โดยเป็นรุ่น 125 ซี.ซี. 12 ครั้ง รุ่น 250 ซี.ซี. 14 ครั้ง และรุ่นพรีเมียร์คลาสอีก 86 ครั้ง ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเพียงเหตุการณ์สำคัญเพียงส่วนหนึ่งของผู้ชายที่เปรียบดั่งตำนานแห่งโลกของความเร็ว MotoGP เพียงเศษเสี้ยวเท่านั้นของความสำเร็จของเขา

และนี่คือตำนานที่ยังมีลมหายใจของโลกแห่งความเร็ว

ซึ่งหลังจากนี้เราคงต้องมารอดูกันต่อไปว่าตำนานที่ยังมีลมหายใจอย่าง Valentino Rossi จะทำอะไรต่อไปในโลกของกีฬาความเร็วอย่าง MotoGP ซึ่งเราเชื่อว่าเขาจะไม่หายไปไหนอย่างแน่นอน เพียงแต่เขาจะไปนั่งอยู่ตรงจุดไหน และตำแหน่งอะไรต่อไปแค่นั้นเอง

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

  

 

 

 

 

ติดตามพวกเราได้ที่:
Archa

นักเขียนอาวุโส

นักเขียน/นักทดสอบรถจักรยานยนต์ประสบการณ์กว่า 7 ปีในแวดวง 2 ล้อ ใช้รถมอเตอร์ไซค์เดินทางไปไหนมาไหนตั้งแต่อายุ 10 ปี ได้เรียนรู้...

ข่าวล่าสุด

ยุโรปออกกฎหมายต้องมี EV Fast Chargers ทุก ๆ 60 กิโลเมตรบนทางหลวง!

ยุโรปออกกฎหมายต้องมี EV Fast Chargers ทุก ๆ 60 กิโลเมตรบนทางหลวง! เมื่อมีรถยนต์ไฟฟ้า และรถมอเตอร์ไซค์ออกสู่ท้องถนนมากขึ้นเรื่อย ๆ ถึงเวลาแล้วที่ต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานการชาร์จเร็วของยานยนต์ไฟฟ้าเหล่านี้ แน่นอนว่ามีสถานีชาร์จไฟฟ้าหลายร้อยแห่งกระจายอยู่ตามเมืองส่วนใหญ่ทั่วโลก แต่กลับกันในเส้นทางข้ามรัฐ หรือทางด่วนทั้งหลายกลับยังมีจุดชาร์จเหล่านี้อยู่น้อยมาก ๆ ซึ่งด้วยจุดนี้เองทำให้ยุโรปจำเป็นต้องออกกฎหมายเพื่อเพิ่มจุดชาร์จเหล่านี้อย่างรวดเร็วบนทางหลวงระหว่างรัฐต่าง ๆ กฎหมาย

แอบส่องสเปค Triumph Speed 400 และ Scrambler 400 X ก่อนวางจำหน่ายไทย!

แอบส่องสเปค Triumph Speed 400 และ Scrambler 400 X ก่อนวางจำหน่ายไทย! หลังสร้างกระแสฮือฮาครั้งใหญ่ให้ตลาดรถมอเตอร์ไซค์คลาส 400cc ได้คึกคัก กับการเปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์ 2 รุ่นใหม่ล่าสุดจาก Triumph Motorcycle ได้แก่ “สปีด 400” (Speed 400) และ “สแครมเบลอร์ 400 เอ็กซ์” (Scrambler 400 X) ถือเป็นน้องเล็กสุดของแบรนด์ ที่ตอนนี้เชื่อว่าหลาย ๆ คนต่างเฝ้ารอกันอย่างใจจดจ่อ กับราคาที่เตรียมเปิดตัวในประเทศไทยในช่วงเดือนมกราคม และการทดสอบการขับขี่บนถนนจริง ดังนั้นก่อนที่จะได้ยลโฉม และสัมผัสความเอ็กซ์คลูซีฟ จะขอพา

Gogoro และ Muji ร่วมมือกันสร้างสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ารักษ์โลกด้วยแผงพลาสติกรีไซเคิล!

Gogoro และ Muji ร่วมมือกันสร้างสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ารักษ์โลกด้วยแผงพลาสติกรีไซเคิล! Gogoro ผู้บุกเบิกเทคโนโลยียานยนต์ด้วยไฟฟ้า และแบตเตอรี่จากไต้หวันได้ออกมาประกาศความร่วมมือกับ Muji แบรนด์ไลฟ์สไตล์อันโด่งดังของประเทศญี่ปุ่น ถึงความร่วมมือโดยตรงกับ Naoto Fukasawa ดีไซเนอร์ชื่อดังของ Muji โดยที่ความร่วมมือดังกล่าวได้ให้กำเนิดรถมอเตอร์ไซค์สกู๊ตเตอร์รุ่นพิเศษ รวมถึงสินค้าแบรนด์ร่วมอีกมากมาย ซึ่งทั้ง 2 บริษัทได้ร่วมมือกันเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “Recycling for Good” ซึ่งมีจุดมุ่งหมายคือการรีไซเคิลขยะพ

Mash Belena แม็กซี่สกู๊ตเตอร์ที่อังกฤษออกแบบ แต่จีนผลิต!

Mash Belena แม็กซี่สกู๊ตเตอร์ที่อังกฤษออกแบบ แต่จีนผลิต! ดูเหมือนว่าในตอนนี้ประเทศจีนจะยึดหัวหาดในเรื่องการผลิตยานยนต์โลกไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย โดยเฉพาะความร่วมมือระหว่างยุโรป และจีนทางด้านยานยนต์ในปัจจุบันดูเหมือนจะกลายเป็นเรื่องปกติทั่วไปแล้ว เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่าทั้งการออกแบบ รวมไปถึงขั้นตอนการผลิตในยุโรปนั้นมีราคาต้นทุนที่ค่อนข้างสูง ดังนั้นการให้ประเทศต้นทางอย่างยุโรปเป็นผู้ออกแบบผลิตภัณฑ์ แต่ส่งไปผลิตที่ประเทศจีนนั้นดูจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ และสามารถลดต้นทุนการผลิตได้อย่างมหาศาล Mash

Harley-Davidson X440 ประกาศจะปรับราคาขึ้นอีกหลังจากเปิดตัว!

Harley-Davidson X440 ประกาศจะปรับราคาขึ้นอีกหลังจากเปิดตัว! สำหรับทาง Harley-Davidson ที่ในตอนนี้ดูเหมือนจะหันมาบุกตลาดรถมอเตอร์ไซค์ขนาดเล็กมากขึ้นอย่าง Harley-Davidson X440 ที่ได้เปิดตัวพร้อมวางจำหน่ายไปในประเทศอินเดียก่อนหน้านี้ถือเป็นรถมอเตอร์ไซค์รุ่นที่เล็กที่สุดของทาง Harley-Davidson ที่มีวางจำหน่ายในตอนนี้ หลังจากที่ได้ผ่านช่วงราคาแนะนำมาแล้ว ดูเหมือนว่าทาง Harley-Davidson อินเดียได้ออกมาประกาศราคาใหม่ของมันอย่างเป็นทางการสำหรับการวางจำหน่ายโดยทั่วไปแล้ว ประกาศอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 2

รถแนะนำสำหรับคุณ

ยอดนิยมล่าสุดอัพเดท
ฮิต
Honda

Honda ADV150

THB 98,500 - 98,900

ดูรุ่นรถ
ฮิต
Yamaha

Yamaha XSR155

THB 91,500

ดูรุ่นรถ
ฮิต
Yamaha

Yamaha Xmax 300

THB 168,000 - 172,900

ดูรุ่นรถ
ฮิต
Kawasaki

Kawasaki Ninja 400

THB 205,000 - 226,800

ดูรุ่นรถ
ฮิต
Yamaha

Yamaha SR400

THB 275,000 - 285,000

ดูรุ่นรถ
ฮิต
Honda

Honda CB650R

THB 305,000 - 309,100

ดูรุ่นรถ
Yamaha

Yamaha Aerox

THB 67,500 - 78,500

ดูรุ่นรถ
Yamaha

Yamaha YZF R1

THB 899,000 - 1,149,000

ดูรุ่นรถ
MV Agusta

MV Agusta F4

THB 1,750,000

ดูรุ่นรถ
KTM

KTM RC 390

THB 239,800

ดูรุ่นรถ
Royal Enfield

Royal Enfield Meteor 350

THB 169,900

ดูรุ่นรถ
Suzuki

Suzuki Katana

THB 569,000

ดูรุ่นรถ
Suzuki

Suzuki Raider J Crossover

THB 46,250

ดูรุ่นรถ