อินโดนีเซียประกาศเดินหน้าแผนงานหลักในการเดินหน้าธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า ด้วยการประกาศ 'ดัดแปลง' รถจักรยานยนต์จากเครื่องยนต์สันดาปภายในให้กลายเป็นรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ภายใต้การบริหารงานของธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในประเทศ
แผนงานดังกล่าวจะช่วยส่งเสริมการใช้งานรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ช่วยลดมลภาวะ รวมถึงเป็นการสร้างงานให้เกิดขึ้นในประเทศ ตามความต้องการของผู้นำประเทศ ที่มีรายงานระบุว่าพวกเขาได้ริเริ่มโครงการดัดแปลงรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าไปบ้างแล้วตอนนี้
โครงการดังกล่าวได้เริ่มจากการดัดแปลงรถจักรยานยนต์ในช่วงเริ่มต้น 10 คัน และจะเริ่มพัฒนาอีก 90 คันต่อเนื่องภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ และหากทุกอย่างสำเร็จตามแผน ก็จะเร่งเครื่องในการเดินหน้าการดัดแปลงรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าบนท้องถนนทันที
อินโดนีเซียตั้งเป้าหมายที่จะมีรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าบนท้องถนน ทั้งรูปแบบของรถจักรยายนต์ไฟฟ้าจากโรงงานและรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าดัดแปลงบนท้องถนนถึง 13 ล้านคัน รวมไปถึงรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า 2.2 ล้านคันให้ได้ ภายในกำหนดปี 2573
นอกจากนี้ พวกเขายังตั้งเป้าหมายที่จะยกเลิกการจำหน่ายรถที่ใช้พลังงานเชื้อเพลิงรูปแบบดั้งเดิมภายในปี 2593 ซึ่งน่าสนใจว่าประเทศที่มีรถยนต์มากกว่า 15 ล้านคัน รถจักรยานยนต์มากกว่า 112 ล้านคัน ก่อมลพิษอย่างมหาศาลนี้ จะเดินหน้าไปในทิศทางใด
รัฐบาลมีการยืนยันเพิ่มเติมด้วยว่า นอกเหนือไปจากรถยนต์และรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลที่จะต้องเปลี่ยนไปใช้เครื่องยนต์ไฟฟ้าแล้ว ภาครัฐเองก็อยู่ระหว่างการศึกษาที่จะทำการดัดแปลงรถโดยสารสาธารณะให้หันมาใช้เครื่องยนต์ไฟฟ้าทดแทนเช่นเดียวกัน
"ถ้าหากต้องการให้เกิดความคุ้มค่าในการลงทุน สิ่งที่ต้องทำก็คือการสร้างตลาดให้เกิดขึ้นก่อน" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานกล่าว และเรียกร้องว่าเทคโนโลยีในการดัดแปลงรถเหล่านี้ ควรที่จะพัฒนาขึ้นมาในระดับของธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
อินโดนีเซียต้องเร่งสร้างตลาดยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อเป้าหมายในการเป็นฐานการผลิตของแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าและรถไฟฟ้า ที่ต้องแข่งกับผู้ประกอบการในประเทศอื่น ๆ โดยเฉพาะประเทศไทยที่มีความพร้อมด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ระดับเดียวกัน
แน่นอนว่าโครงการดัดแปลงรถยนต์ไฟฟ้าและรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยนั้น มีการทดลองและทำใช้กันในหลายหน่วยงาน รวมไปถึงผู้ประกอบการขนาดกลาง-ขนาดย่อมก็สามารถทำการทดสอบได้ เราจึงเห็นโครงการเหล่านี้มากมายไปหมด
อย่างไรก็ตาม ปัญหาของการดัดแปลงรถยนต์ไฟฟ้าก็อยู่ที่การนำมาใช้งานจริงบนท้องถนน ที่ดูเหมือนกฎหมายจะยังไม่เปิดช่องให้นำมาใช้ได้อย่างจริงจัง ตลาดรถไฟฟ้าดัดแปลงเหล่านี้จึงใช้งานอยู่ในแวดวงจำกัด หรือไม่ก็เป็นโครงการทดลองเสียมากกว่า
ผู้ประกอบการรายใหญ่ทั้งภาครัฐและเอกชนก็มองธุรกิจนี้อยู่เช่นเดียวกัน และมองข้ามไปถึงการพัฒนารถจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่สามารถสลับแบตเตอรี่ได้ พร้อมให้บริการสถานีสลับแบตเตอรี่แบบไม่ต้องเสียเวลาชาร์จไฟ ซึ่งน่าจะเป็นทิศทางแห่งโลกอนาคต
ขณะเดียวกัน นอกเหนือไปจากรถยนต์และรถจักรยานยนต์แล้ว ในประเทศไทยยังมียานพาหนะมากมายที่ทั้งอยู่ในช่วงทดลองและใช้งานจริง ไม่ว่าจะเป็นรถโดยสาร สามล้อ หรือแม้แต่เรือด่วนเจ้าพระยาก็มีเวอร์ชั่นที่เป็นเครื่องยนต์ไฟฟ้ามาให้บริการอยู่
การแข่งขันเพื่อเป็นฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าระหว่างประเทศไทยและอินโดนีเซียน่าจะยังอีกนาน ซึ่งนอกจากความพร้อมในการผลิต การเปิดตลาดรถไฟฟ้าให้ได้อย่างมั่นคงก็เป็นอีกปัจจัยที่จะถูกนำมาพิจารณาเช่นกัน