ลองขี่มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า Etran Myra สัญชาติไทย 1 วันในกรุงเทพฯ ตกลงมันเวิร์คไหม ?

ลองขี่มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า Etran Myra สัญชาติไทย 1 วันในกรุงเทพฯ ตกลงมันเวิร์คไหม ?

สำหรับเรื่องของยานยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบันนั้นเราคงได้เห็นกันแล้วว่ามันเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะหากมองจากกระแส และทิศทางจากทั่วโลกในตอนนี้หลาย ๆ ประเทศกำลังเลือกที่จะทิ้งเครื่องยนต์สันดาป และน้ำมันเอาไว้เบื้องหลัง และมุ่งหน้าไปสู่แหล่งพลังงานใหม่อย่างไฟฟ้าแทน

ซึ่งสำหรับในประเทศไทยของเราเองนั้นก็ได้รับอิทธิพลมาด้วยเช่นกัน ถึงแม้ในบ้านเราจะเป็นการเปลี่ยนแปลงที่เป็นไปอย่างช้า ๆ แต่เราก็เริ่มได้เห็นแล้วว่าในปัจจุบันบนท้องถนนโดยเฉพาะในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ นั้นเริ่มมีรถที่ใช้พลังงานไฟฟ้าวิ่งไปวิ่งมาให้เราได้เห็นเยอะขึ้นแล้ว โดยเฉพาะรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าในอุตสาหกรรมของการขนส่งเดลิเวอรี่ต่าง ๆ ที่กำลังได้รับความนิยม และแพร่หลายเป็นอย่างมาก

มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ากำลังมา

และแน่นอนในเมื่อกระแสมันกำลังมาทาง AutoFun Thailand ก็ไม่รอช้ารีบติดต่อบริษัทรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าสัญชาติไทยแท้ ๆ อย่าง Etran (อีทราน) เข้าไปทันทีว่าเราอยากจะลองขี่รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าอย่าง Etran Myra (อีทราน ไมร่า) ใช้งานจริงในกรุงเทพฯ ดูซัก 1 วันว่ามันจะเวิร์คหรือไม่

  • ทำความรู้จัก Etran Myra
  • มอเตอร์ไฟฟ้ามันแรงมาก
  • แบตเตอรี่คือหัวใจสำคัญ
  • ไม่ง้อน้ำมันประหยัดสุด ๆ
  • ราคาหลากหลายจะเช่าขี่ก็มี จะซื้อขาดก็ได้
  • ใช้งานจริงขี่สนุกกว่าที่คิด

Etran Myra

ทำความรู้จัก Etran Myra

Etran Myra คือรถมอเตอร์ไซค์สไตล์สกู๊ตเตอร์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้าแบบ 100% ซึ่งตัวที่เราได้นำมาทดสอบขับขี่กันนั้นขอเรียกว่าเวอร์ชั่น 1.5 ก็แล้วกัน เพราะหลังจากนี้ตัวที่ผลิตจำหน่ายจริงจะถูกเรียกว่า Etran Myra Gen 2 ซึ่งความแตกต่างจะเป็นในเรื่องของความสวยงาม และรายละเอียดชิ้นส่วน และงานประกอบต่าง ๆ จะเนียนขึ้น ดูดีขึ้นเท่านั้นเอง โดยที่ตัวเครื่องยนต์ และระบบขับเคลื่อนมอเตอร์ต่าง ๆ จะเป็นแบบเดียวกับตัวที่เราได้ทดสอบ

งานประกอบในเวอร์ชั่นนี้ยังไม่เนียนเท่าไหร่

สำหรับภายนอกนั้น Etran Myra มาพร้อมดีไซน์ของรถสกู๊ตเตอร์ที่เห็นแล้วดูแปลกตาตัวรถโดดเด่นมาด้วยชุดไฟ LED ด้านหน้าที่ต้องบอกเลยว่าสว่างจ้าแบบสุด ๆ เมื่อยามคุณขับขี่บนท้องถนน สาเหตุที่ต้องทำให้ตัวไฟด้านหน้ามีความสว่างและออกฟุ้ง ๆ มากกว่ารถทั่วไปก็เพราะว่ารถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้านั้นจะมีเสียงที่เงียบมาก ๆ ดังนั้นทาง Etran จึงได้ทำให้ไฟหน้าของรถเป็นจุดสังเกตที่สามารถมองเห็นได้ง่ายนั่นเอง 

ชุดไฟ LED ด้านหน้าสว่างแยงตา

ส่วนต่อมาคือแฮนด์บาร์ทรงกว้างแบบยกสูง พร้อมมุมบังคับเลี้ยวที่แคบสุด ๆ ซึ่งทำให้คุณบังเลี้ยวเจ้า Etran Myra คันนี้ได้อย่างง่ายดาย พร้อมเบาะนั่งผู้ขับขี่ขนาดใหญ่ กับตำแหน่งวางเท้าที่เรารู้สึกว่ามันค่อนข้างสูงไปหน่อยไม่ผ่อนคลายอย่างที่คิด แต่เมื่อมองถึงวัตถุประสงค์ที่สร้างขึ้นมาเพื่อเหล่าไรเดอร์ที่ต้องจอดส่งของอยู่ตลอดเวลาเราก็เข้าใจได้

แฮนด์บาร์ทรงสูงเข้ามือ

มอเตอร์ไฟฟ้ามันแรงมาก

สำหรับ Etran Myra คันนี้นั้นมันมาพร้อมกับชุดขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้าที่มีกำลังมากถึง 4,000 W ซึ่งสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ 120 กม./ชม. พร้อมแรงบิด 150 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 7 วินาที ซึ่งเราบอกเลยว่ามันแรงสุด ๆ หากคุณไม่เคยขี่รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ามาก่อนเรากล้าพูดได้เลยว่าหากคุณกำลังเลี้ยวแล้วเผลอเปิดคันเร่งเยอะไปอาจจะมีลงไปคุยกับแบริเออร์ข้างถนนได้ง่าย ๆ เลย เพราะเราเองก็เกือบมาแล้ว เนื่องจากรถไฟฟ้านั้นกำลังของเครื่องยนต์มาจากมอเตอร์โดยตรงโดยที่ไม่ต้องรอรอบแบบรถน้ำมันในเครื่องยนต์สันดาป จึงทำให้คันเร่งของรถไฟฟ้านั้นเปิดเมื่อไหร่มาเมื่อนั้น และที่สำคัญมาเต็มเลยด้วย ซึ่งต้องบอกเลยว่าในด้านความแรงของ Etran Myra นั้นเราไม่หักเลยรับรองว่าสายซิ่งถูกใจแน่นอน แต่ก็อย่างที่เราพูดไปว่าคันเร่งของมันไวมากเพราะฉะนั้นต้องควบคุมให้ดีแล้วคุณจะพบเจอกับความสนุก

ขี่สนุกเปิดเป็นมา

แบตเตอรี่คือหัวใจสำคัญ

แน่นอนว่ารถทั่วไปต้องเติมน้ำมัน แต่สำหรับรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้านั้นหัวใจสำคัญคือแบตเตอรี่และสำหรับในเวอร์ชั่นใหม่นี้ทาง Etran ก็ได้ปรับปรุงแบตเตอรี่ใหม่ให้มีน้ำหนักที่เบาขึ้น ขนาดที่เล็กลง แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถจุไฟได้มากขึ้นซึ่งแบตเตอรี่แบบใหม่นี้สามารถจุไฟได้ 51 ah/ ลูก ซึ่งแบตเตอรี่ 1 ลูกสามารถวิ่งได้ไกลถึง 125 กม. นั่นเท่ากับว่าหากเราใส่แบตเตอรี่เต็มความจุที่ 2 ลูก Etran Myra คันนี้จะสามารถวิ่งได้ไกลถึง 250 กม. เลยทีเดียว แต่อย่างที่เรา ๆ เข้าใจเลยว่าระยะทางที่ทาง Etran ได้เครมเอาไว้นั่นคือการขับขี่ที่ต้องประหยัดซึ่งนั่นก็คือการวิ่งด้วยความเร็วที่ 55-60 กม./ชม. เท่านั้น ซึ่งในชีวิตจริงแน่นอนว่าย่อมจะต้องมีความเร็วที่เกินกว่านั้นอย่างแน่นอนรวมไปถึงตัวของเราเองที่ขณะขับขี่ก็ใช้ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 80-100 กม./ชม. ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อเราขับขี่ด้วยความเร็วที่สูงขึ้นอัตราการสิ้นเปลืองก็จะยิ่งมากขึ้นเพราะฉะนั้นระยะทางที่สามารถวิ่งได้จริงจะลดน้อยลงตามอัตราความเร็วที่เราใช้ในการขับขี่นั่นเอง

แบตเตอรี่ขนาดใหญ่คือหัวใจสำคัญ

ไม่ง้อน้ำมันประหยัดสุด ๆ

เมื่อคุณขับขี่เจ้า Etran Myra จนแบตเตอรี่หมดนั้นจะใช้เวลาชาร์จแบตเตอรี่จาก 0-100% ภายในระยะเวลา 2.30 ชม./ ต่อแบตเตอรี่ 1 ลูก และคิดเป็นค่าไฟฟ้าเพียง 17.5 บาทต่อการชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 1 ก้อน ซึ่งตัวแบตเตอรี่มีอายุการใช้งาน 5 ปี และเมื่อเฉลี่ยอัตราการสิ้นเปลืองออกมาเป็นค่าไฟ/กม. นั้นจะอยู่ที่ 0.12 บาท/กม. เท่านั้นเอง เรียกได้ว่าประหยัดกว่าน้ำมันอย่างเห็น ๆ แน่นอน และหากคุณคิดว่าไม่อยากเสียเวลารอชาร์จระหว่างวันทาง Etran ก็ได้มีสถานีบริการสำหรับ Swap Battery ที่สามารถถอดสับเปลี่ยนได้ทันทีไว้คอยบริการอีกด้วยถึงแม้ในตอนนี้จะมีเพียง 4 แห่งเท่านั้น แต่ในอนาคตทาง Etran จะเพิ่มสถานี Swap Battery เหล่านี้ให้ครอบคลุมอย่างแน่นอน อีกจุดหนึ่งที่เราต้องบอกเอาไว้ก่อนก็คือตัวแบตเตอรี่ของ Etran ไม่สามารถถอดออกมาชาร์จภายนอกตัวรถได้ดังนั้นสำหรับใครที่อาศัยอยู่คอนโด หรือมีที่จอดที่ไม่สะดวกต่อการชาร์จก็ควรคิดให้ดีก่อนที่จะซื้อเจ้า Etran Myra คันนี้

สถานี Swap Battery ที่ในอนาคตจะมีครอบคลุมอย่างแน่นอน

ราคาหลากหลายจะเช่าขี่ก็มี จะซื้อขาดก็ได้

มาถึงเรื่องสำคัญที่เราเชื่อว่าหลายคนอยากจะรู้กันเป็นที่สุดนั่นก็คือในเรื่องของราคาซึ่งเราจะแบ่งให้เข้าใจแบบง่าย ๆ ก็คือ 1.ราคาในรูปแบบของการเช่าขี่ และ 2.ราคาในรูปแบบของการซื้อขาด 

สำหรับการเช่าขี่จะมีรายละเอียดดังนี้ 

แพ็กเกจในการเช่าขี่รายวัน

ต่อมาในส่วนของการซื้อขาดจะถูกแบ่งออกเป็น 3 รุ่นย่อยด้วยกันคือ

1.Etran Myra Zero ราคา 69,500 บาท ซึ่งคุณจะได้แค่ตัวรถเปล่าเท่านั้นไม่รวมแบตเตอรี่นั่นหมายความว่าคุณจะขับขี่ไปไหนไม่ได้นอกจากเข็นไป อ่านมาถึงตรงนี้หลายคนคงร้องอ่าวแล้วจะซื้อมาทำไม เพราะว่าสำหรับรถในแพ็กเกจ Zero นั้นเขาจะขายคู่มากับแพ็กเกจเช่าแบตเตอรี่แบบรายเดือนตามนี้ ซึ่งเรามองว่าแพ็ก Zero นั้นเหมาะกับผู้ที่ไม่สะดวกในการชาร์จด้วยปลั๊กไฟที่บ้าน หรือไม่อยากรอนานอยากจะถอดเปลี่ยนแบตเตอรี่แล้วไปได้เลยมากกว่าขี่ได้ตลอดทั้งวัน

แพ็กเกจนี้จะใช้ได้กับ Etran Myra Zero เท่านั้น

2. Etran Myra Plus 1 ราคา 115,560 บาท ซึ่งตัวรถทุกอย่างจะเหมือนในแพ็กเกจ Zero แต่จะแตกต่างออกไปตรงที่ Etran Myra Plus 1 จะมีแบตเตอรี่ติดรถมาให้ 1 ลูกพร้อมตัวสายชาร์จสำหรับชาร์จไฟบ้าน แต่ตัวรถจะไม่สามารถนำเข้าไป Swap Battery ได้ หรือไม่สามารถใช้โปรเช่าแบตเตอรี่แบบรายเดือนได้อย่าง Etran Myra Zero ในข้อที่ 1 นั่นเอง

3. Etran Myra Plus 2 ราคา 149,800 บาท จะเหมือนกับแพ็กเกจ  Etran Myra Plus 1 ทุกอย่างแต่สิ่งที่แตกต่างก็คือในแพ็ก Etran Myra Plus 2 จะมาพร้อมกับแบตเตอรี่ถึง 2 ลูก ที่สามารถให้คุณเดินทางได้ไกลขึ้นนั่นเอง

ช่องสำหรับชาร์จแบตเตอรี่อยู่ด้านข้างช่องเสียบ USB

ใช้งานจริงขี่สนุกกว่าที่คิด

ในวันขับขี่ทดสอบ Etran Myra ของเรานั้นต้องบอกเลยว่าเราได้ขี่ใช้งานในสภาพการจราจรจริง ซึ่งเป็นช่วงเวลาก่อนที่ฝนจะโปรยปรายลงมา และการจราจรหนาแน่นสุด ๆ ซึ่งสิ่งแรกที่เราสัมผัสเมื่อบิดกุญแจก็คือเสียงเงียบมาก แทบไม่ได้ยินเลยว่าเราสตาร์ทเครื่องพร้อมบิดคันเร่งให้พุ่งทะยานไปข้างหน้าแล้ว ซึ่งตรงนี้เองคือสิ่งที่น่ากลัวของรถไฟฟ้าเพราะฉะนั้นหากคุณไม่มั่นใจว่ารถถูกสตาร์ทแล้วหรือยังคุณควรกำเบรกเอาไว้ทุกครั้งห้ามลืมเด็ดขาด ไม่งั้นคุณอาจจะพุ่งเข้าหากำแพงได้ทุกเมื่อ

ต่อมาเมื่อคุณเริ่มเปิดคันเร่งออกตัวเรียกได้ว่าโอ้วโคตรแรง ซึ่งความแรงของมันนั้นเรียกได้ว่าดึงเลยทีเดียวซึ่งแน่นอนว่ามันแรงกว่ารถน้ำมันอย่างชัดเจน ซึ่งนี่ทำให้รถไฟฟ้าเหมาะมากกับการขับขี่ในเมืองอย่างกรุงเทพฯ มาก ๆ เพราะเราต้องเบรกให้รถหยุด และออกตัวแทบทุกแยกไฟแดงเพราะฉะนั้นในเรื่องอัตราเร่งออกตัวนั้นหายห่วงพุ่งแน่นอน ส่วนต่อมาคือการลัดเลาะ และการบังคับเลี้ยวถือว่าทำได้คล่องตัวแบบรถมอเตอร์ไซค์ทั่วไป เลี้ยวง่าย วงเลี้ยวแคบ แต่สิ่งที่ต้องระวังคือจังหวะเปิดคันเร่งออก เพราะอย่างที่บอกไปว่าหากเปิดคันเร่งเยอะไปมีพุ่งออกไปชนท้ายคันอื่นอย่างแน่นอน

แค่เปิดคันเร่งโลกก็เปลี่ยน

ส่วนเรื่องของระบบเบรกที่ให้มาเป็นจานดิสก์เบรกเดี่ยวหน้าหลังพร้อมปั้มบนจาก RCB นั้นเพียงพอแล้วต่อการใช้งาน แต่ในส่วนของระบบกันสะเทือนหากคุณขับขี่ด้วยความเร็วที่เกินกว่า 100 กม./ชม. ควรระวังเพราะต้องบอกว่าช่วงล่างเริ่มไม่รองรับแล้วกับความเร็วที่สูงขนาดนั้น จึงควรระวังเรื่องพื้นผิวถนนกับการใช้ความเร็วสูงเอาไว้หน่อยเพราะตัวรถเริ่มจะไม่เกาะพื้นถนนแล้ว หน้าจะส่ายอย่างเห็นได้ชัดเจน แต่หากคุณขี่ในย่านความเร็วที่ 60-80 กม./ชม. นั้นสบายมาก ต่อมาคือแบตเตอรี่อย่างที่บอกไปหากเราไม่ได้ลากแช่ด้วยความเร็วสูงแบตเตอรี่ 2 ก้อนที่ให้มานั้นสามารถขับขี่ใช้งานใน 1 วันในกรุงเทพฯ ได้แบบสบาย ๆ ซึ่งเมื่อมองทั้งหมดแล้วเราคิดว่า Etran Myra ก็ทำออกมาได้ไม่เลวเลย

ระบบเบรกเอาอยู่

ซึ่งเรื่องสุดท้ายในเรื่องของราคาที่มีหลากหลายให้เลือกคงต้องมาถามตัวคุณเองแล้วว่าจะซื้อไปเพื่ออะไร ลักษณะการใช้งานของคุณเป็นแบบไหน แน่นอนว่าหากเป็นการเช่าขี่เพื่อส่งของเรามองว่ามันน่าใช้มาก ๆ กับการไม่ต้องเติมน้ำมันเลยในยุคที่ราคาน้ำมันเป็นอยู่ ณ ตอนนี้ ส่วนการใช้งานส่วนตัวในชีวิตประจำวันคุณก็ต้องมองว่าราคา 1 แสนกว่าบาทที่จ่ายไปแลกกับการที่คุณไม่ต้องเติมน้ำมัน ไม่ต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง หรือของเหลวต่าง ๆ มันคุ้มค่าไหม

ระบบกันสะเทือนด้านหลัง

ซึ่งตรงจุดนี้เรามองว่าคำว่าคุ้มของแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่หากถามเราเรามองว่ามันเหมาะสำหรับคนที่อาศัยอยู่ในเมือง และจุดจอดมีที่ให้พักชาร์จระหว่างวัน และที่สำคัญระยะทางไปกลับจากบ้านถึงที่ทำงานต้องไม่ไกลมาก หรือพูดง่ายเลยก็คือตอนนี้ Etran Myra เหมาะกับการใช้งานภายในเมืองเท่านั้น ยังไม่โอเคสำหรับการขับขี่เดินทางไกลไม่ว่าจะออกทริปท่องเที่ยว หรือซื้อไว้เดินทางขับขี่กลับบ้านข้ามจังหวัด อันนี้ยังไม่เหมาะแน่นอน แต่ทั้งนี้ และทั้งนั้นสุดท้ายแล้วคุณเองคือผู้ตัดสินใจ

อ่านเพิ่มเติม : Etran จับมือ Robinhood Rider เปิดให้เช่ารถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า

อ่านเพิ่มเติม : ETRAN KRAF มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าสัญชาติไทย 100%

อ่านเพิ่มเติม : Lightning LS-218 ซุปเปอร์ไบค์ไฟฟ้าอัตราเร่ง 0-96 กม./ชม. ใน 2 วินาที

ติดตามพวกเราได้ที่:
Archa

นักเขียนอาวุโส

นักเขียน/นักทดสอบรถจักรยานยนต์ประสบการณ์กว่า 7 ปีในแวดวง 2 ล้อ ใช้รถมอเตอร์ไซค์เดินทางไปไหนมาไหนตั้งแต่อายุ 10 ปี ได้เรียนรู้...

เปรียบเทียบรถมอเตอร์ไซค์ที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ยุโรปออกกฎหมายต้องมี EV Fast Chargers ทุก ๆ 60 กิโลเมตรบนทางหลวง!

ยุโรปออกกฎหมายต้องมี EV Fast Chargers ทุก ๆ 60 กิโลเมตรบนทางหลวง! เมื่อมีรถยนต์ไฟฟ้า และรถมอเตอร์ไซค์ออกสู่ท้องถนนมากขึ้นเรื่อย ๆ ถึงเวลาแล้วที่ต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานการชาร์จเร็วของยานยนต์ไฟฟ้าเหล่านี้ แน่นอนว่ามีสถานีชาร์จไฟฟ้าหลายร้อยแห่งกระจายอยู่ตามเมืองส่วนใหญ่ทั่วโลก แต่กลับกันในเส้นทางข้ามรัฐ หรือทางด่วนทั้งหลายกลับยังมีจุดชาร์จเหล่านี้อยู่น้อยมาก ๆ ซึ่งด้วยจุดนี้เองทำให้ยุโรปจำเป็นต้องออกกฎหมายเพื่อเพิ่มจุดชาร์จเหล่านี้อย่างรวดเร็วบนทางหลวงระหว่างรัฐต่าง ๆ กฎหมาย

แอบส่องสเปค Triumph Speed 400 และ Scrambler 400 X ก่อนวางจำหน่ายไทย!

แอบส่องสเปค Triumph Speed 400 และ Scrambler 400 X ก่อนวางจำหน่ายไทย! หลังสร้างกระแสฮือฮาครั้งใหญ่ให้ตลาดรถมอเตอร์ไซค์คลาส 400cc ได้คึกคัก กับการเปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์ 2 รุ่นใหม่ล่าสุดจาก Triumph Motorcycle ได้แก่ “สปีด 400” (Speed 400) และ “สแครมเบลอร์ 400 เอ็กซ์” (Scrambler 400 X) ถือเป็นน้องเล็กสุดของแบรนด์ ที่ตอนนี้เชื่อว่าหลาย ๆ คนต่างเฝ้ารอกันอย่างใจจดจ่อ กับราคาที่เตรียมเปิดตัวในประเทศไทยในช่วงเดือนมกราคม และการทดสอบการขับขี่บนถนนจริง ดังนั้นก่อนที่จะได้ยลโฉม และสัมผัสความเอ็กซ์คลูซีฟ จะขอพา

Gogoro และ Muji ร่วมมือกันสร้างสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ารักษ์โลกด้วยแผงพลาสติกรีไซเคิล!

Gogoro และ Muji ร่วมมือกันสร้างสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ารักษ์โลกด้วยแผงพลาสติกรีไซเคิล! Gogoro ผู้บุกเบิกเทคโนโลยียานยนต์ด้วยไฟฟ้า และแบตเตอรี่จากไต้หวันได้ออกมาประกาศความร่วมมือกับ Muji แบรนด์ไลฟ์สไตล์อันโด่งดังของประเทศญี่ปุ่น ถึงความร่วมมือโดยตรงกับ Naoto Fukasawa ดีไซเนอร์ชื่อดังของ Muji โดยที่ความร่วมมือดังกล่าวได้ให้กำเนิดรถมอเตอร์ไซค์สกู๊ตเตอร์รุ่นพิเศษ รวมถึงสินค้าแบรนด์ร่วมอีกมากมาย ซึ่งทั้ง 2 บริษัทได้ร่วมมือกันเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “Recycling for Good” ซึ่งมีจุดมุ่งหมายคือการรีไซเคิลขยะพ

Mash Belena แม็กซี่สกู๊ตเตอร์ที่อังกฤษออกแบบ แต่จีนผลิต!

Mash Belena แม็กซี่สกู๊ตเตอร์ที่อังกฤษออกแบบ แต่จีนผลิต! ดูเหมือนว่าในตอนนี้ประเทศจีนจะยึดหัวหาดในเรื่องการผลิตยานยนต์โลกไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย โดยเฉพาะความร่วมมือระหว่างยุโรป และจีนทางด้านยานยนต์ในปัจจุบันดูเหมือนจะกลายเป็นเรื่องปกติทั่วไปแล้ว เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่าทั้งการออกแบบ รวมไปถึงขั้นตอนการผลิตในยุโรปนั้นมีราคาต้นทุนที่ค่อนข้างสูง ดังนั้นการให้ประเทศต้นทางอย่างยุโรปเป็นผู้ออกแบบผลิตภัณฑ์ แต่ส่งไปผลิตที่ประเทศจีนนั้นดูจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ และสามารถลดต้นทุนการผลิตได้อย่างมหาศาล Mash

Harley-Davidson X440 ประกาศจะปรับราคาขึ้นอีกหลังจากเปิดตัว!

Harley-Davidson X440 ประกาศจะปรับราคาขึ้นอีกหลังจากเปิดตัว! สำหรับทาง Harley-Davidson ที่ในตอนนี้ดูเหมือนจะหันมาบุกตลาดรถมอเตอร์ไซค์ขนาดเล็กมากขึ้นอย่าง Harley-Davidson X440 ที่ได้เปิดตัวพร้อมวางจำหน่ายไปในประเทศอินเดียก่อนหน้านี้ถือเป็นรถมอเตอร์ไซค์รุ่นที่เล็กที่สุดของทาง Harley-Davidson ที่มีวางจำหน่ายในตอนนี้ หลังจากที่ได้ผ่านช่วงราคาแนะนำมาแล้ว ดูเหมือนว่าทาง Harley-Davidson อินเดียได้ออกมาประกาศราคาใหม่ของมันอย่างเป็นทางการสำหรับการวางจำหน่ายโดยทั่วไปแล้ว ประกาศอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 2

รถแนะนำสำหรับคุณ

ยอดนิยมล่าสุดอัพเดท
ฮิต
Honda

Honda ADV150

THB 98,500 - 98,900

ดูรุ่นรถ
ฮิต
Yamaha

Yamaha XSR155

THB 91,500

ดูรุ่นรถ
ฮิต
Yamaha

Yamaha Xmax 300

THB 168,000 - 172,900

ดูรุ่นรถ
ฮิต
Kawasaki

Kawasaki Ninja 400

THB 205,000 - 226,800

ดูรุ่นรถ
ฮิต
Yamaha

Yamaha SR400

THB 275,000 - 285,000

ดูรุ่นรถ
ฮิต
Honda

Honda CB650R

THB 305,000 - 309,100

ดูรุ่นรถ
Yamaha

Yamaha Aerox

THB 67,500 - 78,500

ดูรุ่นรถ
Yamaha

Yamaha YZF R1

THB 899,000 - 1,149,000

ดูรุ่นรถ
MV Agusta

MV Agusta F4

THB 1,750,000

ดูรุ่นรถ
KTM

KTM RC 390

THB 239,800

ดูรุ่นรถ
Royal Enfield

Royal Enfield Meteor 350

THB 169,900

ดูรุ่นรถ
Suzuki

Suzuki Katana

THB 569,000

ดูรุ่นรถ
Suzuki

Suzuki Raider J Crossover

THB 46,250

ดูรุ่นรถ
Etran Myra
เช็คทันที