ลองขี่ Yamaha WR155R ตะลุยหุบพริก พิชิตบางกะม่า 2 วัน 1 คืน!

ลองขี่ Yamaha WR155R ตะลุยหุบพริก พิชิตบางกะม่า 2 วัน 1 คืน!

Yamaha WR155R คือรถมอเตอร์ไซค์เอ็นดูโร่ ที่ถูกสร้างมาเพื่อการใช้งานที่สมบุกสมบัน สามารถพาตัวผู้ขับขี่ไปได้ในทุกที่ ทุกเส้นทาง ถึงแม้ไม่มีทางก็ไปได้เพราะเราลองมาแล้ว ซึ่งสำหรับการเดินทางของ AutoFun Thailand ในครั้งนี้เราได้รับหมายเชิญจากทาง Yamaha เพื่อให้เข้าร่วมการทดสอบขับขี่ในครั้งนี้ โดยการใช้รถอย่าง Yamaha WR155R ขับขี่ไปในเส้นทางธรรมชาติสไตล์รถเอ็นดูโร่กับเส้นทาง หุบพริก และบางกะม่า ในตัว จ.ราชบุรี เป็นเวลา 2 วัน 1 คืน ซึ่งการเดินทางของเราในทริปนี้จะสนุกขนาดไหนไปติดตามกันได้เลย

  • ทำความรู้จักตัวรถก่อนขับขี่ 
  • ไม่พูดพร่ำทำเพลงได้เวลาออกลุย
  • วันที่ 2 ตะลุยบางกะม่า ชมพระอาทิตย์ยามเช้า
  • Yamaha WR155R เดิม ๆ ลุยไปได้ทุกที่จริง ๆ

Yamaha WR155R รถประจำทริปของเราในครั้งนี้

ทำความรู้จักตัวรถก่อนขับขี่ 

สำหรับรถที่เราจะใช้เดินทางกันตลอดระยะเวลา 2 วันในทริปนี้ก็คือเจ้ารถสายลุยอย่าง Yamaha WR155R นั่นเอง โดย Yamaha WR155R นั้นคือรถในสไตล์เอ็นดูโร่ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใช้งานได้ทั้งในเส้นทาง On-Road และ Off-Road อยู่แล้ว ซึ่งตัวรถจะมาพร้อมขนาดที่เล็กกะทัดรัดบนพื้นฐานของรถเอ็นดูโร่กับน้ำหนักตัวรถที่ 134 กก. เท่านั้น พร้อมเครื่องยนต์ขนาด 155 ซี.ซี. สูบเดี่ยว 4 จังหวะ SOHC 4 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ และแน่นอนว่ามันมาพร้อมเทคโนโลยี VVA ระบบวาล์วแปรผันจาก Yamaha จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีด พร้อมถังน้ำมันขนาดความจุ 8.1 ลิตร

เครื่องยนต์ 155 ซี.ซี. สูบเดี่ยว 4 จังหวะ SOHC 4 วาล์ว

พร้อมช่วงล่างขั้นเทพที่สามารถให้คุณบุกตะลุยไปได้ในทุกเส้นทางกับโช้คอัพด้านหน้าแบบเทเลสโคปิคขนาดแกน 41 มม. จาก KYB ส่วนด้านหลังเป็นโช้คอัพเดี่ยวแบบ Monocross ทำงานร่วมกับสวิงอาร์ม และกระเดื่องซับแรง ซึ่งสามารถเลือกปรับค่าความแข็งได้ถึง 5 ระดับ พร้อมจานดิสก์เบรกด้านหน้าแบบเดี่ยว ส่วนด้านหลังก็มาพร้อมระบบดิสก์แบบเดี่ยวเช่นเดียวกัน ซึ่งทำให้คุณสามารถหยุดรถได้อย่างมั่นใจ และนี่คือคู่หูอาชาคู่กายประจำตัวเราในการเดินทางครั้งนี้

อาชาคู่กายของเราในทริปนี้

ไม่พูดพร่ำทำเพลงได้เวลาออกลุย

และเมื่อเดินทางไปถึงที่พักของเราใน  จ.ราชบุรี เราก็ไม่รอช้ารีบทำการเปลี่ยนชุดแต่งกายเพื่อให้พร้อมสำหรับการขับขี่ในครั้งนี้ และแน่นอนว่าอุปกรณ์ความปลอดภัยอย่างหมวกกันน็อค และชุดป้องกันที่มีการ์ดแข็งอยู่ด้านในถือเป็นอุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้สำหรับการขับขี่เดินทางในภูเขาแบบนี้ที่สามารถเกิดอันตราย และอุบัติเหตุขึ้นได้ทุกเวลา รวมถึงเป้เพื่อบรรจุน้ำดื่มก็เป็นสิ่งที่ขาดไปไม่ได้เช่นเดียวกัน เพราะร่างกายของคุณจะเกิดความเหนื่อยล้า และเสียน้ำเยอะมากในเส้นทางขับขี่แบบนี้ และก่อนออกเดินทางแน่นอนว่าเราจะต้องมีการพูดคุยถึงรูปแบบการขับขี่ และเส้นทางต่าง ๆ ที่เราจะใช้ขับขี่กันในวันนี้ก่อนเพื่อความปลอดภัยของทุกคน โดยระยะทางในวันแรกนี้เราจะเดินทางกันประมาณ 90 กม. 

อุปกรณ์การขับขี่ต้องพร้อม

ซึ่งเราจะเริ่มสตาร์ทจากฝั่งของตัวอำเภอสวนผึ้ง จ.ราชบุรี และทำการวิ่งตัดผ่าภูเขาไปลงยังฝั่งของเขต จ.กาญจนบุรี ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นการขับขี่ข้ามภูเขากันไปหลายลูกเลยทีเดียว ซึ่งเส้นทางการขับขี่ก็เริ่มด้วยถนนดำแบบชิว ๆ ซึ่งแม้ตัวรถจะมาพร้อมยางหนามหรือชุดล้อวิบาก แต่เราก็สามารถวิ่งทำความเร็วอยู่ที่ประมาณ 80-100 กม. ได้อย่างสบาย ๆ พร้อมทั้งยังสามารถพับเลี้ยวเข้าโค้งด้วยความเร็วได้อย่างมั่นคง เรียกว่าตลอดเส้นทางทุกคนต่างขี่เล่นโค้งกันมาอย่างสนุกสนาน และแล้วเมื่อสิ้นสุดถนนดำการผจญภัยของเราในวันนี้ก็ได้เริ่มต้นขึ้น ซึ่งตลอดเส้นทางของเราในช่วงแรกจะเป็นการขับขี่ผ่านสวนปาล์ม และสวนผลไม้ของชาวบ้านในบริเวณนั้น พร้อมทั้งเราจะได้ขับขี่ข้ามผ่านห้วย หนอง คลอง บึง อีกนับไม่ถ้วน เพื่อไปยังจุดหมายแรกของเรายังยอดภูเขา

ขับขี่ผ่านสวนของชาวบ้านไปกับเส้นทางธรรมชาติ

ซึ่งยิ่งเราขี่เจ้า Yamaha WR155R ลึกเข้าไปในป่าเท่าไหร่เส้นทางสำหรับให้รถวิ่งนั้นก็ค่อย ๆ เล็กลง ๆ จนเรียกว่ามันไม่ใช่เส้นทางสำหรับขี่รถแล้ว ประจวบกับขณะที่เรากำลังขี่รถเพื่อไต่ระดับขึ้นยอดเขานั้นก็เกิดฝนตกหนัก จึงทำให้การเดินทางในครั้งนี้สนุก และท้าทายพวกเราขึ้นไปอีก เพราะเรียกได้ว่าเราได้ขี่สวนร่องทางน้ำไหลเพื่อไต่ขึ้นยอดเขากันอย่างสนุกสนาน เหมือนกับปลาแซลม่อนที่ว่ายทวนน้ำยังไงยังงั้น และตลอดเส้นทางก็เต็มไปด้วยหินลอย และร่องน้ำลึก บวกกับตลอดเส้นทางมีหญ้าคาขึ้นอยู่อย่างหนาแน่นจนไม่สามารถเห็นพื้นของเส้นทางได้เลย

ห้วย หนอง คลอง บึง ก็ลุยได้หมด

ซึ่งนอกจากจะมองทางด้านหน้าได้ไม่ชัดเจนแล้ว เรายังจะต้องคอยหลบทั้งกิ่งไม้ และเถาวัลย์ที่ยื่นออกมาขวางทางเราอีกด้วย ซึ่งเราอยากจะบอกว่าเถาวัลย์นี่คือตัวอันตรายเลย เพราะเราได้เห็นเพื่อนร่วมทริปในครั้งนี้หลายต่อหลายคนโดนเถาวัลย์เกี่ยวโดยเฉพาะในส่วนของเบรคหน้าแล้วรถเกิดเสียอาการล้มลงไปหลายคันเลยทีเดียว เนื่องมาจากรถที่เราใช้เป็นรถเดิม ๆ ที่ไม่มีการ์ดแฮนด์ติดตั้งมาให้นั่นเอง และเมื่อเราขึ้นไปถึงจุดสูงสุดของภูเขาได้สำเร็จเราก็พบกับวิวทิวทัศน์อันสวยงามที่เบื้องหน้าเต็มไปด้วยภูเขาอันเขียวขจีวางสลับเรียงรายกันแบบสุดลูกหูลูกตา ซึ่งถือเป็นภาพที่สวยงามสุด ๆ เลยทีเดียว 

ทิวทัศน์อันสวยงามบนยอดภูเขา

และเมื่อเราได้แวะพักเหนื่อยกันได้สักครู่ ต่อจากนี้ก็จะเป็นเส้นทางขับขี่ลงจากหุบเขาที่เต็มไปด้วยหินลอย ร่องน้ำลึก และป่าหญ้าคาที่สูงท่วมหัวเราเช่นเดิม และเมื่อบวกกับฝนที่พึ่งตกลงไปแน่นอนว่าเส้นทางนั้นมีความลื่นเป็นอย่างมากเราจึงใช้ความเร็วที่ไม่สูงมากเพื่อนำเราลงมาจากยอดเขาด้วยยางหนามเดิม ๆ ติดรถนั่นเอง และเราทุกคนก็ออกมาจากป่าได้สำเร็จในเวลาใกล้มืดเกือบ 6 โมงเย็นของวัน และเมื่อกลับถึงที่พักด้วยอาการเหนื่อยล้าเราทุกคนก็พร้อมแล้วสำหรับมื้อเย็นอันแสนอบอุ่น และเปี่ยมไปด้วยเรื่องเล่า บวกเสียงหัวเราะ ที่ทุกคนได้เจอกันมากับเส้นทางขับขี่ในวันแรก ก่อนที่จะแยกย้ายกันไปนอนพักผ่อนเอาแรงเพื่อออกเดินทางในวันรุ่งขึ้นตั้งเช้าตรู่

ขับขี่กันอย่างสนุกสนาน

วันที่ 2 ตะลุยบางกะม่า ชมพระอาทิตย์ยามเช้า

และสำหรับการเดินทางในวันที่ 2 ของเราได้ออกเดินทางกันตั้งแต่เวลาตี 5 ของเช้าวันใหม่เพื่อที่เราจะมุ่งหน้าไปยังบางกะม่าดินแดนแห่งหุบเขา ซึ่งการเดินทางของเราในวันนี้จะมีระยะทางประมาณ 40 กม. ซึ่งเราจะขึ้นไปจิบกาแฟยามเช้า พร้อมกับชมพระอาทิตย์ขึ้นกันบนยอดเขาของบางกะม่านั่นเอง ซึ่งการขับขี่ในช่วงเวลาเช้ามืดไปบนถนนที่มีแสงไฟส่องสว่างเพียงน้อยนิด หรือบางช่วงไม่มีเลยนั้น ก็ได้แต่อาศัยขี่ตามแสงไฟท้ายของรถคันด้านหน้าเราไปเท่านั้น

ก็ต้องมีกันบ้าง

ซึ่งในช่วงแรกยังเป็นถนนดำที่พอให้เราได้ใช้ความเร็วกันอยู่บ้าง ก่อนที่จู่ ๆ จะมีเซอร์ไพรส์ชุดใหญ่เพราะจากถนน On-Road ที่ราบเรียบก็ตัดเข้าสู่โหมดของทางวิบากในฉับพลัน เพราะด้วยความที่เส้นทางมืดมาก ๆ บวกกับตัวหมวกกันน็อคของเราเป็นชิลปรอทนั่นจึงทำให้แทบจะมองเส้นทางด้านหน้าไม่เห็นเลย เราจึงต้องถอดแว่นออกเพื่อช่วยให้สายตาของเรามองเห็นขึ้นมาหน่อย ซึ่งครั้งนี้ก็พร้อมปรับเข้าสู่โหมดของทางฝุ่นในช่วงเช้ากันอีกครั้ง เรียกได้ว่าเล่นเอาตื่นเต็มตาในทันทีจากที่กำลังง่วงนอนอยู่ ซึ่งตลอดทางเข้าไปจนถึงบริเวณจุดชมวิว และพักกินกาแฟนั้นจะเป็นถนนลูกรังทั้งหมด ซึ่งความยากจะอยู่ตรงที่ทางขึ้นไปยังจุดชมวิวของเราที่ทางนั้นค่อนข้างที่จะมีความลาดชันอยู่ไม่น้อย และมีร่องน้ำบวกทรายบวกหินลอยตลอดทางขึ้น เราจึงจำเป็นต้องทิ้งระยะห่าง และขับขี่ขึ้นไปยังจุดนี้แบบทีละคันเพื่อความปลอดภัยนั่นเอง

เส้นทางขึ้นไปยังจุดชมวิวที่ค่อนข้างสูงชัน

ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งจุดที่ท้าทายสายลุยมากเลยทีเดียว และเมื่อเราขับขี่ผ่านอุปสรรคขึ้นมาถึงจุดชมวิวได้สำเร็จ ความเหนื่อยก็หายเป็นปลิดทิ้งในทันทีเพราะวิวของภูเขาที่เขียวขจีตั้งอยู่ตรงหน้า และพระอาทิตย์ที่กำลังสาดแสงอ่อน ๆ ในยามเช้า ทำให้เรารีบมุ่งหน้าไปหากาแฟเพื่อมานั่งดื่มด่ำไปกับบรรยากาศท่ามกลางหุบเขาของบางกะม่าแห่งนี้ในทันที และก่อนที่เราจะจากลาธรรมชาติของบางกะม่ากลับสู่ที่พักเพื่อเดินทางกลับ ทุกคนก็ไม่พลาดที่จะถ่ายภาพความประทับใจในครั้งนี้ไว้ร่วมกัน

กาแฟยามเช้าท่ามกลางธรรมชาติจะมีอะไรดีไปกว่านี้

Yamaha WR155R เดิม ๆ ลุยไปได้ทุกที่จริง ๆ

และสำหรับการเดินทางในครั้งนี้มันทำให้เราได้รู้ว่าแค่เพียงมีรถอย่าง Yamaha WR155R เดิมสักคันคุณก็สามารถสนุกไปกับการเดินทางได้ทุกรูปแบบไม่ว่าจะบนเส้นทาง On-Road หรือ Off-Road แบบหนัก ๆ ชนิดที่ว่าขี่ตัดผ่านป่าขึ้นภูเขาข้ามจังหวัดได้แบบสบาย ๆ เนื่องมาจากตัวรถมีขนาดเล็กน้ำหนักเบา ทำให้ง่ายต่อการควบคุม ถึงแม้จะล้มลงไปคุณก็สามารถยกรถกลับขึ้นมาได้ด้วยตัวคนเดียวแบบสบาย ๆ

Yamaha WR155R เดิม ๆ ก็ลุยได้แล้ว

แถมระบบเบรก ช่วงล่างรวมไปจนถึงตัวยางที่ให้มาก็เรียกได้ว่าเหลือ ๆ และเพียงพอต่อการใช้งานแล้ว แต่หากคุณอยากขี่มันให้สนุกกว่าเดิมเราขอแนะนำให้ทดสเตอร์หลังเพิ่มไปอีกซัก 2 ฟันรับรองงานนี้บุกป่ากระจาย เพราะเราคิดว่าแรงต้นของมันยังน้อยไปสำหรับการปีนป่ายในเส้นทางที่ยากลำบากจริง ๆ และสุดท้ายนี้เจ้า Yamaha WR155R มีราคาวางจำหน่ายอยู่ที่ ราคา 105,000 บาทเท่านั้น และเชื่อเหอะใครที่กำลังมองหารถแนวนี้ไว้ใช้งานสัก 1 คัน เจ้า Yamaha WR155R คันนี้คุ้มค่าเงินทุกบาททุกสตางค์อย่างแน่นอน เพราะเราพิสูจน์มาแล้ว 

อ่านเพิ่มเติม : 2020 Yamaha WR155R ตัวลุยสายฝุ่น

อ่านเพิ่มเติม : 4 มอเตอร์ไซค์วิบาก ที่เหมาะกับสภาพถนนในกรุงเทพฯ

อ่านเพิ่มเติม : Stark VARG รถวิบากพลังไฟฟ้าทางเลือกใหม่

 

ติดตามพวกเราได้ที่:
Archa

นักเขียนอาวุโส

นักเขียน/นักทดสอบรถจักรยานยนต์ประสบการณ์กว่า 7 ปีในแวดวง 2 ล้อ ใช้รถมอเตอร์ไซค์เดินทางไปไหนมาไหนตั้งแต่อายุ 10 ปี ได้เรียนรู้...

เปรียบเทียบรถมอเตอร์ไซค์ที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ยุโรปออกกฎหมายต้องมี EV Fast Chargers ทุก ๆ 60 กิโลเมตรบนทางหลวง!

ยุโรปออกกฎหมายต้องมี EV Fast Chargers ทุก ๆ 60 กิโลเมตรบนทางหลวง! เมื่อมีรถยนต์ไฟฟ้า และรถมอเตอร์ไซค์ออกสู่ท้องถนนมากขึ้นเรื่อย ๆ ถึงเวลาแล้วที่ต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานการชาร์จเร็วของยานยนต์ไฟฟ้าเหล่านี้ แน่นอนว่ามีสถานีชาร์จไฟฟ้าหลายร้อยแห่งกระจายอยู่ตามเมืองส่วนใหญ่ทั่วโลก แต่กลับกันในเส้นทางข้ามรัฐ หรือทางด่วนทั้งหลายกลับยังมีจุดชาร์จเหล่านี้อยู่น้อยมาก ๆ ซึ่งด้วยจุดนี้เองทำให้ยุโรปจำเป็นต้องออกกฎหมายเพื่อเพิ่มจุดชาร์จเหล่านี้อย่างรวดเร็วบนทางหลวงระหว่างรัฐต่าง ๆ กฎหมาย

แอบส่องสเปค Triumph Speed 400 และ Scrambler 400 X ก่อนวางจำหน่ายไทย!

แอบส่องสเปค Triumph Speed 400 และ Scrambler 400 X ก่อนวางจำหน่ายไทย! หลังสร้างกระแสฮือฮาครั้งใหญ่ให้ตลาดรถมอเตอร์ไซค์คลาส 400cc ได้คึกคัก กับการเปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์ 2 รุ่นใหม่ล่าสุดจาก Triumph Motorcycle ได้แก่ “สปีด 400” (Speed 400) และ “สแครมเบลอร์ 400 เอ็กซ์” (Scrambler 400 X) ถือเป็นน้องเล็กสุดของแบรนด์ ที่ตอนนี้เชื่อว่าหลาย ๆ คนต่างเฝ้ารอกันอย่างใจจดจ่อ กับราคาที่เตรียมเปิดตัวในประเทศไทยในช่วงเดือนมกราคม และการทดสอบการขับขี่บนถนนจริง ดังนั้นก่อนที่จะได้ยลโฉม และสัมผัสความเอ็กซ์คลูซีฟ จะขอพา

Gogoro และ Muji ร่วมมือกันสร้างสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ารักษ์โลกด้วยแผงพลาสติกรีไซเคิล!

Gogoro และ Muji ร่วมมือกันสร้างสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ารักษ์โลกด้วยแผงพลาสติกรีไซเคิล! Gogoro ผู้บุกเบิกเทคโนโลยียานยนต์ด้วยไฟฟ้า และแบตเตอรี่จากไต้หวันได้ออกมาประกาศความร่วมมือกับ Muji แบรนด์ไลฟ์สไตล์อันโด่งดังของประเทศญี่ปุ่น ถึงความร่วมมือโดยตรงกับ Naoto Fukasawa ดีไซเนอร์ชื่อดังของ Muji โดยที่ความร่วมมือดังกล่าวได้ให้กำเนิดรถมอเตอร์ไซค์สกู๊ตเตอร์รุ่นพิเศษ รวมถึงสินค้าแบรนด์ร่วมอีกมากมาย ซึ่งทั้ง 2 บริษัทได้ร่วมมือกันเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “Recycling for Good” ซึ่งมีจุดมุ่งหมายคือการรีไซเคิลขยะพ

Mash Belena แม็กซี่สกู๊ตเตอร์ที่อังกฤษออกแบบ แต่จีนผลิต!

Mash Belena แม็กซี่สกู๊ตเตอร์ที่อังกฤษออกแบบ แต่จีนผลิต! ดูเหมือนว่าในตอนนี้ประเทศจีนจะยึดหัวหาดในเรื่องการผลิตยานยนต์โลกไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย โดยเฉพาะความร่วมมือระหว่างยุโรป และจีนทางด้านยานยนต์ในปัจจุบันดูเหมือนจะกลายเป็นเรื่องปกติทั่วไปแล้ว เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่าทั้งการออกแบบ รวมไปถึงขั้นตอนการผลิตในยุโรปนั้นมีราคาต้นทุนที่ค่อนข้างสูง ดังนั้นการให้ประเทศต้นทางอย่างยุโรปเป็นผู้ออกแบบผลิตภัณฑ์ แต่ส่งไปผลิตที่ประเทศจีนนั้นดูจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ และสามารถลดต้นทุนการผลิตได้อย่างมหาศาล Mash

Harley-Davidson X440 ประกาศจะปรับราคาขึ้นอีกหลังจากเปิดตัว!

Harley-Davidson X440 ประกาศจะปรับราคาขึ้นอีกหลังจากเปิดตัว! สำหรับทาง Harley-Davidson ที่ในตอนนี้ดูเหมือนจะหันมาบุกตลาดรถมอเตอร์ไซค์ขนาดเล็กมากขึ้นอย่าง Harley-Davidson X440 ที่ได้เปิดตัวพร้อมวางจำหน่ายไปในประเทศอินเดียก่อนหน้านี้ถือเป็นรถมอเตอร์ไซค์รุ่นที่เล็กที่สุดของทาง Harley-Davidson ที่มีวางจำหน่ายในตอนนี้ หลังจากที่ได้ผ่านช่วงราคาแนะนำมาแล้ว ดูเหมือนว่าทาง Harley-Davidson อินเดียได้ออกมาประกาศราคาใหม่ของมันอย่างเป็นทางการสำหรับการวางจำหน่ายโดยทั่วไปแล้ว ประกาศอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 2

รถแนะนำสำหรับคุณ

ยอดนิยมล่าสุดอัพเดท
ฮิต
Honda

Honda ADV150

THB 98,500 - 98,900

ดูรุ่นรถ
ฮิต
Yamaha

Yamaha XSR155

THB 91,500

ดูรุ่นรถ
ฮิต
Yamaha

Yamaha Xmax 300

THB 168,000 - 172,900

ดูรุ่นรถ
ฮิต
Kawasaki

Kawasaki Ninja 400

THB 205,000 - 226,800

ดูรุ่นรถ
ฮิต
Yamaha

Yamaha SR400

THB 275,000 - 285,000

ดูรุ่นรถ
ฮิต
Honda

Honda CB650R

THB 305,000 - 309,100

ดูรุ่นรถ
Yamaha

Yamaha Aerox

THB 67,500 - 78,500

ดูรุ่นรถ
Yamaha

Yamaha YZF R1

THB 899,000 - 1,149,000

ดูรุ่นรถ
MV Agusta

MV Agusta F4

THB 1,750,000

ดูรุ่นรถ
KTM

KTM RC 390

THB 239,800

ดูรุ่นรถ
Royal Enfield

Royal Enfield Meteor 350

THB 169,900

ดูรุ่นรถ
Suzuki

Suzuki Katana

THB 569,000

ดูรุ่นรถ
Suzuki

Suzuki Raider J Crossover

THB 46,250

ดูรุ่นรถ
Yamaha WR
เช็คทันที