2021 New Honda CB1300 Super Four & 2021 New Honda CB1300 Super Four BOLD’OR กับ 5 เหตุผลที่ทำให้ใคร ๆ ก็อยากครอบครองรถระดับตำนานคันนี้

5 เหตุผลที่ทำให้ใคร ๆ ก็อยากครอบครองรถระดับตำนานอย่าง New Honda CB1300 SUPER FOUR (ฮอนด้า ซีบี 1300 ซูเปอร์ โฟร์) และ Honda CB1300 BOLD’OR (ฮอนด้า ซีบี 1300 โบลด์)

>>>2021 New Honda CB1300 SUPER FOUR & 2021 New Honda CB1300 BOLD’OR

>>>2020 Honda CB650R 

>>>2021 Honda CB350 RS

รถที่มากไปด้วยตำนาน

โดยที่มาที่ไปของต้นกำเนิดแห่งตำนานซูเปอร์โฟร์ เริ่มต้นขึ้นในปี 1992 ภายใต้โปรเจกต์ BIG-1 (บิ๊กวัน) ในยุคที่กระแสความนิยมของรถจักรยานยนต์ Honda รุ่น Honda CB1000 Super Four ประสบความสำเร็จ และได้การยอมรับเป็นอย่างดีจากผู้ขับขี่ทั่วโลก

ซึ่งความโด่งดังของเจ้า Honda CB1000Super Four นั้นก็ส่งผลมาถึงประเทศไทยด้วยเช่นกัน อันจะเห็นได้จากในยุคนั้นคนไทยต่างพากันเรียกรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ที่ใช้เครื่องยนต์ 4 สูบเรียงว่า Super Four ไม่ว่ารถคันนั้นจะเป็นค่ายไหน หรือชื่อรุ่นอะไรก็ตาม เพราะทุกคนต่างจดจำว่ารถ 4 สูบเรียงก็คือ Super Four นั่นเอง

Super Four ต้องระบายความร้อนด้วยน้ำเท่านั้น

New Honda CB1300 Super Four และ New Honda CB1300 Super Four BOLD’OR มาพร้อมรูปแบบเครื่องยนต์ที่มีความสมบูรณ์แบบ ทั้งในด้านสมรรถนะการขับขี่ เสียงที่ทรงพลัง รูปลักษณ์การดีไซน์โดดเด่น สง่างาม แม้ไม่ได้กำหนดเฉพาะเจาะจงว่าจะต้องมีปริมาตรกระบอกสูบเท่าไร แต่สิ่งที่เป็นสัญลักษณ์ของ Super Four ก็คือจะต้องมีระบบระบายความร้อนด้วยน้ำเท่านั้น หากใช้การระบายความร้อนด้วยอากาศหรือน้ำมัน จะไม่ถูกจัดอยู่ในรถตระกูลนี้

กาลเวลาไม่สามารถทำลายรูปลักษ์ภายนอกของ Super Four ได้เลย

ตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน การออกแบบตัวรถของทั้ง New Honda CB1300 Super Four และ New Honda CB1300 Super Four BOLD’OR จะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

ให้บรรยากาศย้อนยุคด้วยเส้นสายโค้งมน และการเล่นสีสันที่มีเสน่ห์ แต่ก็ยังแฝงไว้ซึ่งอารมณ์ความสปอร์ตที่ดุดันเร้าใจ รู้สึกได้ถึงความแรงแม้แต่ในเวลาที่รถจอดนิ่งอยู่ก็ตาม ซึ่งมันเป็นรถที่ไม่ว่าใครเห็นก็ต้องเหลียวกลับมามองอีกครั้งเสมอ

เครื่องยนต์อันทรงพลัง

New Honda CB1300 SUPER FOUR และ New CB1300 BOLD’OR มาพร้อมเครื่องยนต์ 1,284 ซี.ซี. 4 สูบเรียง DOHC 16 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ พร้อมหัวฉีดแบบ PGM-FI มาพร้อมกำลังสูงสุดที่ 113 PS ที่ 7,750 รอบ/นาที พร้อมแรงบิดสุงสุดที่ 112 Nm ที่ 6,250 รอบ/นาที พร้อมได้มีการปรับปรุงเพิ่มเติมในส่วนของสลิปเปอร์คลัทช์เข้ามาในเครื่องยนต์ให้อีกด้วย

สิ่งสำคัญที่สุด คือ สมรรถนะการขับขี่ที่ให้การตอบสนองรวดเร็วทันใจ ด้วยบุคลิกเฉพาะตัวของขุมพลังเครื่องยนต์แบบ 4 สูบเรียง ที่ให้กำลังแรงบิดสูงในรอบต่ำ พร้อมปลดปล่อยความแรงได้อย่างสมูทนุ่มนวล รวมไปถึงท่าทางการขับขี่ที่มีความกระชับ และให้ความคล่องตัวสูง ตามสไตล์ของรถ Honda ที่เป็นมิตร และขี่ง่าย

เทคโนโลยีล้ำสมัยมากมายที่ขัดกับตัวรถ

สำหรับรถอย่าง New Honda CB1300 Super Four และ New Honda CB1300 Super Four BOLD’OR มาพร้อมระบบไฟ LED แบบรอบคัน

พร้อมหน้าปัดเรือนไมล์จอสี TFT ที่แสดงข้อมูลรายละเอียดของตัวรถไว้อย่างครบถ้วน ช่องชาร์จอุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์ พอร์ต USB Type-C Charger ที่ช่วยให้คุณไม่พลาดทุกการติดต่อ 

นอกจากนี้มันยังมาพร้อมระบบช่วยขับขี่มากมายไม่ว่าจะเป็นระบบควบคุมแรงบิด HSTC-Honda Selectable Torque Control , ระบบ Assist Slipper Clutch

ระบบคันเร่งไฟฟ้า Ride-by-Wire และ Riding Modes ที่มีมาให้เลือกใช้ถึง 3 รูปแบบ ได้แก่ Standard , Sport และ Rain พร้อมตัวช่วยสำหรับการเดินทางไกลอย่างระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control 

และนี่คือความเป็นตำนานของเจ้า New Honda CB1300 SUPER FOUR และ New CB1300 BOLD’OR ที่ยังคงได้รับความนิยมมาจนถึงทุกวันนี้