รีวิว Suzuki V-Strom 800DE แอดเวนเจอร์ไบค์พิกัดกลางที่คุ้มค่าคุ้มราคาที่สุดในตอนนี้

ลองขี่ Suzuki V-Strom 800DE แอดเวนเจอร์ไบค์พิกัดกลางที่คุ้มค่าคุ้มราคาที่สุดในตอนนี้!

เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาทาง AutoFun Thailand ของเราได้รับเกียรติให้เข้าร่วมขับขี่ทดสอบรถแอดเวนเจอร์ไบค์สายลุยพิกัดกลางรุ่นล่าสุดจากทาง Suzuki นั่นก็คือเจ้า Suzuki V-Strom 800DE นั่นเอง โดยการทดสอบในครั้งนี้จะเป็นการขับขี่ใช้งานจริงบนท้องถนนไม่ว่าจะเป็นเส้นทาง On-Road หรือ Off-Road ภายใน จ.ชลบุรี ซึ่งการทดสอบในครั้งนี้จะเป็นอย่างไรกันบ้างตามเราไปกันได้เลย

• งานดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยว
• เครื่องยนต์ที่ไม่ใช่สูบ V อีกต่อไป
• เทคโนโลยีจัดเต็ม
• ระบบกันสะเทือน และระบบเบรกไม่ธรรมดา
• ลองขี่แล้วมันดีเกินคาด
• Suzuki V-Strom 800DE เหมาะกับใคร ?

งานดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยว

สำหรับ Suzuki V-Strom 800DE นั้นต้องบอกเลยว่าตัวรถได้มาพร้อมกับชุดแฟริ่งภายนอกที่เน้นความโฉบเฉี่ยวที่มากขึ้น ซึ่งช่วยทำให้ตัวรถดูมีความปราดเปรียว และทันสมัยเป็นอย่างมาก รวมไปถึงยังมีการคำนึงถึงหลักอากาศพลศาสตร์เป็นอย่างดี ตัวรถโดดเด่นมาด้วยชุดไฟ LED ด้านหน้าแบบแนวตั้ง ซึ่งได้กลายเป็นเอกลักษณ์ประจำค่ายของทาง Suzuki ไปแล้วสำหรับตัวรถรุ่นใหม่ที่ออกมาในปี 2023-2024 นั้นเรียกได้ว่ามาพร้อมชุดไฟแนวตั้งทรงใหม่กันแทบทุกรุ่น 

นอกจากนี้ตัวรถยังมาพร้อมเบาะนั่งไล่ระดับแบบตอนเดียวยาว ที่รับกับแฮนด์บาร์ทรงกว้างได้เป็นอย่างดี ซึ่งบอกเลยว่ามันนั่งสบายมาก ๆ ส่วนหน้าจอเรือนไมล์ของเจ้า Suzuki V-Strom 800DE นั้นก็มาพร้อมหน้าจอสี TFT ขนาด 5 นิ้วแล้ว ซึ่งมาพร้อมข้อมูลของตัวรถแบบครบครัน และจัดเต็มใช้งานได้ง่าย มองง่าย สบายตาสุด ๆ

เครื่องยนต์ที่ไม่ใช่สูบ V อีกต่อไป

ถึงแม้ Suzuki V-Strom 800DE จะยังคงมาพร้อมชื่อ V-Strom แต่ทว่าสำหรับเครื่องยนต์ของเจ้า 800DEคันนี้กลับไม่ใช่เครื่องยนต์แบบ V-Twin แต่มันมาพร้อมเครื่องยนต์แบบ 2 สูบเรียง ขนาด 779 ซี.ซี. DOHC ที่มาพร้อมข้อเหวี่ยง 270 องศาระบายความร้อนด้วยน้ำ ที่พร้อมส่งมอบขุมพลังขนาด 84 แรงม้า ที่ 8,500 รอบ/นาที พร้อมด้วยแรงบิด 78 นิวตันเมตร ที่ 6,800 รอบ/นาที ซึ่งทาง Suzuki ยังได้บอกอีกว่าระบบ Cross Balancer ใหม่นี้จะช่วยเพิ่มแรงบิดให้เหมาะสมทั้งการใช้งานในรูปแบบของ On-Road และ Off-Road

เทคโนโลยีจัดเต็ม

นอกจากเครื่องยนต์ใหม่แล้ว Suzuki V-Strom 800DE ยังได้มาพร้อมกับเทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่บนตัวรถอีกมากมายไม่ว่าจะเป็น โหมดควบคุมการยึดเกาะถนน Gravel แบบเอกสิทธิ์เฉพาะบุคคลที่จะปรับคันเร่งอย่างละเอียดเพื่อจัดการกับภูมิประเทศที่ต้องพบเจอ พร้อมด้วยโหมดการขับขี่ 3 แบบให้คุณได้เลือกใช้คือ A , B และ C 

-โหมด A แรงที่สุดคือขุมพลังเครื่องยนต์มาเต็ม รอบมาไวเหมาะสำหรับสายซิ่ง

-โหมด B เหมาะสำหรับการขับขี่เดินทางไกล ออกทริป คันเร่งมาแบบนุ่มนวล

-โหมด C เป็นโหมดที่เบาที่สุด เหมาะสำหรับการขับขี่เมื่อถนนเปียกลื่น หรือฝนตก

และนอกจากโหมดการขับขี่ที่มีให้เลือกใช้งานอย่างหลากหลายแล้วตัวรถยังได้มาพร้อมกับ Traction Control  , Quick Shifter แบบสองทิศทางทั้งขึ้น และลงรวมไปจนถึงระบบเบรก ABS ซึ่งระบบความปลอดภัยเหล่านี้สามารถเลือกปิดได้เช่นกันหากคุณต้องการ

ระบบกันสะเทือน และระบบเบรกไม่ธรรมดา

ในส่วนของระบบกันสะเทือนนั้น Suzuki V-Strom 800DE ได้มาพร้อมกับโช้คอัพด้านหน้าแบบ Up Side Down ขนาดแกน 43 มม. จาก Showa ส่วนด้านหลังมาพร้อม Mono Shock จาก Showa ที่สามารถปรับตั้งค่าได้ด้วยที่ปรับแบบมือหมุน โดยสามารถหมุนได้กว่า 40 คลิ๊กเลยทีเดียว ซึ่งทั้งด้านหน้า และด้านหลังคุณสามารถปรับตั้งค่าการทำงานของโช้คอัพได้อย่างละเอียด ต่อมาในส่วนของระบบเบรกด้านหน้าตัวรถมาพร้อมจานดิสก์เบรกคู่ ที่ทำงานร่วมกับคาลิปเปอร์เบรกจาก Nissin ส่วนด้านหลังมาพร้อมจานดิสก์เบรกเดี่ยวพร้อมคาลิปเปอร์เบรกจาก Nissin เช่นเดียวกัน ซึ่งทั้งหมดมาพร้อมชุดล้อแบบซี่ลวดที่ด้านหน้าขนาด 21 นิ้ว และด้านหลังขนาด 17 นิ้ว เรียกได้ว่าสเปคพร้อมลุยเป็นอย่างมาก 

ลองขี่แล้วมันดีเกินคาด

และเมื่อถึงเวลาที่เราจะได้ขับขี่ทดสอบเจ้า Suzuki V-Strom 800DE ใหม่ในครั้งนี้สิ่งแรกที่เราสัมผัสได้จากท่านั่งเลยก็คือ ทั้งส่วนเว้าของเบาะนั่ง กับตำแหน่งแฮนด์บาร์นั้นรับกันได้อย่างลงตัวทำให้ตัวรถมาพร้อมท่าทางการขับขี่ที่สบาย และผ่อนคลาย รวมไปถึงตำแหน่งพักเท้าที่ช่วยให้ขาทั้ง 2 ข้างของเรานั้นสามารถหนีบทั้งน้ำมันได้อย่างมั่นใจไม่ว่าจะเป็นท่าทางที่ต้องยืนขับขี่ หรือนั่งแบบปกติ 

การขับขี่ในเส้นทาง On-Road ในรูปแบบการเดินทางท่องเที่ยวนั้นต้องบอกเลยว่าตัวรถมาพร้อมท่านั่งที่สบายสุด ๆ อย่างที่เราได้บอกไป แถมแฮนด์บาร์ทรงกว้างที่ให้มายังให้การบังคับเลี้ยวที่คล่องตัวมาก ๆ ส่วนเครื่องยนต์ 2 สูบเรียง ขนาด 779 ซี.ซี. ใหม่นี้บอกเลยว่าขี่ง่ายมาก ๆ ตัวรถให้ความรู้สึกที่เป็นมิตร ควบคุมได้ง่ายตามใจสั่ง ตัวรถมาพร้อมพละกำลังแต่เป็นขุมกำลังที่มาแบบเรื่อย ๆ ไม่ได้ปรู๊ดปร๊าดจนรู้สึกน่ากลัว หรือควบคุมได้ยาก ซึ่งเราอยากจะบอกว่าตัวรถขนาด 779 ซี.ซี. นั้นแรงแน่นอนมีขุมพลังให้ใช้อย่างเหลือเฟือสำหรับการขับขี่เดินทางท่องเที่ยว คันเร่งไฟฟ้าตอบสนองไว แถมตัวรถยังมาพร้อมชุดเกียร์แบบควิกชิฟเตอร์แบบสองทิศทางทั้งขึ้น และลงนั่นยิ่งทำให้เราสามารถขับขี่เจ้า Suzuki V-Strom 800DE คันนี้ได้สนุกมากขึ้นไปอีก

ส่วนสำหรับเส้นทาง Off-Road นั้นยิ่งสนุกเพราะด้วยโหมดการขับขี่อย่าง (G) หรือโหมด Gravel นั้นตัวรถจะทำงานร่วมกับระบบอย่าง Traction Control ซึ่งช่วยให้คุณสามารถเข้าโค้งแบบท้ายสไลด์ในทางฝุ่นได้แบบง่ายดาย โดยที่ไม่ต้องกลัวว่าตัวรถจะสไลด์หรือเอียงจนไม่ปลอดภัยเพราะระบบ Traction Controlจะช่วยคำนวณกำลังในล้อหลังให้คุณและตัดรอบความเร็วลงไปเองนั่นเท่ากับว่าในเส้นทาง Off-Road นั้นในทางโค้งเปิดคันเร่งไปเลยตัวรถจะจัดการที่เหลือให้คุณเอง ซึ่งเป็นอะไรที่ช่วยผู้ขับขี่มือใหม่อย่างเราให้กล้าที่จะขับขี่ขึ้นไปอีกขั้นโดยที่ไม่ต้องกลัวว่าคันเร่งจะล้นจนทำให้เราเสียอาการภายในโค้งซึ่งบอกเลยว่าเป็นอะไรที่ดีมาก ๆ สำหรับเจ้าโหมด Gravel ในทางฝุ่น

ซึ่งนอกจากโหมดการขับขี่อย่าง Gravel แล้วการที่ตัวรถอย่าง Suzuki V-Strom 800DE ยังมาพร้อมโหมด A , B และ C ให้คุณได้เลือกใช้ตามสถานการณ์อีกมากมายแล้ว การเลือกเปิดปิด Traction Control และ ABS ได้อย่างอิสระก็ช่วยให้คุณขับขี่ได้กับสไตล์ที่เป็นตัวของคุณเองได้อย่างง่ายดาย เพราะการปรับตั้งค่านั้นสามารถทำได้ง่ายสุด ๆ เพียงปุ่มควบคุมจากแฮนด์บาร์ด้านซ้ายเท่านั้นซึ่งสามารถควบคุมได้ด้วยนิ้วเดียวขณะขับขี่ซึ่งใช้งานง่ายสุด ๆ ไปเลยสำหรับการเลือกปรับตั้งค่าตัวรถอย่างเจ้า Suzuki V-Strom 800DE คันนี้

ต่อมากับในส่วนของระบบเบรก และช่วงล่างซึ่งในการทดสอบครั้งนี้เราได้ขับขี่โดยใช้ค่ามาตรฐานจากโรงงาน ซึ่งไม่ได้ปรับตั้งเพิ่มเติมให้เหมาะกับน้ำหนักของเราแต่อย่างใด แต่ตัวรถก็ทำออกมาได้ดีสุด ๆ ช่วงล่างที่นุ่มนวล ช่วงยุบที่เยอะทำให้ตะลุยไปในเส้นทาง Off-Road ได้อย่างราบเรื่อยไม่เหนื่อยเรียกว่าลุยได้สบายกับช่วงล่างที่ให้มา ส่วนสำหรับเส้นทาง On-Road บนถนนดำในการเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงตัวรถก็นิ่งมาก ๆ

ถึงจะมีอาการยวบย้วยเพียงเล็กน้อยให้ได้เห็นบ้างแต่ก็เรียกว่าน้อยมาก ๆ เพราะอย่าลืมว่าโช้คอัพทั้งด้านหน้า และด้านหลังสามารถปรับแต่งได้อีกเยอะซึ่งตรงนี้ทำให้เราคิดว่าช่วงล่างชุดนี้จาก Showa ก็เพียงพอแล้วสำหรับการเดินทางทั้งในเส้นทาง On-Road และ Off-Road ต่อมาในส่วนของระบบเบรกเรียกได้ว่าหนึบเอาอยู่อย่างแน่นอน แถมเมื่อเปิดใช้ ABS ตัว ABS สามารถทำงานได้อย่างละเอียดมาก ๆ แต่เมื่อปิดก็ให้ความรู้สึกถึงการหยุดรถที่หนึบ และปลอดภัยในทุกย่านความเร็ว 

Suzuki V-Strom 800DE เหมาะกับใคร ?

สำหรับ Suzuki V-Strom 800DE นั้นเรามองว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากสำหรับรถในสไตล์แอดเวนเจอร์ทัวริ่งไบค์พิกัดกลางที่มีราคาวางจำหน่ายอยู่ที่ 479,000 บาท เพราะเราอยากจะบอกว่าเมื่อเทียบกับของที่ตัวรถให้มาแล้วนั้นมันเป็นรถแอดเวนเจอร์ในพิกัดนี้ที่คุ้มค่าคุ้มราคาที่สุดในตลาดเมืองไทยตอนนี้เลยก็ว่าได้ ตัวรถเหมาะกับทั้งผู้ขับขี่มือใหม่ที่มีประสบการณ์ไม่เยอะ และผู้ขับขี่รุ่นเก๋าที่ประสบการณ์โชกโชน

เพราะด้วยความที่ตัวรถคุมง่าย ขี่ง่าย ท่านั่งสบาย ทำให้มันเป็นมิตรต่อผู้ขับขี่แบบสุด ๆ ในขณะเดียวกันหากคุณเลือกปิดระบบช่วยขับขี่ต่าง ๆ บนตัวรถออกทั้งหมดผู้ขับขี่มือเก๋าก็จะได้สนุกไปกับ Suzuki V-Strom 800DE ได้อย่างเต็มที่แบบบ้าพลัง โดยตัวรถ Suzuki V-Strom 800DE นั้นสามารถใช้ขับขี่เดินทางไกลในรูปแบบท่องเที่ยวได้แบบสบาย ๆ แถมยังพาคุณลุยเข้าไปในเส้นทางที่เป็น Off-Road ได้อีกด้วย เรียกได้ว่าคันเดียวจบ ๆ ทั้งถนนดำ และทางฝุ่น   

อ่านเพิ่มเติม : 2023 Suzuki V-Strom 800DE กับเครื่องยนต์ที่ไม่มี V-Twin อีกแล้ว

อ่านเพิ่มเติม : 2023 Suzuki V-Strom 1050 DE แอดเวนเจอร์รุ่นใหญ่จากค่ายคนบ้า

อ่านเพิ่มเติม : Suzuki V-Strom SX250 เปิดตัวพร้อมวางจำหน่ายในฟิลิปปินส์แล้ว