สำหรับ Triumph Speed 400 และ Triumph Scrambler 400 X คือรถพิกัดเล็กที่สุดที่ทาง Triumph ได้มีวางจำหน่ายในตอนนี้ ซึ่งตั้งแต่เริ่มมีข่าวว่าทาง Triumph จะมีการผลิตรถรุ่นนี้ออกวางจำหน่าย มันก็ได้รับความสนใจจากบรรดาไบค์เกอร์ทั่วโลกในทันที ไม่เว้นแม้แต่ในประเทศไทยของเราเองก็เช่นกัน และในตอนนี้ทั้ง Triumph Speed 400 และ Scrambler 400 X ก็ได้มีการวางจำหน่าย พร้อมส่งมอบรถให้กับลูกค้าในประเทศไทยไปแล้วอย่างเป็นทางการ และแน่นอนว่าทาง AutoFun Thailand ของเราก็ได้มีโอกาสไปขับขี่ทดสอบรถทั้ง 2 รุ่นมาแล้วด้วยเช่นกัน ซึ่งจะเป็นอย่างไรบ้างนั้นไปฟังกันได้เลย
สิ่งแรกที่เราเห็นได้เลยจากรถทั้ง Triumph Speed 400 และ Scrambler 400 X คืองานดีไซน์ภายนอกที่ต้องบอกเลยว่ามันสวยมาก ถึงแม้จะเป็นรถพิกัดเล็ก และมีราคาที่ไม่สูงเท่ารุ่นอื่น ๆ ของทางค่าย แต่ในเรื่องของงานดีไซน์ และการออกแบบนั้นเราบอกได้เลยว่าดีงามสุด ๆ
ไม่ว่าจะเป็นวัสดุที่ใช้ประกอบ ชุดสี หรือเอกลักษณ์ต่าง ๆ ที่บ่งบอกว่านี่คือรถมอเตอร์ไซค์ Triumph แบบรอบคัน ซึ่งทั้งหมดนั้นทำให้ Triumph Speed 400 และ Scrambler 400 X เป็นรถอีกหนึ่งรุ่นในพิกัด 400 ซี.ซี. ที่มีความสวยงามในด้านของรูปลักษณ์ภายนอกเป็นอย่างมาก และเราเองคิดว่าเพื่อน ๆ ก็คงจะมองแบบเดียวกันกับเรา
สำหรับ Triumph Speed 400 และ Scrambler 400 X ทั้ง 2 จะมาพร้อมกับขุมพลังเครื่องยนต์ที่ทาง Triumph ได้พัฒนาขึ้นมาใหม่เพื่อรถรุ่นนี้โดยเฉพาะ นั่นก็คือเครื่องยนต์ 1 สูบ แบบ DOHC 4 วาล์ว ขนาด 398.15 ซี.ซี. ระบายความร้อนด้วยน้ำ พร้อมหัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์จาก Bosch ซึ่งทั้งหมดช่วยให้ตัวรถมาพร้อมขุมพลัง 40 แรงม้าที่ 8,000 รอบ/นาที พร้อมด้วยแรงบิด 37.5 นิวตันเมตรที่ 6,500 รอบ/นาที ซึ่งถือว่าเป็นเครื่องยนต์ที่ใช้งานได้ง่าย ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป
| Triumph Speed 400 | Triumph Scrambler 400 X |
ชุดล้อ หน้า/หลัง | 17 x 3 นิ้ว หน้า/หลัง | หน้า 19 x 2.5 นิ้ว / หลัง 17 x 3.5 นิ้ว |
ยางหน้า | Metzeler Sportec M9RR | Metzeler Karoo Street |
ขนาดยาง หน้า/หลัง | 110/70 R17 : 150/60 R17 | 100/90 R19 : 140/80 R17 |
โช้คอัพด้านหน้า | หัวกลับ 43 มม. ระยะยุบ 140 มม. | หัวกลับ 43 มม. ระยะยุบ 150 มม. |
โช้คอัพด้านหลัง | Monoshock ระยะยุบ 130 มม. | Monoshock ระยะยุบ 150 มม. |
เบรกหน้า | ดิสก์เดี่ยวขนาด 300 มม. | ดิสก์เดี่ยวขนาด 320 มม. |
น้ำหนักตัวรถ | 170 กิโลกรัม | 179 กิโลกรัม |
| Triumph Speed 400 | Triumph Scrambler 400 X |
ความสูง | 2056 มม. | 2117 มม. |
ความกว้างแฮนด์ | 795 มม. | 825 มม. |
ความสูงเบาะนั่ง | 790 มม. | 835 มม. |
ระยะฐานล้อ | 1377 มม. | 1418 มม. |
ความยาว Trail | 102 มม. | 108 มม. |
สำหรับรถ Triumph Speed 400 และ Triumph Scrambler 400 X นั้นต้องบอกเลยว่าทั้ง 2 มาพร้อมความรู้สึกที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนในแง่ของสไตล์การขับขี่ และรูปแบบการใช้งาน โดยเริ่มจาก Triumph Speed 400 มันเป็นรถที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการขับขี่ใช้งานภายในเมือง หรือรูปแบบของรถเน็คเก็ตสตรีทไบค์ที่ให้ความคล่องตัวที่สูง น้ำหนักที่เบา การบังคับเลี้ยวที่ง่ายคล่องตัว
พร้อมด้วยความสูงของเบาะนั่งที่ 790 มม. นั่นจึงทำให้คนเอเชียอย่างเรา ๆ ที่มีส่วนสูงไม่มากนั้นสามารถวางเท้าได้อย่างเต็มพื้นแบบมั่นใจ รวมไปถึงขุมพลังเครื่องยนต์ที่มาพร้อมคันเร่งแบบไฟฟ้ายิ่งทำให้รถคันนี้ขับขี่ได้สนุกยิ่งขึ้นไปอีก โดยถือว่าเป็นรถที่รอบจัดจ้านทอร์คมีให้ใช้งานมาเร็วเปิดเร่งแซงได้ทุกจังหวะที่ต้องการ พร้อมระบบแทร็คชั่นคอนโทรลที่สามารถเลือกปิดเปิดได้ตามการก็ยิ่งทำให้เราขับขี่ Triumph Speed 400 คันนี้ได้สนุกมากยิ่งขึ้น
มาต่อกันที่ Triumph Scrambler 400 X ที่มาพร้อมกับตัวเบาะนั่งที่สูงกว่า Triumph Speed 400 และแฮนด์บาร์ก็กว้างกว่าเช่นเดียวกัน แต่ทั้งหมดนั้นมันช่วยให้ Triumph Scrambler 400 X มีความสามารถในการขับขี่บนทางฝุ่นที่ดีกว่า ทั้งลุยได้มากกว่า และท่าทางการนั่งที่สบายกว่าเพราะด้วยแฮนด์บาร์ที่กว้างกว่าช่วยให้การยืนขี่ และต้องบังคับเลี้ยวทำได้คล่องตัวมากยิ่งขึ้นในการควบคุมตัวรถไปบนเส้นทางแบบออฟโรด
นอกจากนี้ Triumph Scrambler 400 X ยังมาพร้อมความสามารถในการเปิด และปิดแทร็คชั่นคอนโทรลได้เช่นเดียวกันกับ Triumph Speed 400 แต่สิ่งที่เหนือกว่าก็คือในตัว Triumph Scrambler 400 Xคุณยังสามารถเลือกเปิดปิดการทำงานของระบบเบรก ABS ได้อีกด้วย
สำหรับเรามองว่าสายหล่อเท่ อยากได้รถขับขี่ใช้งานภายในเมืองใหญ่ ไม่ได้คิดจะมีไว้ออกทริป หรือเดินทางท่องเที่ยวที่บ่อยครั้งนัก Triumph Speed 400 ดูจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคุณ เพราะมันสามารถมุดใช้งานภายในเมืองได้ง่ายกว่า Scrambler 400 X อย่างแน่นอน
ส่วนใครที่เป็นสายเที่ยว สายเดินทาง แต่ก็อยากใช้รถในชีวิตประจำวันด้วยแน่นอนว่า Triumph Scrambler 400 X เป็นตัวเลือกที่ดูดีสำหรับคุณเพราะมันสามารถใช้งานได้ทั้งรูปแบบของออนโรด และออฟโรด และด้วยแฮนด์บาร์ที่กว้าง บวกกับตัวรถที่สูงกว่าทาง Speed 400 ทำให้มันมีท่าทางการขับขี่ที่นั่งได้สบายกว่าสำหรับการเดินทางไกลในรูปแบบทริปท่องเที่ยว
สำหรับ Triumph Speed 400 มาพร้อมราคาวางจำหน่ายในประเทศไทยที่ 157,900 บาท กับตัวเลือกสี Carnival Red , Caspian Blue และ Phantom Black ส่วนสายลุย Triumph Scrambler 400 X จะมาพร้อมราคาวางจำหน่ายที่ 179,900 บาท พร้อมด้วยตัวเลือกสี Matt Khaki Green / Fusion White , Carnival Red / Phantom Black , Phantom Black / Silver Ice
อ่านเพิ่มเติม : แอบส่องสเปค Triumph Speed 400 และ Scrambler 400 X
อ่านเพิ่มเติม : Triumph TF 250-X มอเตอร์ไซค์วิบากเผยสเปคจัดเต็มแล้ว
อ่านเพิ่มเติม : 2024 Triumph Daytona 660 ตำนานกลับมาแล้ว