Royal Enfield คือหนึ่งในแบรนด์รถมอเตอร์ไซค์ที่ไบค์เกอร์ทั่วโลกต่างรู้จักเป็นอย่างดีในฐานะเป็นอีกหนึ่งแบรนด์รถมอเตอร์ไซค์สุดเก่าแก่ของโลก ที่ยังคงดำเนินธุรกิจมาจนถึงปัจจุบัน และด้วยความแข็งแกร่งในจุดนี้เองทำให้แบรนด์อย่าง Royal Enfield ได้เล็งเห็นถึงกลุ่มไบค์เกอร์ และศักยภาพในการเติบโตของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และจากยอดขายรถมอเตอร์ไซค์ขนาดกลางของประเทศไทย ในปี 2564 นั้นมีส่วนแบ่งการตลาดมากถึง 7% ในกลุ่มรถพิกัด 250-750 ซี.ซี. ด้วยเหตุนี้เองทาง Royal Enfield ได้เล็งเห็นถึงความแข็งแกร่งของประเทศไทยจึงได้ตัดสินใจหวังใช้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิต และส่งออกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกทั้งหมด
ในตลอดช่วงระยะเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมาต้องบอกว่าแบรนด์ผู้ผลิตรถมอเตอร์ไซค์อย่าง Royal Enfield นั้นมีการเติบโต และประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากเนื่องจากยอดขายระหว่างประเทศของพวกเขาเพิ่มขึ้นกว่า 1 เท่าตัว เมื่อเทียบกับปี 2020-2021 พวกเขามีการเติบโตกว่า 80% - 100% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาในช่วงเวลาเดียวกัน และมีปริมาณซื้อขายที่เพิ่มขึ้นมากกว่า 40% เมื่อเทียบกับปี 2019 – 2020 ซึ่งเมื่อย้อนกลับไปพบว่าตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมาแบรนด์รถมอเตอร์ไซค์อย่าง Royal Enfield มีส่วนแบ่งรายได้ในตลาดต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า ซึ่งนี่แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของแบรนด์จากประเทศอินเดียในตลาดโลก
สำหรับแบรนด์อย่าง Royal Enfield นั้นได้เริ่มเข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2016 โดยในปัจจุบันได้ตัวแทนจำหน่ายกว่า 30 สาขาใน 25 จังหวัดทั่วประเทศ และมีลูกค้ากว่า 10,000 รายแล้วในปัจจุบัน และด้วยความเติบโตอย่างมั่นคงของแบรนด์ Royal Enfield ในประเทศไทยนี้เองจึงทำให้พวกเขาตัดสินใจใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการผลิต และส่งออกรถในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกทั้งหมด ซึ่งขณะนี้โรงงานดังกล่าวได้สร้างเสร็จ และเริ่มผลิตรถมอเตอร์ไซค์จากทาง Royal Enfield ออกจำหน่ายในประเทศแล้วเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งการจัดตั้งโรงงานในครั้งนี้จะมีส่วนเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาในเรื่องของจำนวนรถที่ขาดแคลนไปก่อนหน้านี้ได้เป็นอย่างดี
โดยโรงงานแห่งนี้จะผลิตรถทุกรุ่นที่ทาง Royal Enfield วางจำหน่ายอยู่ในปัจจุบันไม่ว่าจะเป็น All-New Classic 350 , Meteor 350 , Himalayan , Interceptor 650 และ Continental GT 650 ซึ่งในช่วงแรกนั้นทางโรงงานจะเน้นผลิตรถในพิกัดเครื่องยนต์ 350 ซี.ซี. และ 650 ซี.ซี. ออกมาก่อน และจะขยายไปยังรุ่นต่าง ๆ ต่อไป ซึ่งในตอนนี้จะเป็นการผลิตเพื่อจัดจำหน่ายในประเทศไทยก่อนเท่านั้น และคาดว่าโรงงานแห่งนี้จะพร้อมผลิตเพื่อส่งออกในตลาดภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกได้ภายในสิ้นปีนี้
สำหรับรถรุ่นใหม่ที่จะทำการเปิดตัวในปีนี้นั้นทางผู้บริหารของ Royal Enfield ได้บอกเพียงว่าเรายังมีรถรุ่นใหม่อีกหลายรุ่นที่กำลังจะทยอยเปิดตัวภายในปีนี้ ส่วนรถ EV จาก Royal Enfield ที่หลายคนถามหานั้นจะยังไม่เกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้อย่างแน่นอน แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่เกิดขึ้นเพราะตอนนี้ทาง Royal Enfieldกำลังเตรียมแผนสำหรับยานยนต์แห่งอนาคตเหล่านี้เอาไว้แล้วเหมือนกัน เพราะมันคือสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
ส่วนต่อมาเราตั้งข้อสังเกตในแง่ที่ว่าทาง Royal Enfield จะผลิตรถที่มีขนาดเครื่องยนต์ 250 – 750 ซี.ซี. เท่านั้น ซึ่งทำกับว่าในอนาคตเราอาจจะได้เห็นรถในพิกัดใหญ่สุดของทางค่ายกับเครื่องยนต์ขนาด 750ซี.ซี. และในพิกัดเล็กสุดที่ 250 ซี.ซี. ก็เป็นได้ ซึ่งกระแสข่าวที่ว่าก็มีหลุดออกมาให้เราได้เห็นกันอยู่บ่อย ๆ จากการคาดเดาของสื่อต่างประเทศ ซึ่งเอาละเห็นแบบนี้แล้วสาวก RE ในประเทศไทยคงจะใจชื้นได้อย่างแน่นอนว่าแบรนด์อย่าง Royal Enfield นั้นกำลังเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องและแข็งแกร่ง รวมไปถึงจะมีรถรุ่นใหม่ ๆ และกิจกรรมการขับขี่อีกมากมายไว้เซอร์ไพรส์เหล่าแฟน ๆ อย่างแน่นอน
อ่านเพิ่มเติม : Royal Enfield ฉลองครบ 120 ปีด้วยมอเตอร์ไซค์รุ่นพิเศษ
อ่านเพิ่มเติม : 2022 Royal Enfield Scram 411 แฝดผู้น้องสายลุยของ Himalayan
อ่านเพิ่มเติม : Royal Enfield Tour of Thailand 2022 การเดินทางกว่า 1,600 กม.