ขับขี่ทดสอบครั้งแรกของโลก Royal Enfield Super Meteor 650 ณ ประเทศอินเดีย!

ขับขี่ทดสอบครั้งแรกของโลก Royal Enfield Super Meteor 650 ณ ประเทศอินเดีย!

ต้องบอกว่าครั้งนี้ถือเป็นโอกาสสุดแสนพิเศษสำหรับ AutoFun Thailand ที่ได้รับเกียรติให้เข้าร่วมการทดสอบรถรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Royal Enfield Super Meteor 650 ณ ประเทศอินเดีย พร้อมกับสื่อมวลชนชั้นนำจากทั่วโลก ซึ่งการขับขี่ในครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกด้วยเช่นกันสำหรับสื่อมวลชนจากประเทศไทยอย่างเรา ที่จะได้ขับขี่ Super Meteor 650 และนำมาบอกเล่าประสบการณ์การขับขี่ทดสอบในครั้งนี้ให้แฟน ๆ ชาวไทยได้รับฟังกัน ถ้าพร้อมแล้วเรามุ่งหน้าสู่แดนภารตะกันเลย

  • คันจริงใหญ่โต บึกบึน
  • ดีไซน์สวยงามลงตัวในทุกส่วน
  • ขุมพลังเครื่องยนต์ที่เราคุ้นเคย
  • ช่วงล่าง ระบบเบรกไม่ขี้เหร่
  • ขี่จริง ใช้งานจริงบนถนนในประเทศอินเดีย
  • รถครุยเซอร์ที่ขี่สนุกเราชอบเลย
  • ตัวรถมีให้เลือก 2 รุ่น
  • เปิดราคาแล้วใน 3 ประเทศ

งานนี้รวมตัวสื่อมวลชนจากทั่วโลก

คันจริงใหญ่โต บึกบึน

สำหรับ Royal Enfield Super Meteor 650 นั้นมันเป็นรถในสไตล์ครุยเซอร์รุ่นใหม่ล่าสุดจากทางค่าย Royal Enfield ซึ่งครั้งแรกที่เราได้เห็นรถคันจริงนั้นต้องบอกเลยว่ามันได้รับการออกแบบอย่างสวยงาม และดูแตกต่างไปจากรถของทางค่ายในรุ่นอื่น ๆ ที่ผ่านมา

ฝูง Royal Enfield Super Meteor 650 ที่เราจะใช้ทดสอบในครั้งนี้

ตัวรถได้มาพร้อมกับรูปร่างขนาดใหญ่ ดูบึกบึน พร้อมด้วยงานสี และงานประกอบภายนอกที่เมื่อดูด้วยสายตาแล้วมันสวยงาม และลงตัวมาก ๆ เรียกได้ว่าคุ้มค่าสมการรอคอยจริง ๆ และเมื่อนำขนาดตัวรถที่มีความกว้าง 890 มม. และความสูงตัวรถที่ 1,155 มม. พร้อมด้วยระยะฐานล้อที่กว้าง 1,500 มม. แล้วนั่นทำให้เมื่อเทียบกับขนาดตัวของคนเอเชียอย่างเรา ๆ ทำให้เจ้า Royal Enfield Super Meteor 650 คันนี้ดูใหญ่โตขึ้นมาในทันที

ตัวรถดีไซต์ลงตัวสวยงาม

ดีไซน์สวยงามลงตัวในทุกส่วน

Royal Enfield Super Meteor 650 โดดเด่นมาด้วยชุดไฟ LED ด้านหน้าทรงกลม พร้อมด้วยไฟเบรกด้านท้ายทรงกลม LED แต่น่าเสียดายที่ในส่วนของไฟเลี้ยวแบบกลมยังคงใช้หลอดไส้อยู่

ชุดไฟ LED ด้านหน้า

ถัดมาในส่วนบนกับหน้าจอเรือนไมล์ทรงกลมแบบคู่ที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีกับมาตราวัดด้านซ้ายแบบผสมผสานระหว่างตัวเข็มบอกความเร็ว และหน้าจอ LCD ทรงกลมขนาดเล็กด้านในที่แสดงข้อมูลต่าง ๆ ของตัวรถ ส่วนเรือนไมล์ทรงกลมด้านขวาขนาดเล็กนั่นก็คือระบบนำทางแบบ Turn by Turn ที่ทำงานร่วมกับการเชื่อมต่อผ่านแอพพลิเคชั่น Royal Enfield บนมือถือของคุณนั่นเอง

ชุดเรือนไมล์ที่เราคุ้นเคย

ถัดมาในส่วนของแฮนด์บาร์ทรงกว้าง ที่ผสานเข้ากับเบาะนั่งแบบตอนเดียวไล่ระดับระหว่างผู้ขับขี่ และผู้ซ้อน อีกทั้งตัวรถยังได้มาพร้อมการออกแบบตัวเฟรมเหล็กใหม่ทั้งหมดแบบ Tubular ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้ท่าทางการนั่งของผู้ขับขี่นั้นไม่โน้มตัวก้มต่ำไปด้านหน้า ซึ่งทำให้ได้ท่าทางการขับขี่ที่ทั้งเท่ และสบายตามแบบฉบับของรถมอเตอร์ไซค์ครุยเซอร์นั่นเอง

ท่าทางการขับขี่ที่ทั้งเท่ และสบาย

นอกจากนี้สิ่งที่ไม่พูดถึงคงจะไม่ได้คงเห็นจะเป็นในเรื่องของถังน้ำมันขนาด 15.7 ลิตร ที่ได้รับการออกแบบอย่างสวยงามพร้อมด้วยงานสีที่บอกเลยว่าสีจริงแต่ละสีนั้นสวยมาก ๆ สำหรับงานสีในรอบนี้ และพิเศษโลโก้สีเงินด้านข้างตัวถังน้ำมันที่เขียนคำว่า Royal Enfield เอาไว้ก็ได้รับการออกแบบใหม่มาเพื่อเจ้า Super Meteor 650 คันนี้โดยเฉพาะ

ถังน้ำมันพร้อมโลโก้ที่ได้รับการออกแบบใหม่โดยเฉพาะ

ขุมพลังเครื่องยนต์ที่เราคุ้นเคย

สำหรับ Royal Enfield Super Meteor 650 คันนี้มันมาพร้อมกับขุมพลังเครื่องยนต์ 648 ซี.ซี. แบบ 2 สูบที่เราคุ้นเคยกันดีในรถรุ่นก่อนหน้าอย่าง Royal Enfield Continental 650 และ Royal Enfield Interceptor 650 นั่นเอง

ขุมพลังที่เราคุ้นเคย

ซึ่งอย่างที่ทราบว่าเครื่องยนต์ลูกนี้มาพร้อมกับขุมพลัง 47 แรงม้าที่ 7,250 รอบ/นาที พร้อมด้วยแรงบิดสูงสุด 52 นิวตันเมตรที่ 5,650 รอบ/นาที กับน้ำหนักของตัวรถที่ 241 กก. แต่ในเจ้า Royal Enfield Super Meteor 650 ทาง Royal Enfield ได้ทำการปรับเปลี่ยนอัตราทดเกียร์มาใหม่เพื่อให้มันเข้ากับสไตล์ของรถครุยเซอร์ที่มากขึ้น

เครื่องยนต์ขี่สนุก กำลังมีให้ใช้

ช่วงล่าง ระบบเบรกไม่ขี้เหร่

Royal Enfield Super Meteor 650 ได้มาพร้อมกับโช้คอัพด้านหน้าแบบ Up Side Down ขนาดแกน 43 มม. พร้อมด้วยระยะยุบ 120 มม. จาก Showa ส่วนในด้านหลังตัวรถมาพร้อมโช้คอัพแบบคอยสปริงคู่ที่มีระยะยุบ 101 มม. ซึ่งวางไว้บนสวิงอาร์มด้านหลังของตัวรถ พร้อมด้วยชุดล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้วด้านหน้ากับตัวยางขนาด 100/90-19 และ 16 นิ้วที่ด้านหลังกับตัวยางขนาด 150/80-16 

ช่วงล่างเอาอยู่

ในส่วนของระบบเบรกนั้น Royal Enfield Super Meteor 650 มาพร้อมจานดิสก์เบรกเดี่ยวด้านหน้าขนาด 320 มม. ที่ทำงานร่วมกับคาลิปเปอร์เบรกแบบ 2 พอต ส่วนด้านหลังมาพร้อมจานดิสก์เบรกเดี่ยวขนาด 300 มม. ที่ทำงานร่วมกับคาลิปเปอร์เบรกแบบ 2 พอตด้วยเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ Super Meteor 650 ยังได้เสริมความปลอดภัยขึ้นไปอีกขั้นด้วยระบบเบรก ABS แบบ Dual Channel

ABS แบบ Dual Channel

ขี่จริง ใช้งานจริงบนถนนในประเทศอินเดีย

สำหรับการขับขี่ทดสอบ Royal Enfield Super Meteor 650 ในครั้งนี้ที่ประเทศอินเดียเราได้ทำการขับขี่กันเป็นระยะเวลา 2 วัน ณ รัฐราชสถาน ดินแดนสีทองเมืองแห่งทะเลทรายของอินเดีย โดยการทดสอบในครั้งนี้จะเน้นการทดสอบไปที่ทางดำบนถนนไฮเวย์ทางตรงยาว ๆ เป็นหลัก แต่ก็มีโค้งแบบกว้าง ๆ ให้เราได้พอสนุกอยู่บ้าง

เส้นทางที่ใช้ขับขี่จะเป็นทางตรงยาวสะส่วนใหญ่

โดยสิ่งที่เราประทับใจเป็นอย่างแรกคงจะเป็นในเรื่องของตำแหน่งท่าทางการนั่งที่ให้ความรู้สึกที่สบายมาก ๆ ด้วยตัวแฮนด์บาร์ที่กว้าง และเบาะนั่งที่ออกแบบให้รับกับส่วนก้นสำหรับการเดินทางไกลเอาไว้ได้เป็นอย่างดี กับเบาะนั่งที่มาพร้อมความสูงเพียง 740 มม. เท่านั้น แต่ท่าทางดังกล่าวเมื่อเราขับขี่เกิน 200 กม. ขึ้นไปโดยไม่มีการหยุดพักก็มีแอบเมื่อยอยู่บ้างเหมือนกัน แต่ก็ยังถือว่าเป็นท่าทางที่สบายอยู่ดี เพราะในการใช้งานจริงเราเชื่อว่าทุกคนย่อมจะต้องจอดพักเผื่อผ่อนคลายอิริยาบถกันอยู่แล้ว

เบาะนั่งสูง 740 มม.

ในส่วนของพละกำลังเครื่องยนต์ 648 ซี.ซี. สูบคู่ที่ให้มาถือว่าเพียงพอสำหรับการเดินทางคุณสามารถขับขี่ยืนพื้นที่ความเร็ว 120 กม./ชม. และเปิดเร่งแซงในย่านความเร็วที่ 140 กม./ชม. ได้แบบสบาย ๆ ซึ่งในทริปนี้เราได้ลองทำความเร็วสูงสุดในช่วงทางตรงยาวตัวรถสามารถกดความเร็วสูงสุดได้ที่ 160 กม./ชม. ในเกียร์ 5 แต่เมื่อเราขึ้นเกียร์ 6 รอบเครื่องก็ลดลงและห้อยทันทีซึ่งเกียร์ 6 ก็เปรียบเสมือนกับเกียร์สำหรับทัวริ่งที่เอาไว้ใช้ขับขี่ข้ามเมือง หรือข้ามรัฐในช่วงที่มีทางตรงยาว ๆ นั่นเอง แต่ความเร็วสูงสุดนั้นยังสามารถขึ้นไปได้อีก แต่เราขอยกคันเร่งก่อนดีกว่าเพราะเส้นทางนั้นอย่างที่เราได้บอกไปว่ามันไม่ค่อยน่าไว้ใจ เพราะมันพร้อมที่จะมีตัวอะไรก็ตามกระโดดออกมาขวางหน้ารถของเราได้ตลอดเวลานั่นเอง

เดินทางไกลยาว ๆ สบายเลย

ส่วนบุคลิกของเครื่องยนต์นั้นเราต้องบอกว่าในทุกย่านความเร็วตัวรถมาพร้อมความสมูทกับการต่อเกียร์ที่นุ่มนวล แต่ก็มีพละกำลังที่พร้อมให้คุณเปิดคันเร่งพุ่งแซงไปข้างหน้าได้ตลอดเวลา ซึ่งพูดง่าย ๆ ก็คือมันเป็นรถที่ขับขี่ได้สนุกมาก ๆ อีกหนึ่งคันสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวบนเส้นทางดำยาว ๆ เลยก็ว่าได้ 

เป็นรถที่ขี่สนุกมากอีกหนึ่งรุ่น

ในส่วนของช่วงล่างถึงแม้จะยังมีความกระด้างอยู่บ้างแต่ก็ถือว่า  Royal Enfield Super Meteor 650 ทำออกมาได้ดีเพราะการขับขี่ในครั้งนี้เรายังไม่ได้ทำการปรับเซ็ทโช้คอัพให้เหมาะสมกับน้ำหนักตัวของเราแต่อย่างใด แต่เมื่อคุณขับขี่ด้วยย่านความเร็วสูง ไม่ว่าจะเป็นทางตรง หรือการพลิกเข้าโค้งตัวรถไม่มีอาการแสดงออกมาเลย ซึ่งมันเป็นรถที่ขับขี่ได้นิ่งมาก ๆ เพราะอีกส่วนอาจจะมาจากน้ำหนักของตัวรถที่ 241 กก. ซึ่งทำให้มันมีการกระจายน้ำหรือแรงกดที่ดีนั่นเอง 

ตัวรถนิ่งมากภายในโค้ง

ในส่วนต่อมาระบบเบรกที่ให้มาถือว่าทำงานได้ดีมาก ๆ เพราะท้องถนนในอินเดียนั้นเต็มไปด้วยสิ่งที่ไม่คาดคิดมากมายไม่ว่าจะเป็น รถชาวบ้านที่ขับขี่กันอย่างไม่มีทิศทางในตัวเมือง ฝูงวัวบนท้องถนน อูฐ กระต่าย และสุนัข ซึ่งทั้งหมดนี้เราได้พบเจออยู่ตลอดเส้นทางการทดสอบบนท้องถนน ซึ่งนั่นทำให้เราต้องเบรกฉุกเฉินอยู่หลายครั้งบนย่านความเร็วสูง ซึ่งตรงนี้เองระบบเบรก ABS ของตัวรถเข้ามาทำหน้าที่ และช่วยเราเอาไว้ได้มากทีเดียว ไม่อย่างนั้นเราคงจะต้องชนอะไรเข้าสักตัวแล้วแน่นอน

จ๊ะเอ๋!!!

รถครุยเซอร์ที่ขี่สนุกเราชอบเลย

สรุป Royal Enfield Super Meteor 650 นั้นเป็นรถที่เราคิดว่ามันจะต้องโดนใจสายครุยเซอร์ และสาวก RE ในบ้านเราอย่างแน่นอน ซึ่งเรื่องรูปลักษณ์ และงานดีไซน์ภายนอกเราคงไม่พูดถึงเพราะทุกอย่างมันดี และดูลงตัวไปแทบทุกส่วน

สาวก RE จะต้องถูกใจอย่างแน่นอน

ส่วนท่าทางการขับขี่นั้นก็สบาย แถมขุมพลังเครื่องยนต์ติดรถที่ให้มาเราว่ามันเพียงพอแล้วต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน และการเดินทางท่องเที่ยวออกทริป แต่สิ่งหนึ่งที่เราคิดว่าอาจจะเป็นปัญหาสำหรับไบค์เกอร์ในบ้านเรานั่นก็คือน้ำหนักของตัวรถที่เยอะ ทำให้วงเลี้ยวของรถมีจำกัด อีกทั้งหากนำมาใช้ขับขี่ในเส้นทางที่คดเคี้ยวอย่างในภาคเหนือของไทยตัวรถอาจจะพลิกรถได้ช้า และต้องใช้ทักษะในการพลิกเลี้ยวอยู่บ้างเพื่อไม่ให้น้ำหนักเหล่านี้มาเป็นภาระต่อตัวผู้ขับขี่

น้ำหนักที่เยอะอาจทำให้เป็นกังวลอยู่บ้าง

เพราะโจทย์ของ Royal Enfield Super Meteor 650 ในครั้งนี้ก็คือรถครุยเซอร์ที่ใช้เดินทางบนไฮเวย์ทางตรงแบบยาว ๆ นั่นเอง ซึ่งหากเป็นการขับขี่ในถนนข้ามรัฐในต่างประเทศแน่นอนว่ามันบรรลุวัตถุประสงค์ของการสร้างแล้ว

ไฮเวย์ตรงยาวคือทางของเขา

ตัวรถมีให้เลือก 2 รุ่น

สำหรับ Royal Enfield Super Meteor 650 มาพร้อมกับ 2 รุ่นหลักให้ได้เลือกนั่นก็คือในรุ่น SOLO และรุ่น TOURER ซึ่งความแตกต่างก็คือในรุ่นอย่าง TOURER นั้นตัวรถจะมาพร้อมกับชุดชิวตัดลมด้านหน้าขนาดใหญ่ พร้อมด้วยเบาะนั่งผู้ซ้อนที่มาพร้อมกับพนักพิง

ตัวรถมาพร้อม 2 รุ่นให้เลือก

ส่วนรายละเอียดอื่น ๆ บนตัวรถนั้นจะเหมือนกันทั้งหมด โดยสำหรับในรุ่น SOLO จะมาพร้อมชุดสี 2 รุ่นย่อยให้ได้เลือกคือ Interstellar กับสีเทา และ สีเขียว ส่วนในรุ่น Astral จะมาพร้อม 3 สีให้ได้เลือกคือ เขียว , น้ำเงิน และดำ ต่อมาในรุ่น TOURER จะมาพร้อม 2 สีนั่นก็คือ แดง และน้ำเงิน 

สไตล์ไหนที่ชอบก็เลือกเลย

เปิดราคาแล้วใน 3 ประเทศ

สำหรับการเข้าร่วมงานทดสอบ Royal Enfield Super Meteor 650 ในครั้งนี้ทาง Royal Enfield ได้ทำการประกาศราคาของตัวรถอย่างเป็นทางการออกมาแค่ใน 3 ประเทศเท่านั้นนั่นก็คือในฝั่งของประเทศโซนยุโรปที่ 7,890 ยูโรหรือประมาณ 280,000 บาทไทย และในฝั่งประเทศอังกฤษที่ 6,799 ปอนด์หรือประมาณ 273,000 บาทไทย และในประเทศอินเดียที่ 348,900 รูปี หรือประมาณ 140,000 บาทไทย

เหลือแค่เปิดตัวพร้อมราคาในประเทศไทย

ทั้งนี้ราคาทั้งหมดเป็นราคาสำหรับในรุ่นเริ่มต้นเท่านั้น ซึ่งเมื่อ Royal Enfield Super Meteor 650 เข้ามาวางจำหน่ายในประเทศไทยคงต้องมารอดูกันอีกครั้งว่าจะมีราคาวางจำหน่ายที่เท่าไหร่ในตลาดเมืองไทย ซึ่งหากทำราคาได้ดีไม่หนีห่างไปจากรุ่นพี่อย่าง Royal Enfield Continental 650 และ Royal Enfield Interceptor 650 มากนักเราเชื่อว่าเจ้าครุยเซอร์รุ่นใหม่อย่าง Royal Enfield Super Meteor 650 นั้นจะได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากแฟน ๆ RE ในบ้านเราอย่างแน่นอน

อ่านเพิ่มเติม : สัมผัสแรกลองขี่ Royal Enfield Scram 411 สายชิวต้องจัด

อ่านเพิ่มเติม : 2021 Royal Enfield Interceptor 650 คลาสสิคร่วมสมัย

อ่านเพิ่มเติม : 2021 Royal Enfield Continental GT 650 คาเฟ่เรเซอร์ตัวหล่อ

 

 

 

 

ติดตามพวกเราได้ที่:
Archa

นักเขียนอาวุโส

นักเขียน/นักทดสอบรถจักรยานยนต์ประสบการณ์กว่า 7 ปีในแวดวง 2 ล้อ ใช้รถมอเตอร์ไซค์เดินทางไปไหนมาไหนตั้งแต่อายุ 10 ปี ได้เรียนรู้...

เปรียบเทียบรถมอเตอร์ไซค์ที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ยุโรปออกกฎหมายต้องมี EV Fast Chargers ทุก ๆ 60 กิโลเมตรบนทางหลวง!

ยุโรปออกกฎหมายต้องมี EV Fast Chargers ทุก ๆ 60 กิโลเมตรบนทางหลวง! เมื่อมีรถยนต์ไฟฟ้า และรถมอเตอร์ไซค์ออกสู่ท้องถนนมากขึ้นเรื่อย ๆ ถึงเวลาแล้วที่ต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานการชาร์จเร็วของยานยนต์ไฟฟ้าเหล่านี้ แน่นอนว่ามีสถานีชาร์จไฟฟ้าหลายร้อยแห่งกระจายอยู่ตามเมืองส่วนใหญ่ทั่วโลก แต่กลับกันในเส้นทางข้ามรัฐ หรือทางด่วนทั้งหลายกลับยังมีจุดชาร์จเหล่านี้อยู่น้อยมาก ๆ ซึ่งด้วยจุดนี้เองทำให้ยุโรปจำเป็นต้องออกกฎหมายเพื่อเพิ่มจุดชาร์จเหล่านี้อย่างรวดเร็วบนทางหลวงระหว่างรัฐต่าง ๆ กฎหมาย

แอบส่องสเปค Triumph Speed 400 และ Scrambler 400 X ก่อนวางจำหน่ายไทย!

แอบส่องสเปค Triumph Speed 400 และ Scrambler 400 X ก่อนวางจำหน่ายไทย! หลังสร้างกระแสฮือฮาครั้งใหญ่ให้ตลาดรถมอเตอร์ไซค์คลาส 400cc ได้คึกคัก กับการเปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์ 2 รุ่นใหม่ล่าสุดจาก Triumph Motorcycle ได้แก่ “สปีด 400” (Speed 400) และ “สแครมเบลอร์ 400 เอ็กซ์” (Scrambler 400 X) ถือเป็นน้องเล็กสุดของแบรนด์ ที่ตอนนี้เชื่อว่าหลาย ๆ คนต่างเฝ้ารอกันอย่างใจจดจ่อ กับราคาที่เตรียมเปิดตัวในประเทศไทยในช่วงเดือนมกราคม และการทดสอบการขับขี่บนถนนจริง ดังนั้นก่อนที่จะได้ยลโฉม และสัมผัสความเอ็กซ์คลูซีฟ จะขอพา

Gogoro และ Muji ร่วมมือกันสร้างสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ารักษ์โลกด้วยแผงพลาสติกรีไซเคิล!

Gogoro และ Muji ร่วมมือกันสร้างสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ารักษ์โลกด้วยแผงพลาสติกรีไซเคิล! Gogoro ผู้บุกเบิกเทคโนโลยียานยนต์ด้วยไฟฟ้า และแบตเตอรี่จากไต้หวันได้ออกมาประกาศความร่วมมือกับ Muji แบรนด์ไลฟ์สไตล์อันโด่งดังของประเทศญี่ปุ่น ถึงความร่วมมือโดยตรงกับ Naoto Fukasawa ดีไซเนอร์ชื่อดังของ Muji โดยที่ความร่วมมือดังกล่าวได้ให้กำเนิดรถมอเตอร์ไซค์สกู๊ตเตอร์รุ่นพิเศษ รวมถึงสินค้าแบรนด์ร่วมอีกมากมาย ซึ่งทั้ง 2 บริษัทได้ร่วมมือกันเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “Recycling for Good” ซึ่งมีจุดมุ่งหมายคือการรีไซเคิลขยะพ

Mash Belena แม็กซี่สกู๊ตเตอร์ที่อังกฤษออกแบบ แต่จีนผลิต!

Mash Belena แม็กซี่สกู๊ตเตอร์ที่อังกฤษออกแบบ แต่จีนผลิต! ดูเหมือนว่าในตอนนี้ประเทศจีนจะยึดหัวหาดในเรื่องการผลิตยานยนต์โลกไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย โดยเฉพาะความร่วมมือระหว่างยุโรป และจีนทางด้านยานยนต์ในปัจจุบันดูเหมือนจะกลายเป็นเรื่องปกติทั่วไปแล้ว เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่าทั้งการออกแบบ รวมไปถึงขั้นตอนการผลิตในยุโรปนั้นมีราคาต้นทุนที่ค่อนข้างสูง ดังนั้นการให้ประเทศต้นทางอย่างยุโรปเป็นผู้ออกแบบผลิตภัณฑ์ แต่ส่งไปผลิตที่ประเทศจีนนั้นดูจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ และสามารถลดต้นทุนการผลิตได้อย่างมหาศาล Mash

Harley-Davidson X440 ประกาศจะปรับราคาขึ้นอีกหลังจากเปิดตัว!

Harley-Davidson X440 ประกาศจะปรับราคาขึ้นอีกหลังจากเปิดตัว! สำหรับทาง Harley-Davidson ที่ในตอนนี้ดูเหมือนจะหันมาบุกตลาดรถมอเตอร์ไซค์ขนาดเล็กมากขึ้นอย่าง Harley-Davidson X440 ที่ได้เปิดตัวพร้อมวางจำหน่ายไปในประเทศอินเดียก่อนหน้านี้ถือเป็นรถมอเตอร์ไซค์รุ่นที่เล็กที่สุดของทาง Harley-Davidson ที่มีวางจำหน่ายในตอนนี้ หลังจากที่ได้ผ่านช่วงราคาแนะนำมาแล้ว ดูเหมือนว่าทาง Harley-Davidson อินเดียได้ออกมาประกาศราคาใหม่ของมันอย่างเป็นทางการสำหรับการวางจำหน่ายโดยทั่วไปแล้ว ประกาศอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 2

รถแนะนำสำหรับคุณ

ยอดนิยมล่าสุดอัพเดท
ฮิต
Honda

Honda ADV150

THB 98,500 - 98,900

ดูรุ่นรถ
ฮิต
Yamaha

Yamaha XSR155

THB 91,500

ดูรุ่นรถ
ฮิต
Yamaha

Yamaha Xmax 300

THB 168,000 - 172,900

ดูรุ่นรถ
ฮิต
Kawasaki

Kawasaki Ninja 400

THB 205,000 - 226,800

ดูรุ่นรถ
ฮิต
Yamaha

Yamaha SR400

THB 275,000 - 285,000

ดูรุ่นรถ
ฮิต
Honda

Honda CB650R

THB 305,000 - 309,100

ดูรุ่นรถ
Yamaha

Yamaha Aerox

THB 67,500 - 78,500

ดูรุ่นรถ
Yamaha

Yamaha YZF R1

THB 899,000 - 1,149,000

ดูรุ่นรถ
MV Agusta

MV Agusta F4

THB 1,750,000

ดูรุ่นรถ
KTM

KTM RC 390

THB 239,800

ดูรุ่นรถ
Royal Enfield

Royal Enfield Meteor 350

THB 169,900

ดูรุ่นรถ
Suzuki

Suzuki Katana

THB 569,000

ดูรุ่นรถ
Suzuki

Suzuki Raider J Crossover

THB 46,250

ดูรุ่นรถ
Royal Enfield Meteor
เช็คทันที