เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาทาง AutoFun Thailand ได้มีโอกาสดีด้วยการทดสอบรถสกู๊ตเตอร์รุ่นใหม่จากทาง Vespa นั่นก็คือเจ้า 2023 Vespa GTS Super Sport 150 i-Get ABS รุ่นใหม่ล่าสุดจากทาง Vespa เราเลยถือโอกาสนี้พามันออกไปขับขี่ท่องเที่ยวแบบวันเดย์ทริป ณ จังหวัดฉะเชิงเทรา กันซะเลย ซึ่งจะเป็นอย่างไรบ้างนั้นตามเราไปชมกันได้เลยสำหรับทริปนี้
สำหรับรูปลักษณ์ภายนอกของ 2023 Vespa GTS Super Sport 150 i-Get ABS นั้นต้องบอกเลยว่าตัวรถยังคงมาพร้อมรูปทรงอันคลาสสิคตามแบบฉบับของรถสกู๊ตเตอร์พรีเมี่ยมอย่าง Vespa แต่ทว่านี่คือยุค 2023 แล้วดังนั้นมันจึงถูกเพิ่มเติมด้วยเทคโนโลยียุคใหม่บนตัวรถ สิ่งแรกที่เป็นของใหม่สำหรับ GTS เลยคงจะเป็นในเรื่องของระบบกุญแจที่ครั้งนี้ได้เปลี่ยนมาใช้เป็นกุญแจแบบ KEYLESS SYSTEM แล้ว
ซึ่งครั้งนี้เราเพียงแต่เก็บกุญแจไว้กับตัวไม่ว่าจะเป็นการล็อครถ ปลดล็อค หรือแม้แต่การสตาร์ทเครื่องยนต์ จนถึงการเปิดช่องเก็บของต่าง ๆ บนตัวรถก็ไม่ต้องมาไขกุญแจให้วุ่นวายอีกแล้ว นอกจากนี้ตัวรีโมทใหม่ยังมาพร้อมฟังก์ชั่นการค้นหารถของเราได้ง่าย ๆ เพียงกดปุ่มก่อนที่ระบบจะส่งสัญญาณไปยังตัวรถของเราเพื่อกะพริบเป็นสัญญาณไฟกลับมาให้เราทราบว่ารถของเราจอดอยู่ตรงจุดไหน
สำหรับความเป็นสปอร์ตของเจ้า 2023 Vespa GTS Super Sport 150 i-Get ABS นั้นเป็นอะไรที่เราชอบมาก ๆ โดยตัวรถมาพร้อมการจับคู่สีดำ และตัดเส้นด้วยสีส้มเอาไว้อย่างลงตัว ซึ่งมันทำให้ตัวรถดูสปอร์ตขึ้นมาก ๆ นอกจากนี้ในส่วนของชุดไฟ LED ตัวรถก็มาพร้อมการดีไซน์ใหม่โดยเฉพาะไฟเลี้ยวด้านหน้าที่ได้มีการเพิ่มไฟ Day Time Running Lift เข้าไปด้วยเพื่อเพิ่มความสว่างแม้ในยามกลางวันนั่นเอง
ต่อมากับหน้าจอเรือนไมล์แบบผสมระหว่างความคลาสสิคแบบอนาล็อค และดิจิตอลเอาไว้อย่างลงตัวที่สามารถแสดงข้อมูลของตัวรถที่สำคัญ ๆ เอาไว้อย่างครบครัน มองง่ายสบายตา
นอกจากนี้ตัวเบาะ และกระจกแบบใหม่ที่เน้นเส้นสายที่เฉียบคมยิ่งขึ้นก็ช่วยเสริมลุคสปอร์ตให้ตัวรถเป็นอย่างดี และที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้นั่นคงจะเป็นในส่วนของแถบ Tie ใหม่ที่มาพร้อมลูกเล่นของลวดลายคาร์บอนไฟเบอร์สีดำตัดกับแถบครีบรับลมด้านล่างที่เป็นสีส้มได้อย่างลงตัว ซึ่งเรามองว่ามันทำให้ตัวรถสวยขึ้นอีกมากเลยทีเดียว
ถัดมาจากชุดบังโคลนด้านหน้าเราจะเห็นได้ว่า 2023 Vespa GTS (สเปค | ข่าวสาร) Super Sport 150 i-Get ABS มาพร้อมกับล้อแม็กลวดลายใหม่ที่ดูสวยแบบสุด ๆ เลยทีเดียว เพราะด้วยความพิเศษประจำค่าย Vespa ที่ส่วนหน้าจะมาพร้อมโช้คอัพแบบแขนเดี่ยวอยู่แล้วนั่นจึงทำให้ตัวรถสามารถโชว์ล้อส่วนนี้ได้แบบเต็ม ๆ
2023 Vespa GTS Super Sport 150 i-Get ABS มาพร้อมกับเครื่องยนต์ i-Get ขนาด 155 ซี.ซี. แบบ 4 จังหวะ 1 สูบ ระบายความร้อนด้วยน้ำ จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยระบบหัวฉีด พร้อมส่งขุมพลัง 15.4 แรงม้าที่ 8,250 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 15 นิวตันเมตรที่ 6,500 รอบ/นาที ที่ส่งกำลังขับเคลื่อนผ่านชุดเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT พร้อมถังน้ำมันเชื้อเพลิงขนาด 6.5 ลิตร กับน้ำหนักตัวรถที่ 150 กิโลกรัม
แน่นอนว่าสำหรับ 2023 Vespa GTS Super Sport 150 i-Get ABS จะต้องมาพร้อมกับโช้คอัพด้านหน้าไฮดรอลิคแขนเดี่ยวอันเป็นเอกลักษณ์ประจำค่ายเลยก็ว่าได้ที่มีการใช้โช้คอัพในลักษณะนี้กับรถสกู๊ตเตอร์ของพวกเขามาอย่างยาวนาน
ส่วนด้านหลังมาพร้อมกับโช้คอัพคู่ที่สามารถปรับการรองรับน้ำหนักได้ถึง 4 ระดับ ต่อมาในส่วนของระบบเบรกด้านหน้ามาพร้อมกับจานดิสก์เบรกเดี่ยวขนาด 220 มม. เช่นเดียวกับด้านหลังที่มาพร้อมจานดิสก์เบรกเดี่ยวขนาด 220 มม. เช่นเดียวกัน พร้อมเสริมความปลอดภัยด้วยระบบเบรก ABS และระบบป้องกันการลื่นไถลอย่าง ASR เข้ามาให้อีกด้วย
สำหรับในครั้งนี้งานดีไซน์ของ 2023 Vespa GTS Super Sport 150 i-Get ABS เราจะขอข้ามไปเลยเพราะตัวรถนั้นสวยมากจริง ๆ โดยปกติแล้วเราเป็นคนที่ชอบสีดำอยู่แล้ว และเมื่อได้เห็น Vespa GTS Super Sport ที่มีการจับคู่สีดำนำมาตัดกับสีส้มไว้ด้วยกันอย่างลงตัวจึงเป็นอะไรที่เราชอบมาก นอกจากนี้ในส่วนของชิ้นงานอื่น ๆ บนตัวรถก็ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ และสไตล์ที่บ่งบอกถึง Vespa เอาไว้ได้เป็นอย่างดี ถึงแม้ตัวรถ 2023 Vespa GTS Super Sport 150 i-Get ABS ใหม่นั้นจะให้ความเป็นสปอร์ตที่มากขึ้นก็ตาม
สำหรับการเดินทางในครั้งนี้เราได้ขับขี่ออกจากกรุงเทพฯ เพื่อตั้งใจจะไปขี่รถเที่ยวเล่นใกล้ ๆ แบบไม่ไกลมากสามารถไปเช้ากลับเย็นได้ใน 1 วัน เราจึงเลือกไปยังจังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งมีระยะทางไป-กลับประมาณ 200 กม. ซึ่งเราคิดว่ามันเหมาะสำหรับรถที่มาพร้อมเครื่องยนต์ 150 ซี.ซี. แบบนี้เพราะระยะทางไม่ได้ไกลเกินไป และใกล้เกินไปสำหรับการขับขี่ โดยสำหรับสิ่งแรกที่เราประทับใจเลยก็คือความคล่องตัว และกะทัดรัดของตัวรถที่สามารถมุด ลัดเลาะในช่วงการจราจรหนาแน่นในเขตกรุงเทพฯ ได้แบบสบาย ๆ แถมอัตราเร่งในการออกตัว หรือเปิดคันเร่งแซงภายในเมืองก็สามารถทำได้อย่างลื่นไหล
ต่อมาเมื่อเราพ้นเขตเมืองอย่างกรุงเทพฯ ออกมาได้ก็จะเป็นทางตรงโล่ง ๆ ให้หวดกันได้แบบยาว ๆ เพื่อไปยังจังหวัดฉะเชิงเทรานั่นเอง ซึ่งด้วยขนาดกำลังเครื่องยนต์ที่ 155 ซี.ซี. เราวิ่งยืนพื้นด้วยความเร็ว 100-110 กม./ชม. แบบยาว ๆ แต่เราก็ได้ลองลากรอบเครื่องยาว ๆ ปรากฏว่าความเร็วสูงสุดที่สามารถทำได้เลยก็คือ 118 กม./ชม. (ขึ้นอยู่กับน้ำหนักตัวผู้ขับขี่แต่ละคนด้วย) ซึ่งเราคิดว่ามันก็เป็นความเร็วที่เพียงพอสำหรับทั้งรูปแบบของการใช้งานในชีวิตประจำวัน และการขับขี่เดินทางไกล เพราะด้วยท่าทางการขับขี่ที่สบายทำให้เราไม่เมื่อยล้าเท่าไหร่ แถมตำแหน่งวางเท้าด้านหน้าขนาดใหญ่ก็ช่วยเราได้เยอะในการยืดเหยียด หรือเปลี่ยนท่าทางการขับขี่ไปเรื่อยระหว่างทาง
ส่วนระบบ ASR หรือระบบป้องกันการลื่นไถลไหนก็ทำงานได้ดีเกินคาดซึ่งเมื่อไหร่ที่ตัวรถจับได้ว่าความเร็วของล้อด้านหลัง และด้านหน้าไม่สัมพันธ์กันตัวรถจะทำการตัดความเร็วให้แบบอัตโนมัติซึ่งเท่าที่เราลองในช่วงทางตรงยาวความเร็วจะถูกล็อคไว้ที่ 80 กม./ชม. เท่านั้น แต่ไม่ต้องกังวลไปเพราะคุณสามารถปิดระบบนี้ได้ด้วยปุ่มทางด้านขวามือใกล้กับคันเร่งที่เขียนว่า ASR เพียงกดค้างไว้ประมาณ 3 วินาทีจนมีสัญลักษณ์ขึ้นบนหน้าจอเรือนไมล์ว่า ASR Off เพียงเท่านี้คุณก็จะกลับมาใช้ความเร็วแบบเต็มแม็กได้เหมือนเดิม แต่เราไม่แนะนำให้คุณปิดระบบนี้เท่าไหร่ เพราะมันคือระบบที่ช่วยในเรื่องของความปลอดภัยนั่นเอง เพราะถ้าเกิดคุณปิดระบบไปแล้วมีการเปิดคันเร่งภายในโค้งที่เกินไปก็อาจทำให้ตัวรถเกิดอาการท้ายปัดจนล้มพับได้นั่นเอง
ต่อมาในส่วนของสิ่งอำนวยความสะดวกที่ให้มาไม่ว่าจะเป็น ช่องเก็บสัมภาระใต้เบาะที่สามารถเก็บหมวกกันน็อคแบบครึ่งใบได้ 1ใบ หรือช่องเก็บของด้านหน้าที่มาพร้อมช่องชาร์จ USB ก็ช่วยให้คุณสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นในการจัดเก็บสัมภาระต่าง ๆ ต่อมาในส่วนของระบบเบรก ABS ที่ให้มาก็ช่วยให้เราสามารถหยุดรถได้อย่างมั่นใจ และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ 2023 Vespa GTS Super Sport 150 i-Get ABS คันนี้ยังมาพร้อมระบบ Start & Stop ที่ตอบสนองได้อย่างฉับไวซึ่งช่วยในเรื่องของความประหยัดให้กับคุณได้อีกเยอะเลยทีเดียว โดยเฉพาะการใช้งานภายในเมืองที่มีการจราจรหนาแน่น
สรุปแล้ว 2023 Vespa GTS Super Sport 150 i-Get ABS คันนี้เราคิดว่ามันเหมาะกับทุกเพศทุกวัย เพราะตัวรถยังคงความเป็น Vespa เอาไว้อย่างครบถ้วนคือเป็นรถที่ขี่ง่าย ไม่ซับซ้อน ทุกคนภายในบ้านสามารถขี่ได้ และที่สำคัญคือมันบ่งบอกสไตล์ของผู้ขับขี่ได้อย่างชัดเจน สามารถใช้งานในชีวิตประจำวันได้ เดินทางท่องเที่ยวแบบชิลล์ ๆ ก็ได้
และที่สำคัญตัวรถมาพร้อม 3 สีให้คุณได้เลือกเพื่อให้เหมาะกับคุณไม่ว่าจะเป็นสีขาว (White Innocenza) , สีดำ (Black Opaco) และสีใหม่ล่าสุด สีเขียว (Green Olive) โดย 2023 Vespa GTS Super Sport 150 i-Get ABS มาพร้อมกับราคาวางจำหน่ายที่ 165,900 บาทในสีขาว ส่วนสำหรับในสีดำ และสีเขียวจะมาพร้อมกับราคา 166,900 บาท ส่วนสำหรับใครที่สนใจก็พุ่งไปยังตัวแทนจำหน่าย Vespa ใกล้บ้านได้เลย เพราะตอนนี้รถพร้อมวางจำหน่ายแล้วเป็นที่เรียบร้อย
อ่านเพิ่มเติม : Vespa เปิดตัว GTS Series ใหม่ในประเทศไทยถึง 3 รุ่นรวด
อ่านเพิ่มเติม : AutoFun บุกฐานการผลิต Vespa พร้อมสัมผัสรถรุ่นใหม่ก่อนเปิดตัวในไทย
อ่านเพิ่มเติม : Justin Bieber x Vespa รถระดับแรร์ไอเทมของปีนี้ปรากฏตัวแล้ว