แน่นอนว่าสำหรับรถอย่าง CBR400R และ NX400 อาจฟังดูไม่คุ้นหูเท่าไหร่ เพราะรถทั้ง 2 รุ่นนี้จะถูกผลิต และวางจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น ซึ่งนั่นก็มีเหตุผลของมันอยู่ ซึ่งเรามาดูกันดีกว่าว่าเพราะอะไรรถทั้ง 2 รุ่นดังกล่าวจึงจะต้องทำพิเศษขึ้นมาเพียงเพื่อประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น
ในตอนนี้ Honda ได้เปิดตัว CBR500R และ NX500 ใหม่ไปแล้วทั่วโลกกับเครื่องยนต์ 2 สูบในพิกัด 500ซี.ซี. แต่กลับกันในประเทศญี่ปุ่นทาง Honda ต้องใช้แนวทางที่แตกต่างออกไปเล็กน้อย ซึ่งหากหลายคนไม่ทราบนั่นเป็นเพราะว่าในประเทศญี่ปุ่นมีกฎระเบียบด้านใบอนุญาตที่เข้มงวด และแตกต่างออกไปเล็กน้อยนั่นเอง ซึ่ง ซี.ซี. ของตัวรถจะเป็นตัวระบุใบอนุญาตของผู้ขับขี่ในประเทศญี่ปุ่น
สำหรับในประเทศญี่ปุ่นนั้นรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ที่มีขนาดเกิน 400 ซี.ซี. ขึ้นไปนั้นผู้ขับขี่จะต้องมีอายุอย่างน้อย 18 ปีขึ้นไปเท่านั้น กลับกันในรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ที่มีขนาดต่ำกว่า 400 ซี.ซี. ผู้ขับขี่จะเริ่มต้นด้วยอายุเพียง 16 ปีเท่านั้น ก็สามารถสอบใบอนุญาตขับขี่เพื่อครอบครองรถได้ทันที นี่จึงเป็นสาเหตุที่ว่าทำไมรถมอเตอร์ไซค์พิกัด 400 ซี.ซี. จำนวนมากจึงมีวางขายในประเทศญี่ปุ่นไม่ว่าจะเป็น Suzuki Katana 400, Honda CB400 Super Four และล่าสุดคือ Kawasaki Ninja ZX-25R
สำหรับ 2024 Honda NX400 และ CBR400R ตัวรถจะมาพร้อมกับเครื่องยนต์ 2 สูบขนาด 399 ซี.ซี. ระบายความร้อนด้วยน้ำพร้อมเพลาข้อเหวี่ยง 180 องศา อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าสนใจคือถึงแม้ขนาด ซี.ซี. ของตัวรถจะลดลงแต่ทั้ง 2024 Honda NX400 และ CBR400R กลับมาพร้อมขุมพลังที่ใกล้เคียงกับรถพิกัด 500 ซี.ซี. อย่าง CBR500R และ NX500 กันเลยทีเดียวกับขุมพลังที่ 46 แรงม้า และแรงบิด 38 นิวตันเมตร
สำหรับ NX400 ได้มีการปรับเปลี่ยนตัวถังน้ำมันใหม่ซึ่งจะมีดีไซน์คล้ายกับ Transalp XL750 พร้อมด้วยชุดล้อแบบอัลลอยด์ที่มุ่งเน้นไปที่การขับขี่ทางเรียบ ในส่วนของ CBR400R ได้มาพร้อมกับการยืมรูปแบบมาจากพี่ใหญ่อย่าง CBR650R โดยมีแฟริ่งเต็ม ไฟหน้า LED แบบแยกนั่นเอง
2024 Honda NX400 ได้มีการเปิดราคาวางจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นเอาไว้ที่ 891,000 เยนหรือประมาณ 212,000 บาทไทย ที่มาพร้อมโทนสีอันโดดเด่นอย่างสีขาว Pearl Glare White ในส่วนของ 2024 Honda CBR400R จะมาพร้อมกับราคาวางจำหน่ายที่ 863,500 เยนหรือประมาณ 206,120 บาทไทย ที่มาพร้อมชุดสีแดง Grand Prix ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก WSBK หรือสีอันดุดันอย่าง Matte Ballistic Black Metallic ซึ่งอย่างไรก็ตามรถทั้ง 2 รุ่นจะไม่มีการนำเข้ามาวางจำหน่ายในประเทศไทยอย่างแน่นอน ในเมืองไทยก็ขี่ 500 ซี.ซี. รุ่นใหญ่ไปแล้วกัน
อ่านเพิ่มเติม : ครั้งแรกของโลกกับการขับขี่ Honda E-Clutch
อ่านเพิ่มเติม : รีวิว Honda CBR500R , CB500Hornet , NX500 , CBR650R และ CB650R
อ่านเพิ่มเติม : 2024 Honda CBR500R อัพเกรดใหม่ยัดเทคโนโลยี เพิ่มความสปอร์ต