Honda กำลังพัฒนาระบบ Autopilot เพื่อใช้ในรถมอเตอร์ไซค์!

Honda กำลังพัฒนาระบบ Autopilot เพื่อใช้ในรถมอเตอร์ไซค์!

เราไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่าในปัจจุบันนั้นเทคโนโลยีทางด้านยานยนต์ได้พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ไม่ใช่แค่ยานยนต์ไฟฟ้าเท่านั้นที่แสดงให้เห็นถึงโลกอนาคต แต่สำหรับรถมอเตอร์ไซค์เครื่องยนต์สันดาปเองก็ได้มีการพัฒนา และปรับเปลี่ยนอัพเกรดเทคโนโลยีกันอยู่แทบตลอดเวลา และล่าสุดทาง Honda เองได้ออกมาเปิดเผยว่าในขณะนี้พวกเขากำลังพัฒนาระบบ Autopilot หรือระบบขับขี่กึ่งอัตโนมัติเพื่อใช้สำหรับรถมอเตอร์ไซค์ของพวกเขาอยู่

  • ระบบ Autopilot ในรถมอเตอร์ไซค์
  • ระบบเรดาร์ในรถมอเตอร์ไซค์กำลังถูกใช้เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
  • เอกสารสิทธิบัตรระบบ Autopilot จาก Honda
  • สิทธิบัตรใหม่ Drive Assistance Device for a Saddle Riding Type Vehicle
  • ระบบที่ฟังดูเกินจริง และไกลตัว
  • อาจต้องรออีกหลายปีถึงจะนำมาใช้งานได้จริง

ระบบ Autopilot ถูกใช้งานกันอย่างแพร่หลายในรถยนต์

ระบบ Autopilot ในรถมอเตอร์ไซค์

สำหรับแนวคิดที่จะนำระบบ Autopilot เข้ามาใช้ในรถมอเตอร์ไซค์นั้นดูจะยังเป็นเรื่องที่ใหม่มาก ๆ แต่ในทางกลับกันระบบดังกล่าวกับถูกใช้ในรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ มานานแล้วไม่ว่าจะเป็นการควบคุมความเร็ว การเร่ง รวมไปจนถึงการเบรกแบบอัตโนมัติ ซึ่งสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ถูกใช้งานในรถยนต์ไฮเอ็นกันมาได้ระยะหนึ่งแล้ว และมันก็สามารถทำงานได้เป็นอย่างดีอีกด้วย แต่กลับกันระบบอย่าง Autopilot นั้นมันถูกมองว่าไม่ค่อยจำเป็นสักเท่าไหร่ในรถมอเตอร์ไซค์เพราะไบค์เกอร์ส่วนใหญ่คิดว่ามอเตอร์ไซค์คือการขับขี่อย่างอิสระ ตัวผู้ขับขี่ควรได้ควบคุมคันเร่ง ควรได้รู้สึกถึง Engine Brake และการทรงตัวบนรถได้อย่างอิสระ แต่ในขณะเดียวกันก็มีกลุ่มไบค์เกอร์ที่ออกมาสนับสนุนระบบดังกล่าว ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในทวีปยุโรปซึ่งพวกเขาต้องเดินทางข้ามรัฐเป็นทางตรงยาวบางครั้งวันละหลายร้อยกิโลเมตร จึงทำให้ไบค์เกอร์กลุ่มนี้ต้องการระบบ Autopilot เพื่อช่วยให้พวกเขาสามารถขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ได้ง่ายขึ้น สบายขึ้น ในการเดินทางไกลนั่นเอง

ระบบ Autopilot ในรถมอเตอร์ไซค์

ระบบเรดาร์ในรถมอเตอร์ไซค์กำลังถูกใช้เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

และสิ่งหนึ่งที่ยืนยันได้ว่าระบบ Autopilot ดังกล่าวกำลังคืบคลานเข้ามาสู่ยานยนต์ 2 ล้อนั่นก็คือระบบเรดาร์ที่ในปัจจุบันได้มีการนำมาติดตั้ง และถูกใช้งานในรถมอเตอร์ไซค์มากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นทาง Ducati , BMW , Kawasaki หรือ KTM ที่ในรถรุ่นใหญ่ของพวกเขาตอนนี้ล้วนแล้วแต่มีการติดตั้งระบบเรดาร์ไว้ใช้งานแล้วทั้งสิ้น แต่ในทางกลับกันแทนที่ทาง Honda จะใช้เทคโนโลยีเดิมที่มีอยู่แล้วในตอนนี้ พวกเขากลับเลือกที่จะไม่เดินตามแนวทางของระบบเรดาร์ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน แต่ทาง Honda เลือกที่จะพัฒนาระบบ Autopilot ในแบบของตัวเองขึ้นมาใหม่ซึ่งเราจะเห็นได้จากเอกสารยื่นขอจดสิทธิบัตรที่แสดงให้เห็นว่าระบบขับขี่กึ่งอัตโนมัตินั้นจริงจังเพียงใด

ระบบเรดาร์ในรถมอเตอร์ไซค์ที่ปัจจุบันมีการใช้งานแล้ว

เอกสารสิทธิบัตรระบบ Autopilot จาก Honda

จากสิทธิบัตรที่ถูกเผยแพร่ออกมาเราจะเห็นได้ว่าในตอนนี้ทาง Honda กำลังพัฒนาระบบ Autopilot ของพวกเขาโดยระบบดังกล่าวจะปรากฏในรถรุ่นต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Honda Gold Wing หรือ Honda Africa Twin ก่อนในตอนแรก อย่างไรก็ตามแนวคิดการขับขี่แบบกึ่งอัตโนมัติที่ทาง Honda กำลังพัฒนาก็ได้สอดคล้องกับระบบ Riding Assist และ Riding Assist-e ของทาง Honda ก่อนหน้านี้ซึ่งระบบดังกล่าวจะเป็นการควบคุมการทรงตัว ซึ่งจะทำงานควบคู่กับการเบรกอัตโนมัติ และการเร่งความเร็วเพื่อให้รถสามารถทรงตัวด้วยความเร็วต่ำได้ แม้จะไม่มีผู้ขับขี่อยู่บนรถก็ตาม

โดยทาง Honda ได้ใช้เทคโนโลยีใหม่เหล่านี้เข้าไปผสมผสานกับเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่พวกเขามีไม่ว่าจะเป็น การนำเอานวัตกรรมกล้องออนบอร์ดเซ็นเซอร์ LiDAR (การตรวจจับแสงและระยะ) GPS และระบบสื่อสารระยะใกล้ระหว่างยานพาหนะกับยานพาหนะ เพื่อสร้างยานพาหนะที่สามารถเข้าไปแทรกแซงเมื่อจำเป็นด้วยระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติหรือระบบช่วยเหลือเมื่อผู้ขับขี่ไม่สามารถตรวจจับหรือตอบสนองต่ออันตรายได้

เอกสารสิทธิบัตรระบบ Autopilot จาก Honda

สิทธิบัตรใหม่ Drive Assistance Device for a Saddle Riding Type Vehicle

สำหรับสิทธิบัตรใหม่ในครั้งนี้พวกเขาได้ใช้ชื่อว่า Drive Assistance Device for a Saddle Riding Type Vehicle โดยเทคโนโลยีดังกล่าวจะเป็นการติดตั้งกล้อง เรดาร์ และ LiDAR เพื่อสร้างภาพแบบ 3 มิติจำลองสภาพแวดล้อมในเวลานั้นโดยทันที เพื่อติดตามวัตถุ และยานพาหนะอื่นๆ รวมไปถึงวัตถุรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นสภาพผิวถนน คนเดินเท้า หรือแม้แต่สิ่งแปลกปลอมที่เคลื่อนที่ไปมา ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ สัตว์ หรือสิ่งอื่น ๆ จากทุกทิศทุกทางเพื่อเฝ้าระวังอันตราย ซึ่งมีส่วนควบคุม Magnetostrictive ที่ทำงานควบคู่ไปกับระบบแกนบังคับ Steering Servo ที่สามารถแยกแยะระหว่างอินพุตของผู้ขับขี่และแรงภายนอก อีกทั้งยังสามารถต่อต้านการเคลื่อนไหวที่เกิดจากการเคลื่อนที่ของล้อ จากการกระแทกหรือหลุมบ่อ แต่ช่วยหมุนวงล้อให้เกิดเสถียรภาพ นอกจากนี้ยังมีเซ็นเซอร์ความดันในเบาะนั่ง ปลอกแฮนด์ และที่พักเท้า ช่วยให้คอมพิวเตอร์ของจักรยานบอกได้ว่าผู้ขับขี่กำลังจับด้วยมือทั้งสองข้างหรือไม่ รวมกับกล้องที่หันหน้าไปทางผู้ขี่ซึ่งติดตั้งอยู่ที่แผงหน้าปัด การตรวจสอบท่าทางและการกระจายน้ำหนักของคนขับเพื่อช่วย และตีความตั้งใจในท่าทางของผู้ขับขี่

Drive Assistance Device for a Saddle Riding Type Vehicle

ระบบที่ฟังดูเกินจริง และไกลตัว

อย่างไรก็ตามเมื่อฟังถึงการทำงานของระบบ Drive Assistance Device for a Saddle Riding Type Vehicleหลายคนอาจจะคิดว่ามันดูเกินจริงไปหน่อยแต่จริง ๆ แล้วระบบเหล่านี้ได้มีการใช้งานอยู่ในรถยนต์ระดับไฮเอนด์อยู่มากมายในปัจจุบัน และทาง Honda เองก็ยังได้เป็นผู้ผลิตรายแรกที่มีระบบ Level 3 Autonomous System ที่ตัวรถสามารถขับเคลื่อนตัวเองผ่านการจราจรที่หนาแน่นได้ โดยไม่ต้องใช้คนขับแต่สำหรับรถมอเตอร์ไซค์นั้นระบบดังกล่าวจะมีความซับซ้อนที่มากขึ้นกว่าในรถยนต์เพราะต้องตระหนักถึงความยืดหยุ่นมากขึ้นเมื่อใช้เลนเพราะรถมอเตอร์ไซค์มีขนาดที่เล็กกว่า จึงทำให้สามารถเลือกใช้เลนได้อย่างหลากหลายกว่าในรถยนต์ สิทธิบัตรดังกล่าวจึงได้อธิบายว่าเมื่อเข้าโค้งโดยอัตโนมัติ ตัวรถจะใช้เซ็นเซอร์และ GPS เพื่อปรับมุมให้ตรง ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยเข้าในวงกว้างตัดไปยังจุดยอด ซึ่งทั้งหมดนี้อยู่ในช่องทางเดินรถปกตินอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นว่าเมื่อขับตามมอเตอร์ไซค์คันอื่น ระบบจะเคลื่อนไปทางด้านหนึ่งของเลนเพื่อสร้างรูปแบบการขับขี่แบบออกทริป เพื่อสร้างระยะในการเบรกให้เกิดพื้นที่ว่างให้ได้มากที่สุด 

เทคโนโลยีที่ฟังแล้วเหมือนเป็นไปไม่ได้

อาจต้องรออีกหลายปีถึงจะนำมาใช้งานได้จริง

อย่างไรก็ตามระบบ Drive Assistance Device for a Saddle Riding Type Vehicle ดังกล่าวคงจะต้องใช้ระยะเวลาอีก 2-3 ปีถึงจะมีการนำมาใช้บนรถมอเตอร์ไซค์แบบเต็มรูปแบบ ถึงแม้ตอนนี้ระบบเรดาร์จะถูกนำมาใช้แล้วก็ตามแต่ระบบอย่าง Drive Assistance Device for a Saddle Riding Type Vehicle ที่มีความซับซ้อนเพิ่มขึ้น และแทบที่จะทำให้ตัวผู้ขับขี่ไม่ต้องควบคุมตัวรถเองแล้วนั้นคงจะต้องใช้ระยะเวลาอีกหลายปีเพื่อการพัฒนา และหากระบบนี้สมบูรณ์เราคิดว่าโมเดลแรกที่จะมีการติดตั้งระบบดังกล่าวคงจะหนีไม่พ้นสุดยอดรถแกรนด์ทัวเรอร์ขนาดใหญ่อย่าง Honda GoldWing แน่นอน เพราะมันคือรถมอเตอร์ไซค์ที่เกิดมาเพื่อการเดินทางในระยะไกลเป็นหลัก มันจึงเหมาะสมที่สุดแล้วที่จะทำการติดตั้งระบบดังกล่าวลงไปบนตัวรถ ซึ่งต้องมารอดูกันว่าเมื่อระบบดังกล่าวได้รับการพัฒนาจนสมบูรณ์แล้วมันจะพลิกโฉมหน้าของวงการมอเตอร์ไซค์โลกไปอีกขั้นหรือไม่

อ่านเพิ่มเติม : 3 มอเตอร์ไซค์สุดล้ำที่มาพร้อมระบบเรดาร์ในการขับขี่

อ่านเพิ่มเติม : 2021 Ducati Multistrada V4S พร้อมระบบเรดาร์ในการขับขี่

อ่านเพิ่มเติม : 2022 Kawasaki H2 SX SE ใส่เรดาร์ ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแปรผัน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามพวกเราได้ที่:
Archa

นักเขียนอาวุโส

นักเขียน/นักทดสอบรถจักรยานยนต์ประสบการณ์กว่า 7 ปีในแวดวง 2 ล้อ ใช้รถมอเตอร์ไซค์เดินทางไปไหนมาไหนตั้งแต่อายุ 10 ปี ได้เรียนรู้...

เปรียบเทียบรถมอเตอร์ไซค์ที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ยุโรปออกกฎหมายต้องมี EV Fast Chargers ทุก ๆ 60 กิโลเมตรบนทางหลวง!

ยุโรปออกกฎหมายต้องมี EV Fast Chargers ทุก ๆ 60 กิโลเมตรบนทางหลวง! เมื่อมีรถยนต์ไฟฟ้า และรถมอเตอร์ไซค์ออกสู่ท้องถนนมากขึ้นเรื่อย ๆ ถึงเวลาแล้วที่ต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานการชาร์จเร็วของยานยนต์ไฟฟ้าเหล่านี้ แน่นอนว่ามีสถานีชาร์จไฟฟ้าหลายร้อยแห่งกระจายอยู่ตามเมืองส่วนใหญ่ทั่วโลก แต่กลับกันในเส้นทางข้ามรัฐ หรือทางด่วนทั้งหลายกลับยังมีจุดชาร์จเหล่านี้อยู่น้อยมาก ๆ ซึ่งด้วยจุดนี้เองทำให้ยุโรปจำเป็นต้องออกกฎหมายเพื่อเพิ่มจุดชาร์จเหล่านี้อย่างรวดเร็วบนทางหลวงระหว่างรัฐต่าง ๆ กฎหมาย

แอบส่องสเปค Triumph Speed 400 และ Scrambler 400 X ก่อนวางจำหน่ายไทย!

แอบส่องสเปค Triumph Speed 400 และ Scrambler 400 X ก่อนวางจำหน่ายไทย! หลังสร้างกระแสฮือฮาครั้งใหญ่ให้ตลาดรถมอเตอร์ไซค์คลาส 400cc ได้คึกคัก กับการเปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์ 2 รุ่นใหม่ล่าสุดจาก Triumph Motorcycle ได้แก่ “สปีด 400” (Speed 400) และ “สแครมเบลอร์ 400 เอ็กซ์” (Scrambler 400 X) ถือเป็นน้องเล็กสุดของแบรนด์ ที่ตอนนี้เชื่อว่าหลาย ๆ คนต่างเฝ้ารอกันอย่างใจจดจ่อ กับราคาที่เตรียมเปิดตัวในประเทศไทยในช่วงเดือนมกราคม และการทดสอบการขับขี่บนถนนจริง ดังนั้นก่อนที่จะได้ยลโฉม และสัมผัสความเอ็กซ์คลูซีฟ จะขอพา

Gogoro และ Muji ร่วมมือกันสร้างสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ารักษ์โลกด้วยแผงพลาสติกรีไซเคิล!

Gogoro และ Muji ร่วมมือกันสร้างสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ารักษ์โลกด้วยแผงพลาสติกรีไซเคิล! Gogoro ผู้บุกเบิกเทคโนโลยียานยนต์ด้วยไฟฟ้า และแบตเตอรี่จากไต้หวันได้ออกมาประกาศความร่วมมือกับ Muji แบรนด์ไลฟ์สไตล์อันโด่งดังของประเทศญี่ปุ่น ถึงความร่วมมือโดยตรงกับ Naoto Fukasawa ดีไซเนอร์ชื่อดังของ Muji โดยที่ความร่วมมือดังกล่าวได้ให้กำเนิดรถมอเตอร์ไซค์สกู๊ตเตอร์รุ่นพิเศษ รวมถึงสินค้าแบรนด์ร่วมอีกมากมาย ซึ่งทั้ง 2 บริษัทได้ร่วมมือกันเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “Recycling for Good” ซึ่งมีจุดมุ่งหมายคือการรีไซเคิลขยะพ

Mash Belena แม็กซี่สกู๊ตเตอร์ที่อังกฤษออกแบบ แต่จีนผลิต!

Mash Belena แม็กซี่สกู๊ตเตอร์ที่อังกฤษออกแบบ แต่จีนผลิต! ดูเหมือนว่าในตอนนี้ประเทศจีนจะยึดหัวหาดในเรื่องการผลิตยานยนต์โลกไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย โดยเฉพาะความร่วมมือระหว่างยุโรป และจีนทางด้านยานยนต์ในปัจจุบันดูเหมือนจะกลายเป็นเรื่องปกติทั่วไปแล้ว เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่าทั้งการออกแบบ รวมไปถึงขั้นตอนการผลิตในยุโรปนั้นมีราคาต้นทุนที่ค่อนข้างสูง ดังนั้นการให้ประเทศต้นทางอย่างยุโรปเป็นผู้ออกแบบผลิตภัณฑ์ แต่ส่งไปผลิตที่ประเทศจีนนั้นดูจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ และสามารถลดต้นทุนการผลิตได้อย่างมหาศาล Mash

Harley-Davidson X440 ประกาศจะปรับราคาขึ้นอีกหลังจากเปิดตัว!

Harley-Davidson X440 ประกาศจะปรับราคาขึ้นอีกหลังจากเปิดตัว! สำหรับทาง Harley-Davidson ที่ในตอนนี้ดูเหมือนจะหันมาบุกตลาดรถมอเตอร์ไซค์ขนาดเล็กมากขึ้นอย่าง Harley-Davidson X440 ที่ได้เปิดตัวพร้อมวางจำหน่ายไปในประเทศอินเดียก่อนหน้านี้ถือเป็นรถมอเตอร์ไซค์รุ่นที่เล็กที่สุดของทาง Harley-Davidson ที่มีวางจำหน่ายในตอนนี้ หลังจากที่ได้ผ่านช่วงราคาแนะนำมาแล้ว ดูเหมือนว่าทาง Harley-Davidson อินเดียได้ออกมาประกาศราคาใหม่ของมันอย่างเป็นทางการสำหรับการวางจำหน่ายโดยทั่วไปแล้ว ประกาศอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 2

รถแนะนำสำหรับคุณ

ยอดนิยมล่าสุดอัพเดท
ฮิต
Honda

Honda ADV150

THB 98,500 - 98,900

ดูรุ่นรถ
ฮิต
Yamaha

Yamaha XSR155

THB 91,500

ดูรุ่นรถ
ฮิต
Yamaha

Yamaha Xmax 300

THB 168,000 - 172,900

ดูรุ่นรถ
ฮิต
Kawasaki

Kawasaki Ninja 400

THB 205,000 - 226,800

ดูรุ่นรถ
ฮิต
Yamaha

Yamaha SR400

THB 275,000 - 285,000

ดูรุ่นรถ
ฮิต
Honda

Honda CB650R

THB 305,000 - 309,100

ดูรุ่นรถ
Yamaha

Yamaha Aerox

THB 67,500 - 78,500

ดูรุ่นรถ
Yamaha

Yamaha YZF R1

THB 899,000 - 1,149,000

ดูรุ่นรถ
MV Agusta

MV Agusta F4

THB 1,750,000

ดูรุ่นรถ
KTM

KTM RC 390

THB 239,800

ดูรุ่นรถ
Royal Enfield

Royal Enfield Meteor 350

THB 169,900

ดูรุ่นรถ
Suzuki

Suzuki Katana

THB 569,000

ดูรุ่นรถ
Suzuki

Suzuki Raider J Crossover

THB 46,250

ดูรุ่นรถ
Honda Goldwing
เช็คทันที