Yamaha E01 ขี่แล้วดีจริง ดีจนลืมรถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าค่ายอื่นไปเลย!

Yamaha E01 ขี่แล้วดีจริง ดีจนลืมรถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าค่ายอื่นไปเลย!

เมื่อวันที่ 5-6 กรกฎาคมที่ผ่านมาทาง AutoFun Thailand ได้รับหมายเทียบเชิญให้เข้าร่วมทำการทดสอบรถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่ร้อนแรงที่สุด ณ พ.ศ. นี้อย่าง Yamaha E01 แล้วมีหรือที่งานนี้เราจะปฏิเสธ โดยการทดสอบในครั้งนี้ถือว่าเป็นไปตามโครงการที่ทาง Yamaha ได้กำหนดไว้เพื่อหวังจะเก็บข้อมูลในหลาย ๆ ด้านจากการใช้งานจริงไม่ว่าจะเป็นในแง่ของวัฒนธรรมของประชาชนทั้ง 6 พื้นที่ของประเทศปลายทางอันประกอบไปด้วยประเทศ ญี่ปุ่น , ไต้หวัน , มาเลเซีย , อินโดนีเซีย , ยุโรป และประเทศไทย เพื่อจะสำรวจพฤติกรรมของผู้คนในแต่ละประเทศว่ามีการขับขี่ในรูปแบบไหน ใช้รถ EV เพื่ออะไร และสภาพแวดล้อมในแต่ละประเทศเอื้ออำนวยหรือเหมาะสมกับการใช้งานรถ EV หรือไม่

Yamaha E01

เซอร์ไพรส์ใหญ่ด้วยการจัดรถทดสอบไว้ให้กว่า 40 คัน

สำหรับการทดสอบในครั้งนี้สิ่งที่เซอร์ไพรส์เราเป็นอย่างแรกเลยก็คือทาง Yamaha ได้จัดรถทดสอบอย่าง Yamaha E01 ในครั้งนี้เอาไว้กว่า 40 คัน ซึ่งในขณะที่รถต้นแบบทั่วโลกนั้นถูกผลิตออกมาเพียง 500 คันเท่านั้นในตอนนี้ และแน่นอนว่าหนึ่งใน 500 คันที่ว่าก็อยู่ในประเทศไทยแล้ว 40 คัน ซึ่งรถทั้งหมดนั้นเราขอย้ำเอาไว้ตรงนี้เลยว่าเป็นเพียงรถต้นแบบที่ถูกผลิตขึ้นมาเพื่อการใช้ขับขี่ทดสอบสำหรับเก็บข้อมูลเท่านั้น ไม่ได้ผลิตขึ้นมาเพื่อวางจำหน่ายแต่อย่างใด

Yamaha E01 กว่า 40 คันที่ใช้ในการทดสอบครั้งนี้

รูปลักษณ์ภายนอกที่ดูล้ำสมัย สวยงาม โดดเด่น

ต้องบอกเลยว่างานดีไซน์ของเจ้า Yamaha E01 นั้นสวยมากจริง ๆ ถึงแม้ตัวรถโดยส่วนใหญ่จะเป็นการอิงพื้นฐานมาจากรถอย่าง Yamaha NMAX 125 ในฝั่งยุโรปก็ตามที แต่มันก็มีหน้าตาและงานออกแบบที่ไม่เหมือนรถต้นฉบับอยู่ดี เพราะทาง Yamaha ได้ทำการจับนู่นนิดนี่หน่อยมาผสมกันไว้ในตัวรถคันนี้ได้อย่างลงตัว เช่นชุดไฟด้านหน้าที่ยกจากสปอร์ตไบค์อย่าง Yamaha YZF-R1 มาใส่ไว้บนรถคันนี้นั่นเอง และนอกจากดีไซน์แล้วต้องบอกเลยว่างานประกอบรวมไปถึงงานสีนั้นเรียกได้ว่าเนี๊ยบสุด ๆ สมกับเป็นค่ายญี่ปุ่นจริง ๆ

ไฟ LED ด้านหน้าจาก YZF-R1

ลองสัมผัสครั้งแรก

ต้องบอกว่าการทดสอบในครั้งนี้เราถือว่าเป็นสื่อมวลชนกลุ่มแรกของประเทศอาเซียนที่ได้ทำการทดสอบรถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าอย่าง Yamaha E01 และเป็นการทดสอบครั้งแรกของโลกที่มีจำนวนรถเยอะขนาดนี้ ซึ่งเมื่อเราได้ขึ้นไปคร่อมนั้นต้องบอกเลยว่าตัวรถมีมิติที่ไม่ได้แตกต่างไปจากรถสกู๊ตเตอร์เครื่องยนต์สันดาปเลย ไม่ว่าจะเป็นท่าทางการขับขี่ ตำแหน่งตัวแฮนด์ ตำแหน่งวางเท้า รวมไปจนถึงตัวเบาะนั่ง ซึ่งนั่นเป็นข้อดีที่ทำให้เราไม่ต้องปรับตัวเข้าหารถเลย และแล้วก็ถึงเวลาสตาร์ทเครื่องยนต์ออกลุย

ท่าทางการขับขี่สุดแสนสบาย

ซึ่งระบบสตาร์ทของ Yamaha E01 นั้นจะใช้เบ้ากุญแจแบบคีย์เลสในสไตล์ที่เราคุ้นเคยกันในรถ Yamaha เลยหรือที่เพื่อน ๆ คุ้นกันในรูปแบบของกุญแจเตาแก๊สนั่นเอง รออะไรละรีบสตาร์ทเครื่องออกลุยกันเลยอ่าวเงียบกริบ เราลืมไปว่ามันคือรถไฟฟ้าเพราะฉะนั้นตอนที่เราสตาร์ทเลยไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย ลืมตัวไปหน่อย แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเครื่องยนต์ทำงานแล้ว สังเกตได้ง่าย ๆ ตรงแผงหน้าจอเรือนไมล์ของตัวรถจะแสดงเป็นแถบไฟสีเขียวยาวขั้นมานั่นแสดงว่าเมื่อคุณบิดคันเร่งตัวรถจะพุ่งไปข้างหน้าในทันที หรือก็คือคุณสตาร์ทเครื่องยนต์เรียบร้อยแล้วนั่นเอง

ปุ่มสตาร์ทที่คุ้นเคย

ขุมพลังเครื่องยนต์ไฟฟ้า

Yamaha E01 จะมาพร้อมกับเครื่องยนต์ที่เทียบเท่ากับรถสกู๊ตเตอร์ขนาด 125 ซี.ซี. ส่งมอบกำลัง 8.1 กิโลวัตต์ พร้อมระยะทางในการเดินทางจากแบตเตอรี่ที่ชาร์จไฟเต็มสามารถวิ่งได้ระยะทางสูงสุดที่ 104 กม. (เมื่อวิ่งด้วยความเร็วคงที่ 60 กม./ชม.) โดยตัวรถ Yamaha E01 สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 100 กม./ชม. รวมถึงการตั้งค่าแรงบิดเพื่อให้ใช้งานง่ายที่สุด แรงบิดสูงสุดถูกตั้งไว้ที่รอบต่ำตั้งแต่ 0 – 2,000 รอบ/นาที ที่ 30.2 นิวตันเมตร และกำลังสูงสุด 8.1 กิโลวัตต์ที่ 5,000 รอบ/นาที ทำให้มีกำลังในรอบที่กว้าง ทำให้ง่ายต่อการใช้งานในสภาพการจราจรที่ติดขัดในเมืองโดยเฉพาะที่ความเร็วต่ำ และที่เซอร์ไพรส์เราอีกแล้วนั่นก็คือตัวรถมาพร้อมกับเกียร์ถอยหลังให้เราได้ใช้งานอีกด้วย

ขุมพลังไฟฟ้าเงียบกริบ

ขับขี่ทดสอบในสถานที่จริงอย่างเขาใหญ่

ซึ่งสำหรับสถานที่ในการทดสอบสมรรถนะของเจ้า Yamaha E01 ในครั้งนี้ก็คือเส้นทางบนอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่นั่นเอง ซึ่งอย่างที่เหล่าไบค์เกอร์ทราบกันดีว่าเส้นทางบนเขาใหญ่นั้นประกอบไปด้วยโค้งที่คดเคี้ยว และทางขึ้นลงเขาที่ลาดชันมากมาย ซึ่งมันก็เหมาะมาก ๆ สำหรับการใช้ทดสอบเจ้า Yamaha E01 ในครั้งนี้โดยในการออกตัวในพื้นที่ราบเรียบนั้นเราได้เริ่มลองขับขี่ด้วยโหมด ECO (โหมดอีโค) ที่เหมาะสำหรับการขับขี่ทางไกล เพื่อจำกัดการใช้พลังงานแบตเตอรี่ แต่ตัวรถจะจำกัดความเร็วสูงสุดให้อยู่ที่ประมาณ 60 กม./ชม. เท่านั้นซึ่งถือว่าตอบโจทย์สำหรับการขับขี่ใช้งานภายในเมืองเลยโหมดนี้ โดยตัวรถจะมาพร้อมการตอบสนองของคันเร่งที่สมูทไม่หวือหวา ความเร็วจะค่อย ๆ ไต่ระดับมาเรื่อย ๆ เรียกว่าเป็นโหมดสายชิวก็แล้วกันเพราะตัวรถจะทำความเร็วสูงสุดได้แค่ 60 กม./ชม. เท่านั้นในโหมดนี้

โหมดอีโคสุดชิว

ต่อมาในโหมดสายซิ่งอย่าง PWR (โหมดเพาเวอร์) โหมดที่จะดึงกำลังสูงสุดของมอเตอร์ออกมาใช้ซึ่งเหมาะสำหรับการขี่ขึ้นเนิน และการเร่งแซง และโหมด STD (โหมดมาตรฐาน) ซึ่งทั้ง 2 โหมดนี้ตัวรถจะสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ 100 กม./ชม. เท่ากัน แต่ความจัดจ้านของคันเร่งในโหมดเพาเวอร์จะมาเร็วกว่า มาเร็วกว่าโหมด STD (โหมดมาตรฐาน) อย่างเห็นได้ชัด ซึ่งหากอยากมันแบบสายซิ่งก็ PWR (โหมดเพาเวอร์) ไปเลยบิดมันติดมือสุด ๆ ซึ่งหลังจากที่เราได้ทำการทดสอบความเร็วของทั้ง 3 โหมดแล้วนั้นสิ่งที่ทาง Yamaha E01 มีมาให้ก็คือการตอบสนองของคันเร่งที่แม่นยำมาก ๆ การเปิดปิดคันเร่งเพื่อควบคุมความเร็วนั้นไม่ได้แตกต่างไปจากรถน้ำมันเลย หรือพูดง่าย ๆ ก็คือรถไฟฟ้าคันนี้ให้ความรู้สึกที่ใกล้เคียงกับรถน้ำมันมากจริง ๆ ซึ่งเราก็ประทับใจแบบสุด ๆ ไปเลย

โหมดเพาเวอร์บิดติดมือสุด ๆ

ระบบเบรก และช่วงล่าง

มาถึงในเรื่องของระบบเบรกที่ทาง Yamaha E01 นั้นจะมาพร้อมจานดิสก์เดี่ยวทั้งด้านหน้า และด้านหลังพร้อมคาลิปเปอร์เบรกแบบ 1 พอร์ต ซึ่งเรามองว่ามันยังไม่เพียงพอ เพราะเราได้ทำการขับขี่ด้วยความเร็วสูงแล้วกำเบรกเพื่อให้รถหยุดในจุดที่กำหนดเพื่อพับเลี้ยวเข้าโค้งต่อไปได้ปรากฏว่าตัวรถยังมีอาการไถไปข้างหน้าอีกโดยที่ไม่หยุดในทันทีนั่นเป็นเพราะว่าด้วยน้ำหนักตัวรถที่มีมาให้ 158 กก. บวกกับตัวของชุดแบตเตอรี่ที่อยู่ตรงกลางระหว่างจุดวางเท้านั่นจึงทำให้น้ำหนักของตัวรถถูกถ่ายเทไปที่ล้อด้านหน้ามากเกินไปจึงทำให้คาลิปเปอร์เบรกที่ให้มาพอร์ตเดียวเอาไม่อยู่นั่นเอง แต่หากถามว่าถ้าขี่ใช้งานในชีวิตประจำวันแบบทั่ว ๆ ไปไม่ได้หวดกันแบบเอาเป็นเอาตายเหมือนเราระบบเบรกที่ให้มาก็เพียงพอแล้ว 

ชุดเบรกด้านหน้า

ต่อมาในเรื่องของช่วงล่างอันนี้ต้องขอชมเลยว่า Yamaha E01 ทำออกมาได้ดีมาก ๆ มันนุ่มขี่สบายไปหมด ไม่ว่าจะเจอหลุม เจอลูกระนาดตัวโช้คอัพสามารถดูดซับแรงกระแทกได้ดีแบบสุด ๆ รวมไปจนถึงการขับขี่เข้าโค้งด้วยความเร็วสูงก็ไม่แสดงอาการออกมาให้เห็นเลย เรียกได้ว่ายัดเข้าโค้งได้แบบสบาย ๆ ซึ่งนั่นทำให้เราขับขี่มันบนอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ที่มีโค้งเยอะอยู่แล้วได้แบบสนุกสุด ๆ ไปเลย และที่สำคัญมันมีระบบ TCS หรือ Traction Control System ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีมาให้ด้วย แต่คุณสามารถเลือกเปิดปิดมันได้นะ แต่เปิดไว้รับรองว่าอุ่นใจเข้าโค้งไปท้ายไม่มีการปัดอย่างแน่นอน

ช่วงล่างมั่นใจมาพร้อมระบบป้องกันล้อหมุนฟรี

ระบบการชาร์จไฟมีให้เลือก 3 รูปแบบ

Yamaha E01 คันนี้มาพร้อมกับแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนประสิทธิภาพสูงกับความจุ 4.9 กิโลวัตต์/ชม. ซึ่ง Yamaha พัฒนาแบตเตอรี่ชุดนี้ขึ้นมาเพื่อใช้กับรถมอเตอร์ไซค์โดยเฉพาะ ทำให้มันมีประสิทธิภาพในการชาร์จไฟอันทรงพลังจากแบตเตอรี่ที่ 0% ถึง 90% ได้ภายในเวลา 1 ชม. เท่านั้น แต่แบตเตอรี่ของเจ้า Yamaha E01 นั้นมีจุดด้อยอยู่ตรงที่มันไม่สามารถถอดออกจากตัวรถเพื่อไปทำการชาร์จยังสถานที่ต่าง ๆ ได้ แต่ตัวรถจะมาพร้อมกับตำแหน่งชาร์จแบตเตอรี่ที่ถูกติดตั้งเอาไว้ตรงบริเวณส่วนหัวของตัวรถ ซึ่งทำให้สามารถชาร์จได้อย่างง่ายดาย ทันทีที่จอดรถ และนอกจากนี้ Yamaha E01 ยังมาพร้อมระบบชาร์จไฟถึง 3 แบบให้เลือกใช้ ได้แก่ 

เครื่องชาร์จแบบเร็ว

-เครื่องชาร์จแบบเร็ว เหมาะสำหรับการติดตั้งโดยผู้ให้บริการแบ่งเช่ารถ หรือ ตัวแทนจำหน่ายฯ สามารถชาร์จไฟจาก 0% ถึง 90% ได้ภายใน 1 ชม.

-เครื่องชาร์จแบบปกติ เหมาะสำหรับการติดตั้งภายในบ้านสามารถชาร์จไฟจาก 0% ถึง 100% ได้ภายใน 5 ชม. ที่แรงดันไฟฟ้า 200V (เข้ากันได้กับเต้ารับ 200–240V ในประเทศต่าง ๆ)

-เครื่องชาร์จแบบพกพา มีข้อดีคือสามารถพกพาสะดวกเอาไปกับเราได้ทุกที่ เพราะด้วยขนาดที่พอดีกับช่องเก็บของใต้เบาะสามารถชาร์จไฟจาก 0% ถึง 100% ได้ใน 14 ชม. ที่แรงดันไฟฟ้า 100V (200–240V ในประเทศต่าง ๆ)

เครื่องชาร์จแบบพกพาที่อยู่ใต้เบาะตัวรถ

สรุป Yamaha E01 ในเวลานี้

หากให้เราพูดถึงรถคันนี้หลังจากที่ได้ขับขี่ทดสอบไป Yamaha E01 ถือว่าเป็นรถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่ให้อารมณ์การขับขี่ใกล้เคียงกับรถน้ำมันที่สุดแล้วในตอนนี้ จะแตกต่างก็ตรงที่มันไม่มีเสียงเครื่องยนต์นี่แหละ ซึ่งนั่นทำให้ผู้ขับขี่แทบจะไม่ต้องปรับตัวอะไรกับมันเลย เพราะการขับขี่ก็เหมือนคุณขี่รถสกู๊ตเตอร์น้ำมันโดยทั่วไปนั่นเอง แต่มันจะมาพร้อมอัตราเร่ง และรอบความเร็วที่ไวกว่าเท่านั้น ส่วนที่เหลือไม่ว่าจะเป็นระบบเบรก ช่วงล่าง ท่าทางหารขับขี่นั้นก็เหมือนกับคุณกำลังขี่ Yamaha NMAX นั่นแหละ (เผื่อใครหลายคนจะนึกภาพไม่ออก) สรุปแล้วหากทาง Yamaha คิดวางจำหน่ายรถอย่าง Yamaha E01 ออกสู่ตลาดด้วยสเปคขนาดนี้นั้นเราบอกเลยว่าขายกระจายแน่นอน รถดีสุด ๆ แบบไม่อวยเลยจริง ๆ แต่ติดอยู่อย่างเดียวหากวางจำหน่ายจะตั้งราคาไว้ที่เท่าไหร่ก็แค่นั้น เพราะเจ้าตัวรถทดสอบที่เราได้ขับขี่กันนี้มีมูลค่าถึง 7 หลักกันเลยทีเดียว

ยังไม่วางจำหน่ายในเร็ว ๆ นี้อย่างแน่นอน

และสุดท้ายสำหรับใครที่กำลังรอรถอย่าง Yamaha E01 อยู่ละก็เราขอบอกกันไว้อีกครั้งว่าตัวรถจะยังไม่วางจำหน่ายเร็ว ๆ นี้อย่างแน่นอน อย่างเร็วที่สุดคืออีก 2-3 ปีข้างหน้า และราคาวางจำหน่ายจะไม่ต่ำกว่าแสนแน่นอน ซึ่งรู้แบบนี้แล้วเพื่อน ๆ ก็ลองไปตัดสินใจกันดูนะครับว่าจะรอต่อไปหรือจะมองหาตัวเลือกจากค่ายผู้ผลิตรายอื่น ๆ มาใช้งานก่อน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความจำเป็นในการใช้งานของแต่ละบุคคลเลย เราไม่ติด  

อ่านเพิ่มเติม : ไขชัดทุกข้อสงสัยกับ 5 ประเด็นร้อนเกี่ยวกับ Yamaha E01

อ่านเพิ่มเติม : เริ่มเดินหน้าโครงการเปิดให้ทดสอบ Yamaha E01

อ่านเพิ่มเติม : เจาะลึกข้อมูล 2022 Yamaha E01 ทำไมถึงไม่เปิดราคา 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามพวกเราได้ที่:
Archa

นักเขียนอาวุโส

นักเขียน/นักทดสอบรถจักรยานยนต์ประสบการณ์กว่า 7 ปีในแวดวง 2 ล้อ ใช้รถมอเตอร์ไซค์เดินทางไปไหนมาไหนตั้งแต่อายุ 10 ปี ได้เรียนรู้...

ข่าวล่าสุด

ยุโรปออกกฎหมายต้องมี EV Fast Chargers ทุก ๆ 60 กิโลเมตรบนทางหลวง!

ยุโรปออกกฎหมายต้องมี EV Fast Chargers ทุก ๆ 60 กิโลเมตรบนทางหลวง! เมื่อมีรถยนต์ไฟฟ้า และรถมอเตอร์ไซค์ออกสู่ท้องถนนมากขึ้นเรื่อย ๆ ถึงเวลาแล้วที่ต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานการชาร์จเร็วของยานยนต์ไฟฟ้าเหล่านี้ แน่นอนว่ามีสถานีชาร์จไฟฟ้าหลายร้อยแห่งกระจายอยู่ตามเมืองส่วนใหญ่ทั่วโลก แต่กลับกันในเส้นทางข้ามรัฐ หรือทางด่วนทั้งหลายกลับยังมีจุดชาร์จเหล่านี้อยู่น้อยมาก ๆ ซึ่งด้วยจุดนี้เองทำให้ยุโรปจำเป็นต้องออกกฎหมายเพื่อเพิ่มจุดชาร์จเหล่านี้อย่างรวดเร็วบนทางหลวงระหว่างรัฐต่าง ๆ กฎหมาย

แอบส่องสเปค Triumph Speed 400 และ Scrambler 400 X ก่อนวางจำหน่ายไทย!

แอบส่องสเปค Triumph Speed 400 และ Scrambler 400 X ก่อนวางจำหน่ายไทย! หลังสร้างกระแสฮือฮาครั้งใหญ่ให้ตลาดรถมอเตอร์ไซค์คลาส 400cc ได้คึกคัก กับการเปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์ 2 รุ่นใหม่ล่าสุดจาก Triumph Motorcycle ได้แก่ “สปีด 400” (Speed 400) และ “สแครมเบลอร์ 400 เอ็กซ์” (Scrambler 400 X) ถือเป็นน้องเล็กสุดของแบรนด์ ที่ตอนนี้เชื่อว่าหลาย ๆ คนต่างเฝ้ารอกันอย่างใจจดจ่อ กับราคาที่เตรียมเปิดตัวในประเทศไทยในช่วงเดือนมกราคม และการทดสอบการขับขี่บนถนนจริง ดังนั้นก่อนที่จะได้ยลโฉม และสัมผัสความเอ็กซ์คลูซีฟ จะขอพา

Gogoro และ Muji ร่วมมือกันสร้างสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ารักษ์โลกด้วยแผงพลาสติกรีไซเคิล!

Gogoro และ Muji ร่วมมือกันสร้างสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ารักษ์โลกด้วยแผงพลาสติกรีไซเคิล! Gogoro ผู้บุกเบิกเทคโนโลยียานยนต์ด้วยไฟฟ้า และแบตเตอรี่จากไต้หวันได้ออกมาประกาศความร่วมมือกับ Muji แบรนด์ไลฟ์สไตล์อันโด่งดังของประเทศญี่ปุ่น ถึงความร่วมมือโดยตรงกับ Naoto Fukasawa ดีไซเนอร์ชื่อดังของ Muji โดยที่ความร่วมมือดังกล่าวได้ให้กำเนิดรถมอเตอร์ไซค์สกู๊ตเตอร์รุ่นพิเศษ รวมถึงสินค้าแบรนด์ร่วมอีกมากมาย ซึ่งทั้ง 2 บริษัทได้ร่วมมือกันเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “Recycling for Good” ซึ่งมีจุดมุ่งหมายคือการรีไซเคิลขยะพ

Mash Belena แม็กซี่สกู๊ตเตอร์ที่อังกฤษออกแบบ แต่จีนผลิต!

Mash Belena แม็กซี่สกู๊ตเตอร์ที่อังกฤษออกแบบ แต่จีนผลิต! ดูเหมือนว่าในตอนนี้ประเทศจีนจะยึดหัวหาดในเรื่องการผลิตยานยนต์โลกไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย โดยเฉพาะความร่วมมือระหว่างยุโรป และจีนทางด้านยานยนต์ในปัจจุบันดูเหมือนจะกลายเป็นเรื่องปกติทั่วไปแล้ว เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่าทั้งการออกแบบ รวมไปถึงขั้นตอนการผลิตในยุโรปนั้นมีราคาต้นทุนที่ค่อนข้างสูง ดังนั้นการให้ประเทศต้นทางอย่างยุโรปเป็นผู้ออกแบบผลิตภัณฑ์ แต่ส่งไปผลิตที่ประเทศจีนนั้นดูจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ และสามารถลดต้นทุนการผลิตได้อย่างมหาศาล Mash

Harley-Davidson X440 ประกาศจะปรับราคาขึ้นอีกหลังจากเปิดตัว!

Harley-Davidson X440 ประกาศจะปรับราคาขึ้นอีกหลังจากเปิดตัว! สำหรับทาง Harley-Davidson ที่ในตอนนี้ดูเหมือนจะหันมาบุกตลาดรถมอเตอร์ไซค์ขนาดเล็กมากขึ้นอย่าง Harley-Davidson X440 ที่ได้เปิดตัวพร้อมวางจำหน่ายไปในประเทศอินเดียก่อนหน้านี้ถือเป็นรถมอเตอร์ไซค์รุ่นที่เล็กที่สุดของทาง Harley-Davidson ที่มีวางจำหน่ายในตอนนี้ หลังจากที่ได้ผ่านช่วงราคาแนะนำมาแล้ว ดูเหมือนว่าทาง Harley-Davidson อินเดียได้ออกมาประกาศราคาใหม่ของมันอย่างเป็นทางการสำหรับการวางจำหน่ายโดยทั่วไปแล้ว ประกาศอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 2

รถแนะนำสำหรับคุณ

ยอดนิยมล่าสุดอัพเดท
ฮิต
Honda

Honda ADV150

THB 98,500 - 98,900

ดูรุ่นรถ
ฮิต
Yamaha

Yamaha XSR155

THB 91,500

ดูรุ่นรถ
ฮิต
Yamaha

Yamaha Xmax 300

THB 168,000 - 172,900

ดูรุ่นรถ
ฮิต
Kawasaki

Kawasaki Ninja 400

THB 205,000 - 226,800

ดูรุ่นรถ
ฮิต
Yamaha

Yamaha SR400

THB 275,000 - 285,000

ดูรุ่นรถ
ฮิต
Honda

Honda CB650R

THB 305,000 - 309,100

ดูรุ่นรถ
Yamaha

Yamaha Aerox

THB 67,500 - 78,500

ดูรุ่นรถ
Yamaha

Yamaha YZF R1

THB 899,000 - 1,149,000

ดูรุ่นรถ
MV Agusta

MV Agusta F4

THB 1,750,000

ดูรุ่นรถ
KTM

KTM RC 390

THB 239,800

ดูรุ่นรถ
Royal Enfield

Royal Enfield Meteor 350

THB 169,900

ดูรุ่นรถ
Suzuki

Suzuki Katana

THB 569,000

ดูรุ่นรถ
Suzuki

Suzuki Raider J Crossover

THB 46,250

ดูรุ่นรถ