ในที่สุดทาง BMW Motorrad ก็ได้มีการเปิดตัวแอดเวนเจอร์ไบค์เรือธงของทางค่ายอย่างเป็นทางการแล้ว หลังจากที่มีกระแสข่าวออกมาอย่างยาวนานกับเจ้า 2024 BMW R 1300 GS ที่ได้มีการเปลี่ยนแปลงใหม่หมดทั้งภายใน และภายนอกซึ่งรายละเอียดของเจ้า GS ใหม่คันนี้จะมีอะไรที่น่าสนใจบ้างเราไปชมกันเลย
ขุมพลังใหม่
ระบบกันสะเทือน และระบบเบรก
มีชุดล้อให้เลือก 3 แบบ
งานดีไซน์ และเทคโนโลยี
ตัวเลือกสี และราคาวางจำหน่าย
ขุมพลังใหม่
2024 BMW R 1300 GS มาพร้อมกับขุมพลังเครื่องยนต์ Boxer ใหม่พิกัด 1,300 ซี.ซี. พร้อมกระบอกสูบและระยะชัก 106.5 มม. x 73 มม. ให้กำลังสูงสุด 145 แรงม้าที่ 7,750 รอบ/นาที แรงบิด 105 ปอนด์-ฟุตที่ 6,500 รอบ/นาที ใช้เทคโนโลยีไทม์มิ่งวาล์วแปรผัน BMW ShiftCam โดยมีวาล์วไอดีเส้นผ่านศูนย์กลาง 44 มม. และวาล์วไอเสียเส้นผ่านศูนย์กลาง 35.6 มม.
โดยทาง BMW ได้มุ่งเน้นไปที่การเพิ่มแรงบิดตลอดช่วงรอบเครื่องยนต์ โดยเน้นไปที่รอบเครื่องยนต์ระหว่าง 3,600-7,800 รอบ/นาทีโดยเฉพาะ โดยตัวรถสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ 200 กม./ชม. กับอัตราเร่งจาก 0-100 ภายใน3.39 วินาทีเท่านั้น ซึ่งทั้งหมดทำให้ 2024 BMW R 1300 GS มีน้ำหนักเครื่องยนต์ลดลง 8.6 ปอนด์ และระบบส่งกำลังโดยรวมลดลง 14.3 ปอนด์ เมื่อเทียบกับ GS รุ่นก่อนหน้า
2024 BMW R 1300 GS มาพร้อมระบบกันสะเทือน Evo Telelever ใหม่ที่ด้านหน้า พร้อมด้วยการออกแบบ Evo Paralever ที่ปรับปรุงใหม่ที่ด้านหลัง การแก้ไขเหล่านี้ส่งผลให้บังคับเลี้ยวด้านหน้าได้แม่นยำยิ่งขึ้น พร้อมด้วยการยึดเกาะถนนด้านหลังที่เพิ่มขึ้น ในส่วนของระบบเบรกด้านหน้ามาพร้อมคาลิปเปอร์แบบ 4 ลูกสูบที่ทำงานร่วมกับจานดิสก์เบรกแบบคู่ขนาด 310 มม.
ส่วนด้านหลังมาพร้อมคาลิปเปอร์เบรกลูกสูบเดี่ยวพร้อมด้วยจานดิสก์เดี่ยวขนาด 285 มม. พร้อมเสริมความปลอดภัยในการเบรกด้วยระบบอย่าง Integral ABS Pro และ Dynamic Brake Control รวมไปถึง Integral ABS Pro จะทำงานทั้งเบรกหน้า และหลังพร้อมกันโดยระดับการสั่งงานเบรกแต่ละครั้งจะขึ้นอยู่กับโหมดการขับขี่
มีชุดล้อให้เลือก 3 แบบ
2024 BMW R 1300 GS จะมาพร้อมชุดล้อให้คุณได้เลือก 3 แบบคือล้อหน้าขนาด 3.0 x 19 นิ้ว และล้อหลังขนาด 4.5 x 17 นิ้วในรุ่นพื้นฐาน และรุ่น Triple Black ใช้ล้ออะลูมิเนียมหล่อน้ำหนักเบา ในขณะเดียวกัน Trophy และ Option 719 Tramuntana ใช้ล้อแบบซี่ลวดแบบ Cross-spoke พร้อมวงแหวนอะลูมิเนียมที่ออกแบบมาสำหรับการใช้งานแบบออฟโรด นอกจากนี้ยังมี ล้อฟอร์จ Enduro ใหม่ซึ่งมีไว้สำหรับการใช้งานแบบออฟโรดเช่นกัน แต่มีน้ำหนักน้อยกว่ารุ่น Cross-spoke อยู่ที่ 3.9 ปอนด์
งานดีไซน์ และเทคโนโลยี
2024 BMW R 1300 GS โดดเด่นมาด้วยชุดไฟด้านหน้า LED แบบใหม่ที่เป็นรูปตัว X ขนาดกะทัดรัดซึ่งดูล้ำอนาคต และแตกต่างไปจาก GS รุ่นก่อนหน้าอย่างชัดเจน พร้อมด้วยหน้าจอเรือนไมล์ TFT ขนาด 6.5 นิ้ว ที่มาพร้อมช่องชาร์จสมาร์ทโฟนพร้อมช่องเสียบ USB และแน่นอนมันสามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้ พร้อมระบบกุญแจแบบ Keyless และแฮนด์ทำความร้อน
และแน่นอนว่าขึ้นชื่อว่าเป็นรถจาก BMW มันจะต้องมาพร้อมเทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่อย่างครบครันซึ่ง 2024 BMW R 1300 GS ก็ได้มาพร้อมกับโหมดการขับขี่ 4 โหมดให้เลือกใช้คือ Rain, Road , Eco และ Enduro พร้อมด้วยระบบการยึดเกาะถนนแบบไดนามิก , การควบคุมแรงบิดของเครื่องยนต์ , ระบบช่วยเบรกแบบไดนามิก และระบบควบคุมการออกตัวบนทางลาดชัน , ระบบควบคุมความเร็วคงที่แบบไดนามิก และการตรวจสอบแรงดันลมยาง (RDC)
ตัวเลือกสี และราคาวางจำหน่าย
สำหรับ 2024 BMW R 1300 GS จะมีให้เลือก 3 รุ่นกับสีที่แตกต่างกันออกไปคือ Triple Black , GS Trophy และ Option 719 Tramuntana Triple Black ในขณะที่ GS Trophy ผสมผสาน Racing Blue Metallic, White Metallic Matte และสีแดง Option 719 Tramuntana มีสีทูโทน Aurelius Green Metallic , Avus Black Metallic Matte และ Luxor Black/Grey พร้อมเน้นสีทอง
โดยในรุ่น BMW R 1300 GS สี Triple Black จะมาพร้อมราคา 1,125,000 บาท ต่อมากับ BMW R 1300 GS สี GS Trophy ด้วยราคา 1,125,000 บาท และสุดท้ายกับ BMW R 1300 GS สี Option 719 ในราคา 1,205,000 บาท