NEW MG HS PHEV (เอ็มจี เอชเอส พีเอชอีวี) โฉมไมเนอร์เชนจ์ เปิดตัวในไทยอย่างฉับไว หลังจากการเปิดตัวมาได้ 1 ปีเศษเท่านั้น โดยรุ่นปรับโฉมนี้มีรุ่นท็อปราคาค่าตัวอยู่ที่ 1,379,000 บาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดิมแค่ 2 หมื่นบาทเท่านั้น พร้อมได้ดีไซน์ทันยุคสมัย ด้วยกระจังหน้าทรง Digital Burning Grille ฝังรวมในกันชนหน้า พร้อมไฟหน้าใหม่ทรงเม็ดข้าว QUAD LED Projector กับล้อแม็กซ์ลายใหม่ขนาด 18 นิ้ว นับเป็นสปอร์ต SUV ที่คุ้มค่าที่สุดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนกับระดับราคานี้ และดึงดูดความสนใจด้วย 5 ไม้ตายเด็ด เป็นจุดสำคัญที่ทำให้รุ่นนี้ดูสมราคาค่าตัวสุด ๆ และฟังก์ชั่นการใช้งานจริงออกแบบมาได้ดี ไม่ว่าคุณจะรู้เรื่องรถหรือไม่ก็ตาม
ปลั๊กอินไฮบริดที่ถูกที่สุด
ประเด็นสำคัญที่สุด ที่ทำให้ลูกค้าสนใจรถรุ่นนี้คือ การเป็น Plug-in Hybrid ที่มีราคาถูกกว่าใครในระดับเดียวกัน ค่าตัวเริ่มต้นเพียง 1,299,000 บาทด้วยการนำเข้าชิ้นส่วนจากจีน และประกอบจากโรงงานในประเทศไทย ทำให้ใคร ๆ ก็สามารถเอื้อมถึงเทคโนโลยีไฮบริดเสียบปลั๊ก ที่เดิมมีใช้แค่ในกลุ่มรถระดับพรีเมี่ยม แต่เอ็มจีขายให้ในราคาเทียบเท่ากับรถสันดาปภายใน
แรงม้ามากที่สุดในระดับราคาเดียวกัน
รถไฮบริดก็ให้อารมณ์สปอร์ตได้ เพราะว่า NEW MG HS PHEV มีกำลังถึง 284 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 480 นิวตันเมตร ขับขี่อย่างต่อเนื่องได้ด้วยระบบเกียร์แบบ EDU II – 10 สปีด ทำอัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ภายในเวลา 7.5 วินาที ผู้ขับยังเพลินกับโหมดการขับขี่ 5 แบบ ได่แก่ EV, Eco, Normal, Sport และ Super Sport ยังสามารถปรับโหมดรีไซเคิลพลังงานหรือ KERS ได้อีก 3 ระดับด้วย
ซันรูฟกว้างสุด
ไม่เพียงคนขับจะปลื้มกับสมรรถนะเท่านั้น ผู้โดยสารก็ยังจะได้ความประทับใจกับหลังคาซันรูฟที่เปิดกว้างแบบพาโนรามา (Panoramic Sunroof) บนพื้นที่เกือบ 90 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่หลังคา สามารถเปิดรับแสงได้ทั่วถึงทั้งเบาะตอนหน้าและหลัง ทำให้ห้องโดยสารไม่มืดทึบ เพิ่มความรู้สึกโปร่งสบายตา ลดความอึดอัด เพราะมีแสงจากซันรูฟลอดเข้ามาในรถ
แบตใหญ่สุด
แบตเตอรี่ของ NEW MG HS PHEV เป็นแบบ Lithium-Ion เรียงกัน 6 โมดูล ขนาดความจุ 16.6 kWh มาพร้อมระบบระบายความร้อนด้วยของเหลว LIQUID COOLANT SYSTEM แยกส่วนจากระบบหล่อเย็นของเครื่องยนต์ แบตเตอรี่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัย AMERICAN UL2580 และมาตรฐาน IP67 ในการป้องกันน้ำและฝุ่น ด้วยความจุเยอะอย่างนี้ ทำให้สามารถขับขี่ด้วยไฟฟ้าล้วน ได้ถึง 67 กม. นั่นหมายความว่า คุณสามารถขับไปทำธุระใกล้บ้านโดยไม่เสียน้ำมันสักหยดเลย
จัดเต็มระบบความปลอดภัย
ความปลอดภัยในรถNEW MG HS PHEV มีมากถึง 26 ระบบ โดยพื้นฐานก็จะมีพวกการเตือนจุดบอด เตือนออกนอกเลน เตือนการชนด้านหน้า เป็นมาตรฐานของรถระดับนี้อยู่แล้ว แต่ที่เป็นไม้ตายเด็ด คือ ระบบควบคุมรถแทนคนขับ ซึ่งเทียบเท่ากับระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติระดับที่ 2 (Autonomous Level 2) เช่น ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC, ระบบควบคุมรถเมื่อรถจะออกนอกเลน LDW, ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB, ระบบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC ที่ช่วยเร่งและเบรกเพื่อรักษาระยะห่างจากรถคันหน้า
จุดเด่นอื่นยังมี
จุดเด่นอื่น ๆ ของรถ NEW MG HS PHEV ยังมีให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน อย่างช่วงล่างจัดเต็มแบบ Euro Tuning Suspension สำหรับรุ่นไมเนอร์เชนจ์นี้ได้เพิ่ม AR NAVIGATION หรือระบบนำทางเสมือนจริง ซึ่งเป็นรุ่นนำร่องของเทคโนโลยีนี้ สำหรับระบบ i–SMART ได้เพิ่ม Digital Key หรือกุญแจดิจิตอล ที่เจ้าของรถสามารถสั่งงานผ่านโทรศัพท์มือถือ ไม่ต้องใช้กุญแจในการสตาร์ทรถ อีกทั้งยังสามารถส่งกุญแจดิจิตอลให้กับผู้อื่นเพื่อใช้งานรถยนต์ได้ด้วยโดยการรับ-ส่งโค้ดผ่านทางแอพพลิเคชั่น i-SMART รวมถึงการได้เครื่องเสียง Bose 8.1 Sound System ใช้วัสดุบุผนังซับเสียงรบกวนรอบคัน นับว่าเป็นงานประณีตที่ใส่ใจทุกฟังก์ชั่นการใช้งานในรถยนต์
NEW MG HS ไม่ได้มีแค่ PHEV เท่านั้นนะ
NEW MG HS มีรุ่นเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร ด้วย ราคาเริ่มต้น 939,000 บาท ตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการรถ SUV วางงบไม่เกินล้าน พร้อมสีตัวถังทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีขาว (Arctic White) สีดำ (Black Knight) สีเทา (Metal Ash Grey) และสีแดง (Scarlet Red) ให้ความโดดเด่นไม่ซ้ำใคร นับว่าเป็นรถที่รวมความล้ำสมัย ประหยัด และหรูหราขั้นสุด ซื้อได้ในราคาไม่แพง
อ่านเพิ่มเติม : ราคา 2022 New MG HS และ MG HS PHEV โฉมไมเนอร์เชนจ์เริ่มต้น 939,000 - 1,379,000 บาท
[Sponsored by MG]