รถยนต์ไฟฟ้ารุ่น Neue Klasse ในอนาคตของ BMW (บีเอ็มดับเบิ้ลยู) จะมีเซลล์แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขั้นสูงแบบใหม่ที่จะช่วยเพิ่มระยะทางได้มากถึง 30 เปอร์เซ็นต์
รถยนต์ไฟฟ้ารุ่น Neue Klasse ในอนาคตของ BMW (บีเอ็มดับเบิ้ลยู) จะมีเซลล์แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขั้นสูงแบบใหม่ที่จะช่วยเพิ่มระยะทางได้มากถึง 30 เปอร์เซ็นต์
แบตเตอรี่เจเนเรชั่น 6 ของผู้ผลิตรถยนต์รายนี้ กำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนาที่ BMW Group Battery Cell Center of Excellence ในเมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนี มีจุดเด่นตรงการใช้รูปทรงกระบอกร่วมกันแบบใหม่ ละทิ้งรูปทรงปริซึมแบบเก่า เพื่อสร้างพื้นที่ให้เอื้อต่อการออกแบบปริมาณเซลล์ในแพ็คได้ความหนาแน่นใหม่แทน
ประสิทธิภาพมากขึ้น
การออกแบบใหม่นี้จะช่วยให้สามารถติดตั้งชุดแบตเตอรี่เข้ากับโครงของรถได้โดยตรง ซึ่งไม่เพียงปรับปรุงความแข็งแกร่งของแชสซีและคุณภาพการขับขี่เท่านั้น แต่ยังช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายสำหรับชุดแบตเตอรี่ได้ 50 เปอร์เซ็นต์อีกด้วย การชาร์จแบตเตอรี่จาก 10 ถึง 80 เปอร์เซ็นต์จะใช้เวลาน้อยกว่ารถยนต์ไฟฟ้ารุ่นปัจจุบันของ BMW ถึง 30 เปอร์เซ็นต์
แหล่งข่าว Auto News ระบุว่าเซลล์ใหม่ใช้นิกเกิลและซิลิกอนมากขึ้นในขณะที่ใช้โคบอลต์น้อยลง แท้จริงแล้ว แคโทดในเซลล์แบตเตอรี่มีโคบอลต์น้อยลง 50 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่แอโนดมีกราไฟต์น้อยลง 20 เปอร์เซ็นต์ ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเยอรมันจะใช้โคบอลต์รีไซเคิลด้วย นิกเกิลและลิเธียมและผลิตเซลล์โดยใช้พลังงานหมุนเวียน
“ความหนาแน่นของพลังงานสูงกว่าเมื่อก่อนมาก” กล่าวโดยวิศวกรหนุ่มผู้ออกแบบโมดูลใหม่ คือนาย Simon Erhard มาจาก BMW กล่าวต่อไปว่า “คุณสามารถใส่เซลล์ได้มากขึ้นในชุดแบตเตอรี่ ด้วยแบครุ่นใหม่นี้ เรากำลังรวมเซลล์แบตเตอรี่ทรงกระบอกเข้าไปในรถโดยตรง ความท้าทายคือ การให้น้ำหนักความสำคัญที่เหมาะสมระหว่าง ความแข็งและความยืดหยุ่นให้การออกแบบ และที่ต้องผสมผสานกันมากที่สุดคือ ส่วนพื้นรถต้องเป็นส่วนบนของชุดแบตเตอรี่อย่างกลมกลืน”
BMW วางแผนที่จะสร้างรถครอสโอเวอร์ไฟฟ้าหลายรุ่นโดยใช้แพลตฟอร์ม Neue Klasse ที่โรงงานในเซาท์แคโรไลนาตั้งแต่กลางทศวรรษนี้ 2024-2025 โดยมีบริษัท Envision AESC จะเป็นผู้ควบคุมการผลิตเซลล์แบตเตอรี่ Gen 6 ซึ่งดำเนินงานจากโรงงานในเซาท์แคโรไลนาที่สามารถผลิตได้ โดยกำลังการผลิตแบตเตอรี่จากที่นี่ มีปริมาณเพียงพอที่จะให้พลังงานรถยนต์ไฟฟ้า 300,000 คันต่อปี
แม้ว่า BMW จะเริ่มพัฒนาแบตเตอรี่ได้อย่างก้าวหน้าเพียงใด แต่ว่า Oliver Zipse ซีอีโอของ BMW เชื่อว่าการเลิกใช้เครื่องยนต์สันดาปเร็วเกินไปไม่เป็นประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมหรือใครก็ตามที่เกี่ยวข้อง เพราะในตอนนี้ อัตราส่วนแบ่งการตลาดที่ใหญ่ที่สุดในเยอรมนี รวมถึงยุโรปและทั่วโลก ยังเป็นเครื่องยนต์สันดาปภายในอยู่ ก่อนที่จะหยุดการใช้งานภายใน 8-10 ปีข้างหน้า ซึ่งารเปลี่ยนไปขาย EV ล้วนยังต้องค่อยเป็นค่อยไปอยู่ดี
อ่านเพิ่มเติม : BMW คาดการณ์อนาคตหั่นราคาแบตเตอรี่ลง 30% เพื่อต่อกรกับ Tesla พร้อมให้ระยะวิ่งมากกว่า
ขายรถคันเดิมเพื่อซื้อรถมือสองคุณภาพดีได้ง่ายและสะดวก
BMW i4 eDrive40 M Sport 2022
แลก
เพิ่มรถของคุณ