ลองขับรถ 2024 MG4 Xpower (2024 เอ็มจี 4) รุ่นย่อยใหม่ล่าสุด ที่มีกำลังสูงถึง 435 แรงม้า กับช่วงล่างที่เอาอยู่ทุกสภาพสนาม แต่ในค่าตัวไม่เกิน 1.2 ล้าน ก็ต้องยอมแลกกับออพชั่นบางอย่างที่ไม่ได้เพียบพร้อมสมบูรณ์แบบ แต่เหมาะกับขาซิ่งและนักขับโดยเฉพาะ

รถแรงราคาเข้าถึงง่าย

รถยนต์กำลัง 435 แรงม้า ในค่าตัวประมาณ 1.1 ล้าน เกิดขึ้นจริงแล้วในยุครถยนต์ไฟฟ้านี้ ด้วยการมาถึงของ MG4 Xpower ที่นำรถพื้นฐานไฟฟ้าล้วน มาเพิ่มมอเตอร์และแบตใหม่ พร้อมการปรับจูนช่วงล่างแบบเปลี่ยนอะไหล่ใหม่ยกชิ้น และยังมีการให้ออพชั่นเพิ่มอีกเล็กน้อย เมื่อดูจากสเปคหน้ากระดาษแล้วอาจจะดูดีสมบูรณ์แบบ แต่เราต้องไปลองขับเพื่อพิสูจน์ว่ามันจริงอย่างที่คิดหรือไม่ ?

เพิ่มทั้งความสวยและประโยชน์

ความประทับใจแรกเกิดจากรูปทรงที่ยังคงธีมรถสปอร์ตท้ายตัด เพิ่มการตกแต่งด้วยแถบสีเงินด้านที่ชายล่างรถ สิ่งที่ชอบคือสีเขียวด้าน ที่มาในเฉดสีเข้มไม่ฉูดฉาดบาดตา และไม่ทึบจนดูน่าเบื่อ ที่สำคัญคือล้อแม็กซ์ขนาด 18 นิ้วลายใหม่ พร้อมยาง Bridgestone Turanza T005EV แสดงถึงความใส่ใจเรื่องสมรรถนะโดยเฉพาะ นอกจากนี้ยังชอบตรงที่ให้ที่ปัดน้ำฝนหลังมาแล้ว นับว่าเป็นความสวยงาม และเพิ่มประโยชน์ใช้สอย ที่ใช้งานได้จริงอีกด้วย

ข้อสังเกตคือ หลังคายังไม่มีซันรูฟให้ แค่ทำสีดำเงาไว้เฉยๆ ใครที่ชอบซื้อรถด้วยเหตุผลที่มีออพชั่นเยอะๆ อาจจะขัดใจจุดนี้บ้าง ส่วนสีด้านนั้นอาจจะไม่ถูกใจรสนิยมหลายคนที่ชอบความเงางาม ก็สามารถเลือกสีเฉดอื่นได้ ซึ่งอันนี้แล้วแต่รสนิยมส่วนตัว

ภายในเพิ่ม 3 อย่าง

ภายใน MG4 Xpower ยังมีการเพิ่มวัสดุเบาะหนังอัลคันทาร่า ที่เป็นหนังผิวด้าน ให้การยึดเกาะกับตัวคนที่ดี พร้อมมีด้ายสีส้มเย็บตะเข็บมาให้ตัดกัน นับว่าเข้าธีมความสปอร์ตได้อย่างแตกต่าง ไม่ซ้ำกับรถสปอร์ตอื่น ๆ ที่เคยพบมา ส่วนแป้นเหยียบแบบสปอร์ตนั้นช่วยเสริมภาพลักษณ์ให้ดูดีขึ้นอย่างชัดเจน ที่ชอบมากสุดคือ การเพิ่มมือจับเพดานหลังคามาให้ 3 จุด(ยกเว้นคนขับ) จากเดิมไม่มีให้ในรุ่นปกติ

จุดสังเกตคือ ยังไม่มีไฟส่องห้องโดยสารด้านหลัง และยังไม่มีช่องแอร์หลังนะครับ ใครที่ใช้รถแบบมีผู้โดยสารเบาะหลังเป็นประจำ อาจจะต้องพิจารณาให้ดี

ลองยัดโค้ง

การลองขับ MG4 Xpower ทำในสนามพีระฯ ซึ่งมีการกั้นกรวยจำลองสถานการณ์ที่ต้องรีดสมรรถนะรถอย่างสุดขีด เราใช้โหมดสปอร์ต บังคับให้ขับเคลื่อน 4 ล้อช่วย มีการเปิดแอร์ตลอดทาง มีคนนั่งด้วยรวมผู้ขับเป็นจำนวน 3 คน โดยเริ่มปรับความคุ้นเคยกับรถ ลองออกตัวกะทันหัน ยัดเข้าโค้งหักศอกระดับใกล้เคียงกับโค้งกลับรถในชีวิตจริง ผ่านไปด้วยความเร็ว 60-70 กม./ชม. 

เข้าโค้งอย่างรถแข่ง

หลังจากปรับตัวกับแรงจีที่จรึงร่างติดเบาะแล้ว เรายังได้ปรับตัวให้ชินกับการแก้อาการของรถด้วยระบบขับเคลื่อนล้อหลัง ช่วยปั่นล้อให้ท้ายกวาดออกมาหักลบกับแรงไถลด้านหน้าอย่างทันท่วงที โดยที่คนขับไม่ต้องหักพวงมาลัยแก้อาการรถ หรือเบรคช่วยในโค้ง ขอแค่คนขับใช้ความเร็วที่ถูกต้องตั้งแต่แรก เข้าโค้งลงไปโดยไม่ต้องเร่งเพิ่ม ไม่ต้องเบรคช่วย ประคองพวงมาลัยคาไว้ แล้วรถมันจะจิกไปตามเส้นทางอย่างพอดีด้วยความเร็วในระดับเหลือเชื่อ สร้างแรงจีด้านข้างอย่างกับนั่งรถแข่ง

ไม่ต้องแก้พวงมาลัย

หากเราลองจุ่มคันเร่งเกินเบอร์แล้ว รถจะมีอาการท้ายปัดมากกว่าหน้าไถล หรือเรียกภาษาเทคนิคว่าโอเวอร์สเตียร์ โดยรถจะค่อยๆท้ายออกอย่างนิ่มนวล ไม่สะบัดจนน่าตกใจ หากคนขับถอนคันเร่งขณะท้ายเริ่มออก อาการรถก็จะเหวี่ยงกลับเข้าที่ได้เอง โดยที่เราไม่ต้องแก้อาการพวงมาลัยเลย นับว่าเป็นการทำงานที่ผสมผสานระหว่างโช้คอัพใหม่ ยางใหม่ สปริงหนึบ และกันโคลงเหนียวแน่น รวมกับพื้นฐานรถศุนย์ถ่วงต่ำ ออกมาเป็นผลลัพธ์ที่น่าทึ่งมาก 

ขับอย่างดุดัน

การขับอย่างดุเดือดแบบรถแข่งพร้อมคนนั่ง 3 คนอย่างนี้ เป็นการทดสอบระบบเบรคไปในตัวว่าสามารถแบกน้ำหนักตันครึ่ง แล้วหยุดรถด้วยแรงบิดแบบมหาศาลได้ดีแค่ไหน ซึ่งมันยังให้การหยุดที่มั่นคงไม่เป๋ปัด แต่ระยะเบรคอาจจะไม่ได้สั้นกระชับฉับไวดั่งที่คาดหวังไว้ ซึ่งตอนแรกทีมงานเทียบความแรงกับรถสปอร์ตแล้ว จึงคาดหวังระบบเบรคแบบรถสปอร์ตตามไปด้วย

รีดเค้นแบบนักแข่ง

อย่างไรก็ตาม การขับในสนาม คือการใช้งานรถแบบรีดเค้นสมรรถนะอย่างสุดขีดเป็นเวลานาน ซึ่งในชีวิตจริงไม่ควรทำบ่อย ๆ เพราะต้องเผื่อระยะเบรคที่แน่นอนและมั่นใจ ซึ่งสภาพการจราจรนั้นคาดเดาไม่ได้แบบในสนามแข่ง ดังนั้นการใช้งานกำลัง 435 แรงม้า จึงต้องใช้ระยะเบรคบนถนนหลวงเพิ่มกว่าปกติด้วย หากคุณเคยขับรถเก๋งบ้านๆ มาก่อนอาจจะตกใจไม่น้อย แตสำหรับนักขับที่ชื่นชอบความเร็วแล้ว นี่คือรถสำหรับคุณอย่างแท้จริง

MG4 Xpower คาดการณ์ราคาอยู่ที่ 1.1X รอการเปิดค่าตัวจริงที่งานบางกอกมอเตอร์โชว์ วันที่ 25 มีนาคมนี้

อ่านเพิ่มเติม : เปิดสเปค MG4 XPower โฉมไทย ชนะใจด้วยพลัง 435 แรงม้า เพิ่มออพชั่นหลาอย่าง คาดราคา 1.1 ล้านบาท