Ferrari 488 Pista Spider

การออกแบบภายนอก

การออกแบบภายนอกของ 488 Pista ถ้าถามว่ามีตรงไหนที่ดูเหมือนกับ 488 ตัวธรรมดาเป๊ะๆบ้างคงจะมีแค่ไฟหน้าทรงยาวที่เป็นการนำไฟหน้า 458 รุ่นพี่มาเกลาใหม่ กระจกมองข้าง ไฟท้ายทรงโดนัทรมดำ และไฟเบรกดวงที่ 3 บริเวณตรงกลางดิฟฟิวเซอร์หลังด้านล่างสไตล์รถ F1 เท่านั้น นอกนั้นมีการปรับปรุงใหม่หมด บริเวณช่องดักลมด้านหน้ามีการติดตั้งครีบดักลมคาร์บอนเพิ่มขึ้นบริเวณลิ้นกันชนหน้าและขอบช่องดักลม ชายสเกิร์ตข้างรถและช่องดักลมเข้าเครื่องบริเวณบนซุ้มล้อหลังก็เป็นคาร์บอนเช่นกัน มีโลโก้โล่สีเหลืองพร้อมม้าลำพอง Scuderia Ferrari แปะอยู่ด้านบนหลังซุ้มล้อหน้า ด้านท้ายมาพร้อมดิฟฟิวเซอร์คาร์บอนขนาดใหญ่ ในส่วนกันชนท้ายมีการยกสูงขึ้นกว่าตัวปกติและมีช่องให้ท่อไอเสียออก 2 ท่อบริเวณข้างป้ายทะเบียน บริเวณท้ายรถส่วนที่เป็นตราโลโก้ม้าลำพองมีการตกแต่งด้วยทริมคาร์บอนสีดำยาวพาดจากไฟท้ายด้านหนึ่งไปอีกด้าน ตัวถังมีลายกราฟฟิกสีน้ำเงินขนาดใหญ่คาดตั้งแต่ด้านหน้าสุดไปถึงบริเวณสุดห้องเครื่องด้านหลัง ซึ่งห้องเครื่องของตัว Spider จะไม่ได้เป็นกระจกใสให้มองเห็นเครื่องยนต์ได้แบบตัวหลังคาแข็ง ล้อแม็กเป็นล้อ Forged แบบทูโทนปัดเงาลายดาวขนาด 20 นิ้ว ซึ่งยังมีออฟชั่นล้อคาร์บอนราคาชวนหัวลุกให้เลือกเป็นออฟชั่นด้วยเพื่อความเบาของตัวรถและเงินในบัญชี

มิติตัวรถ

การออกแบบภายใน

ภายในมีการวางเลย์เอาท์ของอุปกรณ์ต่างๆเหมือน 488 ทั่วไป โดยมีการออกแบบให้คอนโซลกลางเอียงเข้าหาคนขับ แต่วัสดุที่ใช้ภายในห้องโดยสารเน้นไล่เบาเป็นหลัก พรมพื้นรถกลายเป็นสิ่งไม่จำเป็นสำหรับรุ่นนี้ คุณจะเห็นพื้นถูกปูด้วยเพลทอลูมิเนียมแทน พวงมาลัยทรงเดียวกับ 488 คือพวงมาลัย 3 ก้านท้ายตัดแต่ตรงวัสดุส่วนโลหะเปลี่ยนไปใช้คาร์บอนแทน และมีไฟบอกการเปลี่ยนเกียร์ตรงตำแหน่ง 12 นาฬิกา มือจับประตูหายไปกลายเป็นเชือกคล้องไว้ดึงแทน โดยทำจากหนังให้อารมณ์แบบรถแข่งและไล่เบาไปในตัว คอนโซลมีการใช้หนังและคาร์บอนในการตกแต่ง มีการปักชื่อรุ่นไว้บริเวณบนคอนโซลหน้าใกล้ช่องแอร์ฝั่งผู้โดยสาร เพื่อให้คนที่นั่งมาด้วยรู้ว่าคุณกำลังอยู่บนเฟอร์รารี่รุ่นที่ไม่ธรรมดา เบาะนั่งทรงบัคเก็ตซีทหนังสลับอาคันทาราพร้อมลายคาดเบาะสีขาวตรงกลาง ภายในให้บรรยากาศดูดุดันกว่า 488 ธรรมดาทั่วไป

เทคโนโลยีและสิ่งอำนวยความสะดวก

Ferrari 488 Pista เน้นการออกแบบเพื่อการขับเป็นหลัก เทคโนโลยีที่ใช้บนรถคันนี้เพื่อรองรับแรงม้าที่มากขึ้นโดยยังคงไดนามิกที่ดีของรถไว้ ประกอบไปด้วย ระบบรีดลมใต้ท้องรถเพื่อการจัดเรียงอากาศที่ดี สปอยเลอร์หลังแบบปรับมุมได้ขนาดใหญ่ขึ้น ระบบควบคุมรถให้สลิปในระดับที่คุมได้ (Side-Slip Angle Control System 6.0) ช่วงล่างแบบแปรผันโดยใช้ผงแม่เหล็กไฟฟ้า (Magnetorheological Suspension) เพื่อให้การปรับช่วงล่างเป็นไปด้วยความรวดเร็ว ระบบควบคุมไดนามิกของรถ (Ferrari Dynamic Enhancer) ที่สามารถปรับได้แม้กระทั่งแรงดันเบรกที่คาลิปเปอร์ซึ่งน่าจะเป็นรถรุ่นแรกของโลกที่ทำได้ สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกเฟอร์รารี่ก็ยังพอมีมาให้คุณบ้าง เช่นระบบวิทยุที่รองรับทั้ง FM และ AM รวมถึงต่อบลูทูธได้ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ 2 โซน ระบบเข้าออกรถแบบ Keyless Entry ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ ระบบอุ่นกระจกหน้าสำหรับละลายน้ำแข็งในเมืองหนาว ระบบแผนที่นำทาง และหลังคาประทุนแบบเปิดปิดด้วยไฟฟ้า ซึ่งก็ถือว่าเพียงพอแล้วสำหรับการใช้งานรถแบบนี้

ระบบความปลอดภัยเชิงปกป้อง (Passive safety)

• ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค (ABS)
• ระบบควบคุมการทรงตัว (ESC) 
• ถุงลมคู่หน้า / ด้านข้าง 

ระบบความปลอดภัยเชิงป้องกัน (Active safety)

• เซนเซอร์กะระยะช่วยจอดด้านหน้า และ ด้านหลัง (ParkAssist)

ขุมพลังและสมรรถนะ

รุ่นพิเศษทั้งทีขุมพลังที่ใช้ใน 488 Pista จะยังคงใช้เครื่องยนต์เบนซิน V8 เทอร์โบคู่ ขนาดความจุ 3.9 ลิตร ที่ได้รางวัลเครื่องยนต์ยอดเยี่ยมตั้งแต่ ปี 2016 จนถึงปีที่เปิดตัวคือ 2018 3 ปีซ้อนเลย แต่นี่เป็นเครื่องรุ่นที่ปรับปรุงมาจาก 488 ธรรมดาให้แรงยิ่งขึ้นไปอีก มาในรหัส F154CD ที่สามารถรีดแรงม้าได้ทั้งสิ้น 720 แรงม้า ที่ 8000 รอบ/นาที เรียกแรงบิดสูงสุดได้ 770 นิวตันเมตร ที่ 3000 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์คลัตช์คู่ 7 จังหวะ ถือว่าแรงม้าเพิ่มจาก 488 ธรรมดาถึง 50 ตัว แรงบิดเพิ่มขึ้น 10 นิวตันเมตร ส่วนสมรรถนะก็ทำได้อย่างน่าประทับใจมากด้วยสามารถทำอัตราเร่งจาก 0 – 100 กม./ชม. ได้ภายใน 2.85 วินาที และ 0 – 200 กม./ชม. ภายในแค่ 8.0 วินาทีเท่านั้น สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 340 กม./ชม. ถือว่าเร็วจนน่ากลัวสำหรับรถเปิดประทุนเลยทีเดียว ด้านอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยในสถานการณ์ต่างๆทำได้ที่ 7.8 กม./ลิตร และอัตราปล่อยไอเสียเฉลี่ยอยู่ที่ 289 กรัม/กม. ซึ่งในการใช้งานจริงถ้าคุณเผลอเหยียบแรงๆค่าที่ได้น่าจะเปลืองกว่านี้แน่นอน แต่ถ้าคุณได้ขับเฟอร์รารี่คงยากที่จะห้ามใจไหว

ประสบการณ์การขับขี่

นี่คือหนึ่งในรถเปิดประทุนที่เร็วอันดับต้นๆของโลก จากประโยคข้างต้นอาจจะทำให้ใครหลายคนคิดว่ารถมันต้องขับยากและพยศมากแน่ๆ แต่แท้จริงแล้วไม่ใช่ การควบคุมรถคันนี้เป็นไปได้อย่างเฉียบคมและแม่นยำ แน่นอนว่าถ้าคุณเป็นมือใหม่การเปิดระบบต่างๆที่รถให้มาจะทำให้คุณสามารถขับเจ้า Pista ได้อย่างปลอดภัยมากขึ้น สำหรับมือโปรที่อยากให้ท้ายออกง่ายมากขึ้น คุณสามารถเลือกระดับความช่วยเหลือที่รถจะเข้ามายุ่งกับการบังคับรถของคุณ หรือเลือกปิดไปเลยถ้าคุณคือนักแข่งรถระดับโปรแล้ว เครื่องยนต์ตัวนี้พร้อมจะแผดเสียงไปทุกที่ที่มันเคลื่อนตัวผ่าน และพร้อมจะทะยานไปตามถนนด้วยความเร็วสูง การตอบสนองไม่ต่างจาก V8 NA ทั่วไปที่กระชากไปได้ไวกว่าด้วยซ้ำ อาการเทอร์โบแล็คไม่มีในรถคันนี้ เป็นประสบการณ์ขับขี่ที่วิเศษจริงๆ

ความสะดวกสบายในการโดยสาร

เบาะบัคเก็ตซีทหุ้มหนังตัดสลับกับอาคันทาราให้ความกระชับและผิวสัมผัสที่ดี มาพร้อมเข็มขัดนิรภัยแบบยึด 6 จุด ที่ยึดคุณไว้กับเบาะได้อย่างมั่นคงเวลาเกิดเหตุไม่คาดฝัน การใช้งานเช่นการปรับแอร์ทำได้ง่ายเพราะเป็นแบบบิดที่เอื้อมเข้าหาคนขับ หรือจะกดปุ่ม Auto ไว้ก็ได้สะดวกดี มีจอแสดงแผนที่เล็กๆข้างมาตรวัดรอบ อาจจะดูยากหน่อยในตอนแรกแต่ถ้าชินแล้วก็ไม่มีปัญหา เพียงแต่คนนั่งจะช่วยเราดูแผนที่ไม่ได้เท่านั้นเอง เครื่องเสียงก็พอฟังได้แต่นั่งบนเฟอร์รารี่ทั้งทีคุณคงอยากฟังเสียงเครื่องยนต์คำรามมากกว่าฟังวิทยุแน่ๆ

Ferrari 488 Pista Spider คือรถที่แสดงให้เห็นว่าแม้ว่าเครื่องยนต์จะมีการติดตั้งเทอร์โบแล้ว แต่เสียงคำรามจะยังคงกระหึ่มให้ชื่นใจเหมือนเดิม แถมมาพร้อมพละกำลังที่เพิ่มขึ้นมหาศาลและการปล่อยมลพิษที่น้อยลง ซึ่งในรุ่น Spider นี่เองที่จะให้คุณเปิดหลังคารับฟังเสียงเครื่องได้อย่างเต็มที่ และการปรับปรุงชิ้นส่วนตัวถังหลายส่วนก็ทำให้รถคันนี้มีอัตราส่วนแรงม้าต่อน้ำหนักที่มากขึ้นไปอีก เป็นรถแข่งในคราบรถเปิดประทุนที่แท้จริง ไม่มีอะไรต้องเสียใจในการเป็นเจ้าของรถคันนี้ซึ่งเป็นรุ่นพิเศษที่ราคาจะแข็งไปอีกหลายสิบปีแน่นอน