พาส่องงาน Moto Expo 2021 สรุปแล้วมีรถมอเตอร์ไซค์อะไรที่น่าสนใจกันบ้างในงานปีนี้!

พาส่องงาน Moto Expo 2021 สรุปแล้วมีรถมอเตอร์ไซค์อะไรที่น่าสนใจกันบ้างในงานปีนี้!

เริ่มต้นขึ้นแล้วสำหรับงานมหกรรมยานยนต์สุดยิ่งใหญ่ส่งท้ายปีอย่าง Moto Expo 2021 และแน่นอนว่าในปีนี้บรรดารถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ที่หลายคนรอคอยก็มีทั้งที่เข้ามาตามคาดการณ์ และก็รุ่นที่ยังต้องรอต่อไป

โดยในปีนี้ค่ายรถมอเตอร์ไซค์ที่ตบเท้าเข้าร่วมงานในครั้งนี้นั้นมีมากถึง 12 ค่ายที่แน่นอนว่าแต่ละค่ายนั้นต่างงัดไม้เด็ดเพื่อมาดูดทรัพย์ออกจากกระเป๋าไบค์เกอร์ในช่วงปลายแบบนี้ชนิดที่เรียกได้ว่าโปรโมชั่นดีขนาดนี้ไม่ซื้อได้ไง ว่าแล้วเราไปชมกันเลยดีกว่าว่าภายในงานปีนี้แต่ละค่ายผู้ผลิตจะขนรถอะไรที่น่าสนใจมาให้เราได้ใช้เงินช่วงสิ้นปีนี้กันบ้าง ไปชมกันเลย

1.Honda

มาเริ่มกันที่ค่ายแรกกับค่ายปีกนกอย่าง Honda ที่ในปีนี้ได้เปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ถึง 2 รุ่นในงานMotor Expo 2021 นำโดย All New NC750X แอดเวนเจอร์ทัวร์ริ่งดีไซน์ใหม่ทั้งคัน มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัยด้วยราคา 365,000 บาท 

และ All New CB1000R Black Edition เน็คเก็ตสปอร์ตสายเข้ม สไตล์นีโอสปอร์ตคาเฟ่ ที่ให้ทั้งความดุดัน และสมรรถนะสุดเร้าใจด้วยราคา 599,000 บาท นอกจากบิ๊กไบค์รุ่นใหม่ล่าสุดแล้ว ทาง Honda ยังได้ยกทัพบิ๊กไบค์ทุกรุ่นมาให้ทุกคนได้ลองสัมผัส

2.Harley Davidson

มาต่อกันด้วยค่ายพญาอินทรี Harley Davidson ที่แน่นอนว่ารถไฮไลท์ในปีนี้จะเป็นรุ่นไหนไปไม่ได้นอกจากเจ้า Harley Davidson Sportster S รถมอเตอร์ไซค์ตระกูลสปอร์ตโฉมใหม่ล่าสุด ที่มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ Revolution™ Max 1250 และเทคโนโลยีอันล้ำสมัย ซึ่งออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์แห่งการขับขี่อันเหนือระดับด้วยราคา 709,000 บาท 

นอกจากรถสปอร์ตสายซิ่งแล้วก็ยังมีรถแอดเวนเจอร์ทัวริ่งอย่าง Harley Davidson Pan America 1250 ที่อัดแน่นไปด้วยฟีเจอร์สุดพรีเมี่ยม พร้อมสมรรถนะอันโดดเด่น และเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยด้วยราคาเริ่มต้นที่ 952,000 บาทเท่านั้น

และนอกจากรถ 2 รุ่นไฮไลท์แล้วทาง Harley Davidson ยังได้ขนเอากองทัพรถจากทางค่ายมาอีกมากมายไม่ว่าจะเป็น Sportster , Softail , Fat Boy 114 และ Low Rider S นอกจากรถมอเตอร์ไซค์แล้วภายในบูธยังมีโซนพิเศษที่จัดแสดงสินค้าประเภทอื่น ๆ ของ Harley Davidson เพื่อให้ผู้ร่วมงานได้เลือกซื้อกันอีกมากมาย

3. Triumph

ในปีนี้ทางฝั่งของค่ายผู้ดีอังกฤษอย่าง Triumph นั้นต้องบอกเลยว่าได้ขนเอากองทัพรถรุ่นใหม่มาเปิดตัวภายในงานครั้งนี้กันถึง 12 รุ่น ครบทุกสไตล์ไม่ว่าจะเป็น Triumph Tiger Sport 660 รถมอเตอร์ไซค์แอดเวนเจอร์สปอร์ตขนาดกลางขุมกำลัง 3 สูบ ขนาด 660 ซี.ซี. ที่ทุกคนรอคอยในราคา 359,000 บาทเท่านั้น

ต่อกันด้วยรถเน็คเก็ตไบค์สุดทรงพลังอย่าง Triumph Speed Triple 1200 RS ที่มาพร้อมขุมพลัง 1,160ซี.ซี. กับขุมพลังแรงม้า 180 ตัว ด้วยราคา 699,000 บาท

และโรดสเตอร์ไบค์สุดเท่สไตล์ Neo Café อย่าง Triumph Speed Triple 1200 RR ที่มาพร้อมราคา 799,000 บาท

ยังไม่หมดเพียงเท่านี้เพราะทาง Triumph ประเทศไทยยังได้ขนเอารถอย่าง Triumph Bonneville Gold Line Edition ที่จะถูกวางจำหน่ายเพียงแค่ 1 ปีเท่านั้นทั้ง 8 รุ่น ซึ่งรถทุกคันจะโดดเด่นด้วยความวิจิตรของเส้นขอบสีทองที่วาดด้วยมืออย่างประณีต พร้อมโลโก้ Gold Line อันหรูหรา ซึ่งมีราคาเริ่มต้นที่ 482,000 บาท

4.Kawasaki

มาต่อกันด้วยค่ายยักษ์เขียว Kawasaki ที่ในปีนี้ได้ขนเอารถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่มาเปิดตัวกันถึง 3 รุ่นด้วยกัน โดยเริ่มที่เรโทรสปอร์ตเน็คเก็ตพิกัดกลางอย่าง Kawasaki Z650RS ที่เหมาะสำหรับผู้ใช้ในทุกระดับ ด้วยรูปลักษณ์อันสวยงามเหนือกาลเวลาที่สืบทอดมาจากพี่ใหญ่อย่าง Z900RS ด้วยราคา 319,400 บาท

ต่อมากับสปอร์ตไบค์เรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง 2022 Kawasaki Ninja ZX-10R ที่ได้รับการพัฒนา และปรับปรุงโครงสร้างแชสซีที่ผ่านการพัฒนาจากสนามแข่ง เพิ่มประสิทธิภาพในการลดแรงต้านอากาศด้วยการออกแบบรูปทรงใหม่ตามหลักอากาศพลศาสตร์ที่ดียิ่งขึ้นด้วยราคา 859,000 บาท

สุดท้ายกับไฮไลท์ภายในบูธ Kawasaki ของปีนี้ก็คือ Kawasaki Z900 SE ACC ที่มาพร้อมระบบเบรก Brembo ใหม่ พร้อมระบบกันสะเทือนหน้าเกรดสูงขึ้น รวมถึงโช้คหลัง Öhlins ซึ่งทำให้การควบคุมตัวรถสามารถทำได้ดีขึ้น ขี่ง่ายขึ้น และยังเสริมให้สไตล์ของตัวรถดูโดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยราคาเปิดตัวที่ 512,000บาท

5.Yamaha

ปีนี้ภายในบูธอย่าง Yamaha ไม่มีรถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่มาเปิดตัวอย่างที่หลายคนคาดหวังเอาไว้ แต่ทาง Yamaha ก็ได้ขนเอากองทัพรถมอเตอร์ไซค์มาครบทุกรุ่น ทั้งรถมอเตอร์ไซค์เล็ก รวมไปจนถึงรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ พร้อมโปรโมชั่นสุดพิเศษมากมายที่ครอบคลุมรถมอเตอร์ไซค์ทุกรุ่นของทาง Yamaha ภายในงาน Motor Expo ครั้งนี้

6.Vroom Thailand

ในปีนี้ Vroom Thailand ผู้นำเข้ารถมอเตอร์ไซค์ระดับโลกอย่าง KTM , HUSQVARNA และ BAJAJ ได้ขนเอากองทัพรถมอเตอร์ไซค์มาร่วมงานในครั้งนี้หลากหลายรุ่น หลากหลายสไตล์ให้ได้เลือกซื้อ 

โดยเริ่มจากฝั่งค่ายส้ม KTM ที่ไฮไลท์พิเศษในครั้งนี้คือรถ KTM 350 EXC-F SIX DAYS และ KTM 300 EXC TPI SIX DAYS ที่กลับมาอีกครั้งในฐานะราชาแห่งทางดิน และทางดำซึ่งถูกพัฒนาเทคโนโลยี และประสิทธิภาพในการควบคุม , ความสมดุล และความคล่องตัวอย่างสูงสุดมาผสมผสานกับความแรง และความเกรี้ยวกราด

นอกจากนี้ยังมีรถสปอร์ตไบค์รุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง 2022 KTM RC390 New Generation มาโชว์ตัวกันภายในบูธอีกด้วย แต่รถรุ่นใหม่จาก KTM ทั้ง 3 รุ่นที่กล่าวมาสามารถสั่งจองได้แล้ว แต่ยังไม่มีการเปิดราคาแต่อย่างใด

ในส่วนของ Husqvarna ในปีนี้นำรถมาโชว์ตัวด้วยกัน 2 รุ่นก็คือ Husqvarna Svartpilen 401 รถสไตล์ Modern   Classic ทรง Scrambler และ Husqvarna Vitpilen 401 ทรง Café Racer ที่มีคาแรคเตอร์ยูนิคที่ชัดเจนคงคอนเซ็ปต์ Simple and Progressive ที่สะท้อนตัวตนของผู้ขับขี่ออกมาได้อย่างที่สุด

ส่วนแบรนด์สุดท้ายอย่าง Bajaj นั้นก็ได้ขนเอารถมอเตอร์ไซค์ของทางค่ายมาครบทุกรุ่น โดยมีตัวชูโรงเป็นรถเน็คเก็ตไบค์ที่ได้ทำการเปิดตัวไปสด ๆ ร้อน ๆ ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมาอย่าง Bajaj Dominar 250 นั่นเอง ซึ่งสำหรับในปีนี้นั้นทาง Vroom ยังได้จัดโปรโมชั่นเด็ด ๆ ไว้ให้เช่นเดิม

7.Suzuki

สำหรับในปีนี้ค่ายคนบ้าอย่าง Suzuki นั้นได้มาพร้อมกับ 2 โมเดลใหม่โดยเริ่มกันด้วยรุ่นใหญ่อย่าง New Suzuki V-Strom 650XT รถแอดเวนเจอร์ไบค์ที่มาพร้อม 4 สีใหม่ที่พร้อมจะพาคุณลุยไปทุกที่ ซึ่งได้รับการการันตีถึงสมรรถนะ และคุณภาพที่ยอดเยี่ยมมาแล้วจากผู้ใช้ทั่วโลกด้วยราคา 379,000 บาท 

ต่อมาอีก 1 รุ่นเล็กกับสกู๊ตเตอร์สายลุยอย่าง All New Suzuki Nex Crossover รุ่นใหม่ล่าสุด เปิดตัวครั้งแรกภายในงาน ที่มาพร้อมรูปทรงที่เล็กกะทัดรัด ขับขี่ง่ายสะดวกสบาย สนุกทุกการขับขี่ พร้อมจะพาลุยไปได้อย่างมั่นใจในทุกเส้นทางกับราคาวางจำหน่าย 49,900 บาท 

ในส่วนของรถสกู๊ตเตอร์สุดน่ารักอย่าง Suzuki Saluto 125 ที่หลายคนรอคอยนั้นมีมาโชว์ตัวจริงกันภายในบูธของทาง Suzuki ครั้งนี้ด้วย แต่เอามาแค่โชว์เท่านั้นไม่มีการวางจำหน่าย หรือเปิดให้จองแต่อย่างใด

8.H SEM Motor

สำหรับแบรนด์รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าอย่าง H SEM Motor นั้นปีนี้ได้ชูจุดขายไปที่การบริการเช่ารถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าของทางค่ายที่มีให้เลือกเช่ากันถึง 3 รุ่นด้วยกันคือ H SEM Mobila G , H SEM Mobila และ H SEM Wings ที่มาพร้อมค่าเช่าเพียงวันละ 100 กว่าบาทเท่านั้น 

นอกจากโปรโมชั่นการเช่ารถแล้วทาง H SEM ยังได้ขนเอารถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าของทางค่ายมาให้ได้เลือกซื้อกันอีกมากมายหลายรุ่น พร้อมโปรโมชั่นเด็ด ๆ ภายในงานครั้งนี้อีกเพียบ

9.Ducati

มาต่อกันด้วยค่ายอิตาลี Ducati ที่ในปีนี้ขน 3 โมเดลใหม่จากงาน Ducati World Premiere 2022 มาเปิดตัวกันภายในงานครั้งนี้ โดยนำมาด้วยรถสปอร์ตยอดนิยมอย่าง Ducati Panigale V2 Troy bayliss ตัวฉลองตำนานความสำเร็จของนักแข่งชื่อดัง ทรอย เบย์ลิสส์ ที่มาพร้อมลวดลายเดียวกันกับ Ducati 996R ที่คว้าชัยในครั้งนั้น

แถมเพิ่มความพิเศษให้กับสมรรถนะของรถไปอีกขั้น ด้วยโช้คอัพ Ohlins ทั้งหน้า และหลัง พิเศษด้วยแผงขออลูมิเนียมสุดหรู และยังคงความมีคุณค่าด้วยการตอกเลข Runing  Numbered แบบยิงเลเซอร์ ด้วยราคา 885,000 บาท

ต่อมากับจอมพลังอย่าง Ducati Diavel 1260 Black & Steel รุ่นพิเศษที่เพิ่มเติมความโดดเด่นด้วยเฟรมสีเหลือง พาร์ทสีเหลือง และคาดลายกราฟฟิกสีเหลือง เป็นการออกแบบที่ได้แรงบันดาลใจจากคอนเซปต์ Diavel Materico ในราคาเพียง 1,089,000 บาท

และปิดท้ายรถไฮไลท์ประจำบูธปีนี้ด้วย Ducati Scrambler 1100 Tribute PRO ที่ผลิตขึ้นเป็นรุ่นพิเศษเพื่อฉลองครบรอบ 50 ปี นับตั้งแต่ Scrambler รุ่นแรกเริ่มปรากฏในปี 1971 พร้อมสีพิเศษอย่าง Giallo Orca กับราคา 575,000 บาท

ควงคู่มากับ Ducati Scrambler Urban Motard กับดีไซน์ทันสมัย แหวกแนว ด้วยคอนเซบป์ City Rebel กล้าที่จะยืนหยัดบอกถึงความเป็นตัวตนที่ไม่เหมือนใคร พร้อมลวดลายกราฟฟิตี้สีดำบนตัวถังที่ได้รับแรงบันดาลใจจากศิลปินกราฟฟิตี้ระดับโลก ด้วยราคา 464,000 บาท

นอกจากนี้ทาง Ducati ยังได้ขนเอารถบิ๊กไบค์ของทางค่ายมาครบทุกโมเดลเช่นเคยภายในงานครั้งนี้ พร้อมโปรโมชั่นส่งท้ายปีสุดเด็ดดวงอีกมากมาย

10.Royal Enfield

สำหรับค่ายอย่าง Royal Enfield ในปีนี้ได้ขนเอาโมเดลใหม่ล่าสุดอย่าง Royal Enfield Classic 350 ที่ได้ทำการเปิดตัวพร้อมราคาวางจำหน่ายในแต่ละรุ่นไปเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา นำมาโชว์ตัวภายในงานให้ทุกคนได้สัมผัสคันจริงกันแบบครบทุกรุ่น

นอกจาก Royal Enfield Classic 350 รุ่นใหม่แล้วภายในบูธก็ยังได้มีรถจากทาง Royal Enfield มาร่วมจัดแสดงอีกมากมาย รวมไปถึงอุปกรณ์ตกแต่ง และชุดสำหรับขับขี่ เรียกได้ว่ามาครบพร้อมละลายทรัพย์ไบค์เกอร์กันเช่นเคย

11. BMW

สำหรับค่ายรถเยอรมันอย่าง BMW ภายในงานปีนี้ได้ชูโรงมาด้วย BMW R 18 First Edition มอเตอร์ไซค์ทัวริ่งครูสเซอร์เหนือกาลเวลาที่มาพร้อม Boxer ขนาดใหญ่ 1,802 ซี.ซี. ด้วยราคา 1,150,000 บาท

ต่อมากับ BMW R nineT Pure มอเตอร์ไซค์โรดสเตอร์คลาสสิก สัญลักษณ์ของจิตวิญญาณอิสระซึ่งแสดงถึงปรัชญา Make Life a Ride ของ BMW Motorrad อย่างลงตัวด้วยราคา 739,000 บาท

นอกจากนี้ภายในบูธของทาง BMW Motorrad ในปีนี้ยังได้ขนเอารถมอเตอร์ไซค์ในรุ่นอื่น ๆ มาจัดแสดงอีกมากมายครบทุกรุ่น พร้อมโปรโมชั่นสุดพิเศษภายในงานที่ทาง BMW ตั้งใจมอบให้กับลูกค้า

โดยงาน Motor Expo ครั้งที่ 38 ในครั้งนี้จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-12 ธันวาคม 2564 นี้ ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี หากไบค์เกอร์คนไหนกำลังเล็งรถรุ่นไหนอยู่ก็สามารถไปชมกันจริงกันได้ภายในงาน ซึ่งงานนี้เรารับรองว่าเป็นโปรโมชั่นส่งท้ายปีที่พิเศษสุด ๆ เลยก็ว่าได้ สำหรับผู้ที่กำลังมองหารถมอเตอร์ไซค์คู่ใจคันใหม่