BMW R 1300 GS ดีกว่า BMW R 1250 GS ตรงไหนเราสรุปมาให้คุณแล้ว!

BMW R 1300 GS ดีกว่า BMW R 1250 GS ตรงไหนบ้างเราสรุปมาให้คุณแล้ว!

ขอย้อนเวลากลับไปในช่วงที่ BMW R 1250 GS ได้ถูกเปิดตัวขึ้นมา และเราเองทาง AutoFun Thailand ก็ได้เข้าร่วมทดสอบในครั้งนั้นด้วย ซึ่งหลังจากที่เราได้สัมผัสสมรรถนะของเจ้า BMW R 1250 GS ในตอนนั้นมันมีคำถามเดียวที่เกิดขึ้นในหัวเราก็คือแล้วทาง BMW Motorrad จะพัฒนารถรุ่นนี้ต่อไปอย่างไรได้อีกในเมื่อมันเป็นรถที่เพียบพร้อมไปทุกด้านขนาดนี้

และแล้ววันนี้การมาถึงของ BMW R 1300 GS ก็ได้ให้คำตอบนั้นแก่เราแล้ว ซึ่งโจทย์เพียงข้อเดียวของทาง BMW Motorrad ที่ได้พัฒนาเจ้า BMW R 1300 GS คันนี้ขึ้นมาก็คือมันต้องเป็นรถมอเตอร์ไซค์ที่ดีกว่า BMW R 1250 GS ในทุกด้าน

• จุดเด่นที่ BMW R 1300 GS เหนือกว่า BMW R 1250 GS
• ความรู้สึกของเราหลังจากได้ทดสอบขับขี่ BMW R 1300 GS

จุดเด่นที่ BMW R 1300 GS เหนือกว่า BMW R 1250 GS

1.ในยุคก่อนรถทัวริ่งไบค์สำหรับเดินทางไกลมักยึดการออกแบบด้วยหลักการที่ว่ายิ่งใหญ่โตยิ่งทำให้ขับขี่เดินทางไกลได้สะดวกสบาย นั่นจึงทำให้เราได้เห็นรถทัวริ่งไบค์พิกัด 1,000 ซี.ซี. มากมายมาพร้อมกับรูปลักษณ์ภายนอกที่ใหญ่โต และดูบึกบึน แต่กลับกันในปีนี้ทาง BMW เห็นว่าเราควรหยุดในเรื่องของความใหญ่โตไว้เพียงเท่านี้ แล้วได้ทำการพัฒนารูปร่างของตัวรถให้มีความกระชับ ปราดเปรียว และดูคล่องตัวมากยิ่งขึ้นแทนอย่างที่เราได้เห็นงานออกแบบสุดล้ำใน BMW R 1300 GS นั่นเอง

2.น้ำหนักของตัวรถที่ลดลงไปกว่า 12 กิโลกรัม ซึ่งแค่เพียงในส่วนของเครื่องยนต์เพียงอย่างเดียว BMW R 1300 GS ก็มีน้ำหนักที่เบากว่าเครื่องยนต์ของ BMW R 1250 GS ไปแล้วกว่า 6.5 กิโลกรัม และเมื่อรวมกับอุปกรณ์ชิ้นอื่น ๆ อย่างชุดล้อ หรือตัวเฟรมแปลท้ายที่เป็นอะลูมิเนียมทั้งชิ้นแล้วจึงทำให้น้ำหนักของ BMW R 1300 GS เบาลงยิ่งกว่าอย่างเห็นได้ชัดเจน

3.ช่วงล่างใหม่ที่ได้รับการพัฒนาให้ดูดซับแรงกระแทก และบังคับเลี้ยวได้อย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น ซึ่งด้านหน้ายังคงมาพร้อมกับโช้คอัพแบบ 3 ขาที่เราคุณเคย Telelever แต่ในครั้งนี้มันได้กลับมาพร้อมชื่อที่มีคำว่า Evo อยู่ด้านหน้า ซึ่งเช่นเดียวกับโช้คอัพด้านหลังเองก็เช่นกันที่มาพร้อมชื่อ Evo Paralever ซึ่งมันเป็นชุดระบบกันสะเทือนที่เรากล้าพูดได้เลยว่ามันดีที่สุดในตอนนี้เลยก็ว่าได้จากที่เราได้สัมผัสมา

4.โช้คอัพไฟฟ้าปรับความสูงอัตโนมัติซึ่งจะช่วยปรับระยะความสูงของเบาะให้คุณแบบอัตโนมัติตั้งแต่ระยะความสูงเบาะที่ 820-850 มม. โดยที่เมื่อคุณขับขี่รถที่ความเร็วต่ำกว่า 25 กม./ชม. ตัวเบาะจะถูกปรับให้ต่ำลงมาที่ 820 มม. แต่เมื่อคุณขับขี่รถด้วยความเร็วที่มากกว่า 50 กม./ชม.ตัวรถจะเพิ่มความสูงของเบาะขึ้นเป็น 850 มม. ซึ่งระบบนี้จะช่วยลดปัญหาในเรื่องของการจอดติดไฟแดง หรือการจอดรถในขณะหยุดนิ่งสำหรับความสูงของคนเอเชียแบบเรา ๆ ได้เป็นอย่างดี

5.ขาตั้งคู่แบบไฟฟ้า เนื่องจาก BMW R 1300 GS มีน้ำหนักตัวรถเมื่อรวมของเหลวอยู่ที่ 237 กก. ดังนั้นเมื่อคุณต้องการวางขาตั้งคู่เพื่อให้ตัวรถมีความมั่นคงในการจอด หรือเพื่อทำการเซอร์วิสรถนั้นสำหรับไซต์เอเชียอย่างเราก็ถือว่าเป็นเรื่องที่หนักเอาการเลยทีเดียว ดังนั้นทาง BMW Motorrad จึงได้ทำการใส่ขาตั้งคู่ไฟฟ้ามาเพื่อช่วยผ่อนแรงในการยกรถขึ้นได้อย่างง่ายดายโดยการออกแรงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

6. ระบบเรดาร์ตรวจจับทั้งด้านหน้า และด้านหลังของตัวรถ ซึ่งเรดาร์ดังกล่าวจะทำงานร่วมกับระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่จะควบคุมให้ระยะรถของคุณมีระยะห่างที่ปลอดภัยจากรถด้านหน้า ซึ่งสามารถลด และเพิ่มความเร็วได้เองแบบอัตโนมัติโดยที่คุณไม่ต้องควบคุมคันเร่งแต่อย่างใด รวมไปถึงยังช่วยตรวจจับจุดบอดจากรถด้านหลังของคุณแล้วส่งสัญญาณเตือนมายังตัวกระจกมองข้างทั้ง 2 ด้านด้วยสัญลักษณ์สัญญาณไฟ

7.ระบบตรวจจับการชนด้านหน้า สำหรับระบบนี้จะทำงานต่อเมื่อคุณพุ่งเข้าหาวัตถุด้านหน้าด้วยความเร็วคงที่จนเกิดระยะที่อันตรายตัวรถจะทำการเบรกให้คุณแบบอัตโนมัติ ซึ่งแรงเบรกดังกล่าวจะอยู่บนความปลอดภัยไม่ส่งผลให้ผู้ขับขี่เสียการควบคุมตัวรถแต่อย่างใด เหมือนเป็นการเตือนหากคุณเผลอ หรือใจลอยขณะขับขี่ว่าคุณกำลังจะชนกับวัตถุด้านหน้าแล้วนะ

ความรู้สึกของเราหลังจากได้ทดสอบขับขี่ BMW R 1300 GS

สำหรับ BMW R 1300 GS ในตอนนี้เรากล้าพูดได้เลยว่ามันเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับสายทัวริ่ง ตัวรถสามารถขับขี่ใช้งานบนเส้นทางดำได้อย่างไร้ที่ติซึ่งทำออกมาได้ดีกว่า R 1250 GS ตัวเก่ามาก ตัวรถมีความนิ่งในย่านความเร็วสูง จะใช้งานเบรกภายในโค้ง หรือการบังคับเลี้ยวเข้าโค้งสามารถตอบสนองได้อย่างแม่นยำ และตัวรถไม่เสียอาการให้เห็นแต่อย่างใด

ส่วนการใช้งานในเส้นทางออฟโรดนั้นเรียกได้ว่าเพียงคุณเปิดโหมด Enduro จากที่คุณขี่ทางฝุ่น หรือเส้นทางออฟโรดไม่เก่งตัวรถจะทำให้คุณเก่งขึ้นมาได้ในทันทีเพราะระบบต่าง ๆ บนตัวรถนั้นจะช่วยเหลือคุณเยอะมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของระบบเบรก คันเร่ง แทร็คชั่นคอนโทรล ซึ่งทั้งหมดจะทำให้คุณขับขี่เจ้า BMW R 1300 GS คันผ่านอุปสรรคต่าง ๆ ไปได้อย่างง่ายดาย

โดยรวมแล้วเรามองว่า BMW R 1300 GS มีระบบการทำงานบนตัวรถที่ถูกออกแบบมาให้ช่วยเหลือผู้ขับขี่ที่เยอะมาก ๆ จนทำให้ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่ หรือมือเก๋าก็จะสามารถขับขี่รถคันนี้ได้อย่างสนุก มั่นใจ และปลอดภัยอย่างแน่นอน และที่สำคัญมันยังคงเป็นรถที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสะดวกสบายที่จะมอบให้แก่ผู้ขับขี่แบบเรา

แต่หากคุณอยากมัน อย่างซิ่ง อยากลุย BMW R 1300 GS คันนี้ก็พร้อมตอบสนองให้คุณได้เช่นกันกับเครื่องยนต์ที่ทรงพลังขึ้น น้ำหนักตัวรถที่เบาลง ช่วงล่างที่เทพขึ้น รวมไปถึงการบังคับเลี้ยว และการควบคุมทิศทางที่คล่องตัวมากยิ่งขึ้นนั่นทำให้ผู้ขับขี่ที่มีประสบการณ์สูงอยู่แล้วสามารถพาเจ้า BMW R 1300 GS ลุยไปได้ในทุกเส้นทางแบบสบาย ๆ อย่างแน่นอน 

อ่านเพิ่มเติม : 2024 BMW R 1300 GS ใหม่หมดตลอดทั้งคัน

อ่านเพิ่มเติม : BMW F 900 GS , F 900 GS Adventure และ F 800 GS เปิดตัวแล้ว

อ่านเพิ่มเติม : BMW M 1000 R และ R 1250 GS Trophy เปิดตัวแล้วอย่างเป็นทางการ