GWM Tank 300 HEV แทงค์ 300 ไฮบริด
- พร้อมเปิดตัวและราคา 28 กันยายนนี้
- มีข้อดีหลายข้อที่น่าสนใจเลือกไปใช้งาน
- แต่ก็มีหลายข้อที่ต้องพิจารณาไปพร้อมกัน
Tank 300 (แทงค์ 300) คือรถยนต์เอสยูวีรุ่นใหม่ล่าสุดที่จะเปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ภายใต้แบรนด์ TANK (แทงค์) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ในเครือ GWM (เกรทวอลล์มอเตอร์) และเป็นแบรนด์ที่ 3 ที่จะทำตลาดในภูมิภาคอาเซียน ต่อจากครอสโอเวอร์หลากรุ่นจาก Haval (ฮาวาล) และรถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ ORA (ออร่า) ที่เปิดตัวไปแล้วทั้งหมดในช่วงก่อนหน้านี้
หลายคนอาจจะติดตามข่าวของพี่ใหญ่อย่าง Tank 500 (แทงค์ 500) มาโดยตลอด และก็ถือเป็นเรื่องเซอร์ไพร์สเล็ก ๆ เมื่อทางค่ายตัดสินใจที่จะเปิดตัวและประกาศราคาจำหน่ายของรถทั้ง 2 รุ่นนี้พร้อมกันในช่วงปลายเดือนนี้ ซึ่งจะทำให้ลูกค้าสามารถเลือกได้ทันทีว่าอยากจะได้รถเอสยูวีไซส์ใหญ่ 7 ที่นั่ง หรืออยากจะได้สายลุยที่สร้างไวรัลจากการทดสอบมาแล้วหลายครั้งอย่างรุ่นเล็ก
เกรทวอลล์ได้เปิดให้สื่อมวลชนได้สัมผัสกับแทงค์ 300 ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นที่ผลิตในประเทศไทยเพื่อจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการครั้งแรก ซึ่งต้องบอกว่าเป็นรถยนต์ที่น่าสนใจในหลายจุด แต่แน่นอนว่าก็มีหลายเรื่องที่อาจจะต้องพิจารณาว่าโดนใจหรือไม่ ถูกใจหรือเปล่า รวมถึงรอลุ้นราคาจำหน่ายที่น่าจะอยู่ที่ระดับล้านกลาง ๆ ค่อนปลาย ว่าจะออกมาน่าสนใจมากเพียงใดในตลาด
เซกเมนต์นี้คู่แข่งรอรับน้องอยู่เพียบ ต้องวัดใจกับพี่แทงค์ว่าจะเอาไงแล้วล่ะ...
เราชอบอะไรบ้างในรถคันนี้
หนึ่ง รูปลักษณ์ที่แปลกตาและน่าใช้งาน
คงไม่สามารถปฏิเสธได้จริง ๆ ว่ารถคันนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรถเอสยูวีรุ่นใหญ่หลายรุ่น ทำให้ได้ภาพลักษณ์ของรถแบบ Boxy ที่เน้นความแข็งแกร่งและบึกบึนเป็นหลัก แต่ทำการติดตั้งออพชั่นที่ทันสมัยหลากหลายเข้าไป เช่น ชุดไฟหน้าแบบชาญฉลาด ประตูท้ายแบบเปิดสวิง แร็คหลังคาขนาดใหญ่ที่ดูใช้งานได้จริง กระจกตรงประตูนั้นกดลงได้จนสุด กาบบันไดด้านข้างมีขนาดพอเหมาะใช้งานได้จริง มาพร้อมการออกแบบที่ดูไม่น่าเบื่อ แม้ว่าตัวรถจะผ่านการใช้งานไปนานขนาดไหนก็ตาม
สอง ภายในหรูหราพรีเมียมเหนือกว่าภายนอก
ถ้าข้างนอกคอความคลาสสิคแบบเรโทรนิด ๆ เกรทวอลล์ก็เอาความหรูหราทั้งหมดมาใส่ไว้ที่ห้องโดยสารภายใน คอนโซลด้านหน้าออกแบบมาอย่างหรูหราอลังการ มีการใช้วัสดุและลวดลายกราฟฟิกที่โดดเด่น รู้สึกพรีเมียมทันทีที่มองเห็น พร้อมด้วยจอขนาด 10.2 นิ้วเชื่อมต่อกัน 2 จอ คันเกียร์ออกแบบมาอย่างสปอร์ต เบาะที่นั่งสีเทาทรงรับกับตัว พร้อมให้พวงมาลัยแบบมัลติฟังชั่นส์มาครบครัน ด้านหลังนั้นสามารถพับเบาะลงได้เรียบ เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการบรรทุกสัมภาระได้มากกว่า 1,600 ลิตร
สาม เครื่องยนต์เดียวกับรุ่นใหญ่ น่าจะแรงเอาเรื่อง
แทงค์ 300 นั้น มาพร้อมกับเครื่องยนต์ไฮบริดแบบเดียวกันกับรุ่นพี่อย่าง 500 โดยเป็นการทำงานร่วมกันของเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตรเทอร์โบ ที่ให้กำลังสูงสุดที่ 244 แรงม้า พร้อมด้วยแรงบิดสูงสุด 380 นิวตันเมตร แบบแฟลตทอร์คตั้งแต่รอบ 1,700 - 4,000 รอบต่อนาที เสริมกำลังด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุด 106 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 268 นิวตันเมตร ใช้เกียร์อัตโนมัติในการส่งกำลัง ผ่านระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบเรียลไทม์ (AWD) ที่สามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้ 7 โหมด ต้องมาดูว่าเซตดุขนาดไหนอีกที
สี่ ระบบช่วยเหลือด้านการขับขี่ที่ครบครัน
แม้จะเป็นรถเอสยูวีที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานสมบุกสมบันเป็นหลัก และให้ระบบที่เกี่ยวข้องกับสายลุยมาอย่างครบถ้วน ไปจนถึงระบบคุมความเร็วบนทางออฟโรดและระบบส่งภาพใต้ท้องรถ แต่แทงค์ 300 ก็มาพร้อมออพชั่นด้านการขับขี่ในเมืองที่ไม่เป็นรองใคร เรียกว่าระบบช่วยเหลืออะไรที่ให้มาในรถของเกรทวอลล์ ล้วนอยู่ในรถคันนี้ทั้งสิ้น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ เตือนชนพร้อมช่วยเบรคหน้า-หลัง ระบบดูแลจัดการรถให้อยู่ในเลน ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ ระบบช่วยถอยอัจฉริยะ ฯลฯ ครบจริง ๆ
ห้า เดาราคาท้าชนซี-เอสยูวีรุ่นท็อป
การทำรถยนต์ให้ออพชั่นที่ดีและน่าสนใจขนาดไหนก็ตาม หากไม่สามารถวางราคาจำหน่ายได้โดนใจผู้บริโภคก็น่าจะหมดประโยชน์ คาดการณ์ว่าราคาจำหน่ายของแทงค์ 300 นั้น น่าจะอยู่ที่ระดับใกล้เคียงกับบรรดาซี-เอสยูวีรุ่นท็อป ที่มีค่าตัวที่ระดับ 1.5-1.7 ล้านบาท ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงที่้แทงค์จะเข้ามาท้าชิงในเซกเมนต์สำหรับผู้ที่ต้องการรถยนต์สันทนาการสำหรับการใช้งานขาลุยเป็นหลัก แต่ยังสามารถเลือกใช้งานรถคันนี้ในชีวิตประจำวันได้บ้าง ซึ่งมารอลุ้นราคากันอีกครั้งช่วงสิ้นเดือนนี้
แล้วอะไรที่เราคิดว่าอาจจะต้องพิจารณาให้รอบคอบ
หนึ่ง การออกแบบที่อาจจะไม่สบายสำหรับการใช้งาน
ด้วยการออกแบบรูปทรงแบบกล่องของรถเอสยูวีแบบดั้งเดิม ทำให้มีลักษณะของตัวรถที่ตั้งปะทะกับลม ตั้งแต่กระจังหน้าไปจนถึงกระจกบังลม ที่แน่นอนว่าน่าจะส่งผลอย่างมากต่อเสียงลมที่จะปะทะเข้ากับตัวรถ ขณะที่ซุ้มล้อก็มีขนาดใหญ่ บันไดยกขึ้นสูงที่อาจจะยากต่อการใช้งาน โดยเฉพาะในส่วนของเด็กและผู้สูงอายุ ซึ่งหากใครที่คิดจะซื้อรถคันนี้ไปใช้งานในชีวิตประวันกับคนในครอบครัวก็อาจจะต้องพิจารณาให้รอบคอบ
สอง ยางออฟโรดจะใช้งานในเมืองได้จริงหรือไม่
แม้ว่าแทงค์ 300 จะมาพร้อมยางออลล์เทอร์เรนของ Continental ซึ่งเป็นยางที่ได้รับการยอมรับอย่างมากในเรื่องของการใช้งานบนเส้นทางออฟโรด แต่ด้วยลักษณะของดอกยางและลวดลายยาง ก็อาจจะไม่ได้ก่อให้เกิดความสะดวกสบายมากนักเมื่อนำมาใช้งานบนถนนหลวงในชีวิตประจำวัน ต้องมาดูกันในช่วงของการทดสอบอีกครั้ง ว่าเมื่อมีการขับขี่จริง ๆ ตัวยางออฟโรดที่ให้มานั้น จะส่งผลกับการใช้งานอย่างไรหรือไม่
สาม ออพชั่นบางอย่างก็ดูไม่สมเหตุสมผลอยู่นะ
จริงอยู่ที่หากมองในภาพรวมแล้ว ออพชั่นทั้งหมดของรถถือว่าครบครันสมบูรณ์แบบ แต่หากมาดูในรายละเอียดลงไป ก็ยังมีอะไรหลายอย่างที่แปลก ๆ อยู่ เช่น ซันรูฟที่ให้มาเล็ก ๆ แบบไม่ค่อยช่วยเหลืออะไรในการใช้งานจริง การบุหลังคาแบบแปลก ๆ ที่มีการตีโป่งที่กลางห้องโดยสาร เบาะพับได้นั้นก็ใช้งานยากอยู่ คือต้องพับในห้องโดยสารก่อนถึงจะพับได้เรียบ มีที่เหยียบสำหรับเก็บของจากด้านท้ายได้ แต่ก็สูงไปและไม่มีที่จับให้ด้วย
แต่ทั้งหมดก็เป็นการสังเกตคร่าว ๆ เท่านั้น รอไปทดสอบกันอีกทีค่อยมาคุยละเอียด ๆ ละกัน...
VDO Preview TANK 300 in Thailand