Toyota (โตโยต้า) เจ้าพ่ออุตสาหกรรมยานยนต์โลก สร้างความแตกตื่นให้กับวงการอุตสาหกรรมอีกครั้ง เมื่อพวกเขาประกาศอย่างเป็นทางการว่า ยินดีที่จะรับพืชผลทางการเกษตรเพื่อใช้ในการชำระค่ารถยนต์บางรุ่น ที่สามารถเทียบเคียงมูลค่าได้อย่างเท่าเทียมกัน
โตโยต้าในประเทศบราซิล เดินหน้าโครงการนี้ต่ออย่างต่อเนื่อง หลังจากที่เริ่มทำโครงการทดลองในช่วงปี 2562 ที่ผ่านมา และพบว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี โดยสามารถขยายกลุ่มลูกค้าไปยังกลุ่มเกษตรกร ที่ต้องการใช้งานรถยนต์แต่ไม่มีเงินสดมากพอ
ไม่มีรายงานว่าพวกเขานำผลิตผลทางการเกษตรไปใช้อะไรต่อ หรือแม้แต่ตัวเลขมายืนยันว่าโครงการทดลองนี้ประสบความสำเร็จหรือไม่ แต่ที่แน่ ๆ เมื่อยักษ์ใหญ่อย่างโตโยต้าเดินหน้าโครงการนี้ต่อ ก็อาจจะเห็นค่ายรถอื่น ๆ ทำตามบ้างในอนาคตอันใกล้นี้ล่ะ
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_fourthp_under_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678191139-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678191139-0'); });
ใช้อะไรแลก และและรุ่นไหนได้บ้าง
บราซิลเป็นประเทศแห่งเกษตรกรที่กว้างใหญ่และมีลูกค้าของโตโยต้าหลายรายก็เป็นเกษตรกรอยู่ โตโยต้าพยายามหาทางที่จะจับกลุ่มลูกค้าเหล่านี้ให้อยู่หมัด และการประกาศครั้งล่าสุด พืชผลอยู่ 2 ประเภทที่นำมาซื้อรถได้ ประกอบไปด้วย ข้าวโพดและถั่วเหลือง
สำหรับรถรุ่นที่สามารถนำพืชผลมาแลกได้นั้นจะประกอบไปด้วยรถกระบะอย่าง Toyota Hilux (โตโยต้า ไฮลักซ์) เอสยูวีอย่าง Toyota Corolla Cross (โตโยต้า โคโรลล่า ครอส) และเอสยูวี โตโยต้า SW4 SV หรือ Toyota Fortuner (โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์) นั่นเอง
ถามว่ากลุ่มลูกค้ามีมากเพียงใด และโตโยต้าจะรับมือกับการแลกเปลี่ยนนี้ได้หรือไม่ มีรายงานว่าเซกเตอร์เกษตรกรรมนั้น คิดเป็นสัดส่วนการขายของโตโยต้าประมาณ 16% ในประเทศบราซิล และพวกเขามั่นใจว่าแคมเปญด้านการขายใหม่นี้จะทำให้เติบโตต่อไป
โครงการดังกล่าวมีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า Toyota Barter ที่จะอนุญาตให้ลูกค้าที่เป็นเกษตรกร สามารถนำข้าวโพดและถั่วเหลือมาแลกเปลี่ยนเป็นรถยนต์คันใหม่ได้ ด้วยการแลกเปลี่ยนมูลค่าของพืชผลทางการเกษตรที่เทียบเท่ากับราคาจำหน่ายรถยนต์
โครงการดังกล่าวจะเริ่มใช้ในเมืองใหญ่ 7 แห่งในประเทศบราซิล และมีแผนที่จะขยายไปทั่วประเทศและทวีปอเมริกาใต้ในอนาคต โดยโตโยต้าระบุว่าเกษตรกรที่จะเข้าร่วมโครงการจะต้องทำการเกษตรแบบยั่งยืน และมีการส่งมอบสินค้าที่คุณภาพยอดเยี่ยมเท่านั้น
ในอนาคตอาจจะมีอะไรที่แปลกประหลาดกว่านี้
แน่นอนว่าโครงการแลกเปลี่ยนรถยนต์ใหม่กับสิ่งของที่ไม่ใช่เงินนี้ ถือเป็นโครงการรูปแบบใหม่ที่เราได้เห็น สร้างคำถามว่า ในโลกของเราที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลานั้น การแลกเปลี่ยนรถยนต์กับทรัพย์สินอื่น ๆ ที่มีมูลค่าเท่าเทียมกันจะเกิดขึ้นได้จริงหรือไม่
ในประเทศไทย เคยมีตัวแทนจำหน่ายรถยนต์หลายรายที่รับแลกเปลี่ยนทรัพย์สินที่มีค่ากับรถยนต์ อาทิ พระเครื่อง ของสะสม ฯลฯ ที่เรียกว่าได้รับความสนใจทุกครั้ง หรือแม้แต่ในตลาดโลกเราก็มีการพูดคุยเรื่องการซื้อรถด้วยสิ่งอื่นที่ไม่ใช่เงิน เช่น บิทคอยน์ เป็นต้น
เอาจริง ๆ แล้ว เงินก็เป็นเพียงแค่สิ่งแทนมูลค่าของวัตถุที่ถูกสร้างขึ้นมาในโลกนี้ประเภทหนึ่ง ไม่ได้แปลกใจอะไร หากในอนาคต อาหารกลายเป็นของหายาก เราอาจจะเห็นค่ายรถที่เน้นการพัฒนาด้านเทคโนโลยี หันมารับแลกข้าวหรือปาล์มน้ำมันกับรถก็ได้นะ
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_relatedmodel_above_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678175456-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678175456-0'); });