Kawasaki อวดต้นแบบ Ninja EV, Z EV และ Hybrid EV ที่งาน EICMA 2022
อย่างที่เราได้ทราบกันเป็นอย่างดีว่าตอนนี้อุตสาหกรรมรถมอเตอร์ไซค์ทั่วโลกนั้นต่างมุ่งเป้าไปที่การลดคาร์บอนสู่โลก ด้วยยานยนต์ทางเลือกจากแหล่งพลังงานไฟฟ้าเป็นหลัก และเช่นเดียวกันกับทางค่ายยักษ์เขียว Kawasaki ที่ภายในงาน Eicma 2022 พวกเขาได้แสดงให้เห็นถึงจุดยืนของทางค่าย และทิศทางในอนาคตต่อไปของ Kawasaki ให้ได้เห็นแล้วว่าพวกเขากำลังทำอะไรอยู่บ้าง
Go with Green Power คือทิศทางที่ Kawasaki แสดงภายในงาน Eicma 2022
แม้จะเคยเห็นไปแล้วก่อนหน้านี้
Kawasaki Hybrid EV สำหรับการผลิตจริงยังต้องรอไปก่อน
โครงการมอเตอร์ไซค์พลังไฮโดรเจนของ Kawasaki
ยุคแห่งการขับเคลื่อนด้วยพลังงานสะอาด
Kawasaki กับการโชว์รถต้นแบบไฟฟ้าของพวกเขาก่อนจะผลิตจริง
Go with Green Power คือทิศทางที่ Kawasaki แสดงภายในงาน Eicma 2022
เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565 ที่ผ่านมาทาง Kawasaki ได้ให้โลกได้เห็นถึงแผนการในอนาคตของพวกเขาด้วยการมาพร้อมกับธีม Go with Green Power กับการนำเสนอรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า และไฮบริดทั้ง 3 รุ่นภายในงานครั้งนี้ไม่ว่าจะเป็น Kawasaki Ninja EV, Kawasaki Z EV และ Kawasaki Hybrid EV อย่างภาคภูมิใจ นอกจากนี้ทาง Hiroshi Ito ประธานบริษัท Kawasaki Motors ยังได้กล่าวเสริมอีกว่าสำหรับรถทั้ง 3 รุ่นนี้จะเป็นต้นแบบสู่การผลิตจริงในอนาคตอันใกล้นี้ ซึ่งมอเตอร์ไซค์ทั้ง 3 รุ่นนี้จะเป็นโมเดลแรกที่ทาง Kawasaki จะเปิดวางจำหน่ายออกสู่ตลาด
Kawasaki Z EV & Kawasaki Ninja EV
แม้จะเคยเห็นไปแล้วก่อนหน้านี้
จริงอยู่ที่ทาง Kawasaki เคยออกมาเปิดเผย และโชว์ภาพรถทั้ง 3 รุ่นให้เราได้เห็นกันไปบ้างแล้วก่อนหน้านี้ แต่สำหรับงาน Eicma 2022 นั้นทาง Kawasaki ได้ออกมาเน้นย้ำชัดเจนว่านี่คือรถต้นแบบที่จะใช้ในการผลิตจริงในอนาคต แต่เนื่องจากมันยังคงเป็นต้นแบบของการผลิต แน่นอนว่ายังไม่มีรายละเอียดทั้งหมด แต่นี่คือสิ่งที่เรารู้จนถึงตอนนี้ และอย่างที่เราทราบกันดีว่า Kawasaki Ninja EV นั้นจะมาในรูปแบบของรถสไตล์สปอร์ตที่ถอดแบบมาจากรถเครื่องยนต์สันดาปในรุ่น Ninja นั่นเอง
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_motor_article_fourthp_under_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685705349363-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685705349363-0'); });
Kawasaki Ninja EV
ส่วนสำหรับ Kawasaki Z EV ก็จะมาในรูปแบบของรถเน็คเก็ตไบค์ที่ถอดแบบมาจากรถในตระกูล Z ของทาง Kawasaki ซึ่งทาง Hiroshi Ito ประธานบริษัท Kawasaki Motors ยังได้บอกอีกว่ารถทั้ง 2 รุ่นนี้จะพร้อมวางจำหน่ายอย่างเร็วที่สุดภายในปี 2023 ที่จะถึงนี้ ซึ่งตัวรถจะมาพร้อมกับแบตเตอรี่แบบถอดได้ซึ่งจะง่ายกว่าต่อการใช้งานของไบค์เกอร์ในการขับขี่ที่จะสามารถถอดตัวแบตเตอรี่ออกไปชาร์จที่ใดก็ได้
Kawasaki Z EV
Kawasaki Hybrid EV สำหรับการผลิตจริงยังต้องรอไปก่อน
ส่วนสำหรับ Kawasaki Hybrid EV ลูกผสมนั้นทาง Hiroshi Ito ประธานบริษัท Kawasaki Motors บอกว่าตัวรถอย่าง Kawasaki Hybrid EV คันนี้จะพร้อมผลิตวางจำหน่ายจริงในปี 2024 ซึ่งก็หลังจากที่ Kawasaki Ninja EV และ Kawasaki Z EV ถูกเปิดตัว และวางจำหน่ายไปแล้ว และอย่างที่รู้กันว่า Kawasaki Hybrid EV จะมุ่งเป้าไปที่การเดินทาง และการขับขี่ที่สนุกสนานโดยตัวรถจะใช้ทั้งกำลังไฟฟ้า และลูกสูบ เช่นเดียวกับรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้แบตเตอรี่ ซึ่งรายละเอียดนั้นทาง Kawasaki ยังไม่ได้เปิดเผยออกมาให้เราได้ทราบกัน แต่เราคิดว่ามันน่าจะใช้หลักการเดียวกันกับรถยนต์ Hybrid ที่วางจำหน่ายอยู่ในท้องตลาดตอนนี้
Kawasaki Hybrid EV
โครงการมอเตอร์ไซค์พลังไฮโดรเจนของ Kawasaki
สำหรับโครงการมอเตอร์ไซค์พลังไฮโดรเจนของ Kawasaki นั้นทาง Hiroshi Ito ประธานบริษัท Kawasaki Motors ได้พูดว่าเราคิดว่าสำหรับรถที่ขับเคลื่อนด้วยแหล่งพลังงานสะอาดอย่างไฮโดรเจนนั้นจะพร้อมใช้งานได้จริง ๆ ในปี 20230 ซึ่งทั้งหมดขึ้นอยู่กับโครงสร้างพื้นในแต่ละประเทศด้วย เพราะฉะนั้นในตอนนี้ทาง Kawasaki จึงเน้นลงทุนไปที่การพัฒนาแบตเตอรี่ไฟฟ้า และรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าแบบไฮบริดก่อนเป็นหลัง แต่ทั้งนี้ Kawasaki เองก็ยังไม่ทิ้งมอเตอร์ไซค์เครื่องยนต์สันดาปในตอนนี้เพราะในช่วงปี 2024-2025นี้ทาง Kawasaki เองจะปล่อยโมเดลใหม่ออกมาอีกประมาณ 30-35 รุ่น และประมาณครึ่งหนึ่งจะถูกวางจำหน่ายในตลาดยุโรป
มอเตอร์ไซค์พลังไฮโดรเจนของ Kawasaki
ยุคแห่งการขับเคลื่อนด้วยพลังงานสะอาด
จากทิศทางของ Kawasaki นั้นเราจะเห็นได้ว่าทั้งมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า หรือมอเตอร์ไซค์ไฮโดรเจน ล้วนแล้วแต่คืออนาคตที่เราต้องพบเจออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ยุคของอนาคตเหล่านี้จะมาถึงเร็วแค่ไหนเท่านั้นเอง เพราะอย่างที่ Kawasaki ได้บอกไปว่ามันจะเร็วจะช้านั้นทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความพร้อมพื้นฐานในแต่ละประเทศสำหรับการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ แต่ยังไงการเปลี่ยนแปลงก็ต้องมาถึงอย่างแน่นอน ซึ่งอาจจะเริ่มในประเทศที่พัฒนาแล้วก่อน จนแพร่ขยายออกไปยังประเทศอื่น ๆ ในลำดับถัดไปจนมันขยายออกไปทั่วโลกจนกลายเป็นยานพาหนะที่ปกติ เฉกเช่นเดียวกับรถเครื่องยนต์สันดาปที่เคยเป็นมาเมื่อครั้งอดีตนั่นเอง
อ่านเพิ่มเติม : Kawasaki Electric Bike โชว์ตัวต้นแบบการผลิต
อ่านเพิ่มเติม : 2023 Kawasaki ZX-25R น้องเล็กเครื่อง 4 สูบอัพเกรดแล้ว
อ่านเพิ่มเติม : Kawasaki โชว์รถต้นแบบทั้งไฟฟ้า และไฮบริดที่ Suzuka ประเทศญี่ปุ่น
นักเขียน/นักทดสอบรถจักรยานยนต์ประสบการณ์กว่า 7 ปีในแวดวง 2 ล้อ ใช้รถมอเตอร์ไซค์เดินทางไปไหนมาไหนตั้งแต่อายุ 10 ปี ได้เรียนรู้รูปแบบการขับขี่กับสถาบันต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น Honda , Yamaha , Kawasaki , BMW Motorrad , Ducati และ Aprilia ตั้งแต่หลักสูตรขั้นพื้นฐาน จนไปถึงระดับเรสซิ่ง โเชื่อว่าทุกคนสามารถขี่รถมอเตอร์ไซค์ได้ แต่ขี่ได้กับขี่เป็นนั้นมันแตกต่างกัน แวะเข้ามาพูดคุยกันได้ทางหน้า
Facebook : Pongnara Archarit หรือทาง
Instagram : Pongnara Archarit
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_motor_article_relatedmodel_above_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685705336887-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685705336887-0'); });