Triumph TE-1 มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่มีภาครัฐคอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง! ก่อนหน้านี้ทาง AutoFun Thailand ได้นำเสนอข้อมูลไปแล้วว่าทาง Triumph กำลังมุ่งพัฒนารถไฟฟ้าของตนอยู่ และดูเหมือนว่าในตอนนี้โปรเจคของพวกเขาจะดูเป็นรูปเป็นร่าง และใกล้ความจริงเข้าไปทุกขณะแล้ว เพราะล่าสุดทาง Triumph ได้ออกมาเผยโฉมเจ้า Triumph TE-1 ที่เป็นร่างต้นแบบออกสู่สายตาชาวโลกแล้วเป็นที่เรียบร้อย ก่อนที่จะลงทำการวิ่งทดสอบจริงในเร็ว ๆ นี้
หน้าตาที่เราคุ้นเคย
ความร่วมมือระหว่าง 2 องค์กร สำหรับรถพลังงานไฟฟ้าในครั้งนี้ทาง Triumph ได้ร่วมมือกับทางบริษัท Williams Advanced Engineering, บริษัท Integral Powertrain และศูนย์ WMG มหาวิทยาลัยวอร์ริค ซึ่งการร่วมมือกันในครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากทางภาครัฐโดยสำนักงานเพื่อยานพาหนะปลอดการปล่อยมลพิษ (OZEV) ผ่าน Innovate UK โดยโครงการดังกล่าวจะมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาเทคโนโลยีวิศวกรรมของจักรยานยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ
การร่วมมือกันจากทุกภาคส่วน
ระยะที่ 3 เสร็จสมบูรณ์ ณ ปัจจุบันรถอย่าง Triumph TE-1 ถือว่าพัฒนามาถึงเฟสที่ 3 อย่างสมบูรณ์แล้วกล่าวคือตัวรถสามารถวิ่งใช้งานได้บนท้องถนนจริงแล้ว ซึ่งจะมีการทดสอบต่อไปในเฟสที่ 4 แต่กว่าจะมาถึงระยะที่ 3 นั้นแต่ละบริษัทต่างทุ่มกำลังสมองเพื่อพัฒนาตัวรถกันอย่างเต็มที่ซึ่งแต่ละบริษัทจะมีหน้าที่รับผิดชอบดังนี้
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_motor_article_fourthp_under_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685705349363-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685705349363-0'); });
Triumph รับหน้าที่ในการดูแลเรื่องโครงรถ ตัวเฟรม และซับเฟรมท้าย ค็อกพิท แผงข้าง และล้อ รวมไปถึงระบบขับเคลื่อนที่ประกอบไปด้วย ระบบส่งกำลัง และระบบขับเคลื่อนด้วยสายพานแบบ Gates Carbon ระบบอิเล็กทรอนิกส์ โช้คอัพหน้าแบบ Up Side Down จาก Öhlins และระบบกันสะเทือนหลังสำหรับรุ่นโปรโตไทป์จาก คาลิปเปอร์เบรกจาก Brembo M50 และซอฟต์แวร์ควบคุมจาก Triumphบริษัท Williams Advanced Engineering จะดูแลในเรื่องของแบตเตอรี่ WAE ซึ่งมีการใช้เซลล์ที่มีแพ็คเกจเฉพาะ เพื่อให้จุดศูนย์ถ่วงนั้นเหมาะสมที่สุด พร้อมตัวแปลง DCDC ระบบระบายความร้อนในตัว พอร์ตชาร์จไฟ และฝาครอบคาร์บอน
บริษัท Integral Powertrain จะดูแลในเรื่องของระบบส่งกำลัง ซึ่งมาพร้อมกับอินเวอร์เตอร์ในตัวที่สามารถปรับสเกลได้ อีกทั้งยังรวมมอเตอร์เข้ากับเทคโนโลยีซิลิกอนคาร์ไบด์สวิตช์ขั้นสูงมาใช้ พร้อมระบบระบายความร้อนในตัว
ศูนย์ WMG มหาวิทยาลัยวอร์ริค University of Warwick จะรับหน้าที่ประเมินตัวรถด้วยการจำลองการทดสอบก่อนใช้งานจริง ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้นั้นบ่งชี้ว่าโปรเจคนี้สามารถมอบประสิทธิภาพด้านสมรรถนะ และความทนทานได้ตามที่ตั้งเป้าไว้
โครงรถ ตัวเฟรม และซับเฟรมท้าย ที่ออกแบบโดย Triumph
ระยะที่ 4 ทดสอบวิ่งใช้งานจริง ในเมื่อตอนนี้ตัวรถอย่าง Triumph TE-1 ได้ถูกผลิตตัวต้นแบบออกมาอย่างสมบูรณ์แล้ว ซึ่งต่อจากนี้ทาง Triumph จะทำการทดสอบวิ่งใช้งานเจ้า Triumph TE-1 ในสถานการณ์ต่าง ๆ และหลังจากผ่านขั้นตอนการทดสอบใช้งานจริง ซึ่งคาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ช่วงฤดูร้อนปี 2022 ต้นแบบอย่าง Triumph TE-1 จะได้รับการอัพเกรดขั้นสุดท้ายโดยการเพิ่มชุดเฟรม และตัวถังพร้อมทำสี เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการขี่ทดสอบในสนามแข่ง ก่อนที่ทาง Triumph จะมีการเผยแพร่ข้อมูลทั้งหมดของตัวรถไม่ว่าจะเป็นในด้านสมรรถนะ ระยะทางที่สามารถวิ่งได้ และประสิทธิภาพของแบตเตอรี่
ตัวรถจะใช้สายพานในการขับเคลื่อน
ใกล้ความเป็นจริง ต้องบอกเลยว่าหากใครได้ติดตามข่าวของโปรเจคในครั้งนี้มาตั้งแต่เริ่มต้นต้องบอกได้เลยว่า ณ วันนี้ Triumph ได้มาไกลมากแล้ว ที่เหลือก็แค่วิ่งทดสอบ และทำการผลิตจริง ซึ่งนั่นส่งผลให้เห็นถึงนโยบายของภาครัฐที่พวกเขามีแผนการจะงดใช้รถเครื่องยนต์สันดาปแบบ 100 % ในปี 2030 และทำให้อังกฤษกลายเป็นประเทศสีเขียวตามที่ทางสำนักงานเพื่อยานพาหนะปลอดการปล่อยมลพิษ (OZEV)ได้เคยกล่าวเอาไว้ และสำหรับรถพลังงานไฟฟ้าอย่าง Triumph TE-1 นั้นไม่เกินสิ้นปีนี้เราได้เห็นมันเสร็จสมบูรณ์ และพร้อมวางจำหน่ายจริงอย่างแน่นอน รอติดตามกันได้เลย
อ่านเพิ่มเติม : Triumph กำลังมุ่งพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าเข้าสู่โลก
อ่านเพิ่มเติม : 2022 Triumph Speed Triple 1200 RR
อ่านเพิ่มเติม : 2022 Triumph Tiger Sport 660 กับ 5 เหตุผลที่คุณควรซื้อ
นักเขียน/นักทดสอบรถจักรยานยนต์ประสบการณ์กว่า 7 ปีในแวดวง 2 ล้อ ใช้รถมอเตอร์ไซค์เดินทางไปไหนมาไหนตั้งแต่อายุ 10 ปี ได้เรียนรู้รูปแบบการขับขี่กับสถาบันต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น Honda , Yamaha , Kawasaki , BMW Motorrad , Ducati และ Aprilia ตั้งแต่หลักสูตรขั้นพื้นฐาน จนไปถึงระดับเรสซิ่ง โเชื่อว่าทุกคนสามารถขี่รถมอเตอร์ไซค์ได้ แต่ขี่ได้กับขี่เป็นนั้นมันแตกต่างกัน แวะเข้ามาพูดคุยกันได้ทางหน้า
Facebook : Pongnara Archarit หรือทาง
Instagram : Pongnara Archarit
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_motor_article_relatedmodel_above_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685705336887-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685705336887-0'); });
