window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_breadcrumb_above_pc', [ 728, 90 ], 'div-gpt-ad-1685678150997-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678150997-0'); });

รู้จักหุ่นยนต์ที่ช่วยพัฒนา Ford Ranger และ Everest ให้ได้ ANCAP 5 ดาว แต่คนไทยอย่าเพิ่งดีใจ

Mr.Argus · Oct 1, 2022 04:17 PM

รู้จักหุ่นยนต์ที่ช่วยพัฒนา Ford Ranger และ Everest ให้ได้ ANCAP 5 ดาว แต่คนไทยอย่าเพิ่งดีใจ 01

ที่สนามทดสอบของฟอร์ดในประเทศออสเตรเลีย มีหุ่นยนต์อัจฉริยะ 3 ตัวนี้ทำหน้าที่ทดสอบเทคโนโลยีช่วยขับขี่ของฟอร์ด ทั้งระบบป้องกันการชนพร้อมระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง ระบบช่วยหักพวงมาลัยเพื่อเลี่ยงการปะทะ ระบบตรวจจับรถในจุดบอด ระบบป้องกันการชนเมื่อถอยหลังi  และอื่นๆ อีกมากมาย  

ระหว่างการทดสอบ Ford Ranger (ฟอร์ด เรนเจอร์) และ Ford Everest (ฟอร์ด เอเวอเรสต์) เจเนอเรชันใหม่ หุ่นยนต์ทั้ง 3 ตัว ทำงานในสภาวะเสี่ยงอันตรายและยังทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน โดยพักเพียงช่วงสั้นๆ เพื่อชาร์จแบตเตอรี แถมยังไม่ต้องพักรับประทานอาหารกลางวันด้วย 

หุ่นยนต์แต่ละตัวมีบทบาทแตกต่างกันในการทดสอบเทคโนโลยีช่วยการขับขี่ โดย ‘โรซี’ เป็นหุ่นยานพาหนะจำลองสำหรับทดสอบการชน (Guided Soft Target Vehicle หรือ GST) ‘เรย์’ รับหน้าที่เป็นผู้ใช้ถนนที่มีความเสี่ยงต่ออันตราย (Vulnerable Road User หรือ VRU) และ ‘โรแบร์โต’ เป็นหุ่นยนต์ขับรถ ดังนั้น หุ่นยนต์เหล่านี้จึงช่วยให้ฟอร์ดมั่นใจได้ว่าเทคโนโลยีช่วยในการขับขี่ขั้นสูง (ADAS)i ของฟอร์ด เรนเจอร์ และฟอร์ด เอเวอเรสต์ เจเนอเรชันใหม่ จะทำงานได้ดีเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันบนท้องถนน ทั้งจากยานพาหนะ คนเดินเท้า และผู้ขับขี่จักรยาน

window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_fourthp_under_pc', [ 728, 90 ], 'div-gpt-ad-1685678191139-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678191139-0'); });

วิศวกรด้านเทคโนโลยีช่วยในการขับขี่ขั้นสูงของฟอร์ด กล่าวว่า “หุ่นยนต์ 3 ตัวนี้ช่วยให้เราทดสอบเทคโนโลยีช่วยขับขี่ขั้นสูงi ได้อย่างเต็มรูปแบบ ทั้งการใช้ถนนร่วมกับรถคันอื่นๆ การจราจรบริเวณทางแยก จำลองรูปแบบคนเดินเท้า ผู้ขับขี่จักรยาน และอีกหลายสถานการณ์ อีกยังช่วยร่นเวลาทดสอบให้สั้นลง และทดสอบได้ทั้งกลางวันและกลางคืน พร้อมให้ผลลัพธ์ที่แม่นยำกว่าเคย”

ในอดีตวิศวกรด้านเทคโนโลยีช่วยในการขับขี่ขั้นสูงของฟอร์ด ต้องใช้รถจำลองแบบมีสายกระตุกเพื่อทดสอบและปรับแต่งระบบ เช่น ระบบป้องกันการชนพร้อมระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB) แต่ข้อผิดพลาดของคนขับและสภาพอากาศที่ไม่เป็นใจก็อาจทำให้ผลการทดสอบคลาดเคลื่อนจนต้องยืดระยะเวลาในการทดสอบออกไป แต่หุ่นยนต์ 3 ตัวนี้ทำให้การทดสอบเทคโนโลยีช่วยขับขี่ทำได้หลากหลายขึ้นทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน รวมทั้งยังปรับความแม่นยำได้ในระดับเซนติเมตร 

รู้จักหุ่นยนต์ที่ช่วยพัฒนา Ford Ranger และ Everest ให้ได้ ANCAP 5 ดาว แต่คนไทยอย่าเพิ่งดีใจ 01

หุ่นยนต์โรซี และเรย์ เชื่อมต่อกับรถทดสอบได้อย่างแม่นยำ ไม่ว่ารถคันนั้นจะขับด้วยหุ่นยนต์โรแบร์โต หรือโดยวิศวกร เพื่อจำลองสถานการณ์ที่ซับซ้อนระหว่างการทดสอบเทคโนโลยีช่วยขับขี่ขั้นสูงi

หุ่นยนต์ GST จะมีเรดาร์เสมือนรถยนต์จริง ทำให้ทดสอบระบบเทคโนโลยีช่วยขับขี่ขั้นสูงในสถานการณ์จริงได้หลากหลายรูปแบบ เพื่อให้แน่ใจว่าระบบต่างๆ เช่น ระบบป้องกันการชนพร้อมระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติทำงานได้อย่างเหมาะสม

ในขณะที่โรแบร์โต ซึ่งเป็นหุ่นยนต์ขับรถที่มีเทคโนโลยีควบคุมการเคลื่อนไหวอย่างซับซ้อนเพื่อผสานการทำงานอย่างแม่นยำระหว่างหุ่นยนต์โรซีและเรย์ ได้ติดตั้งไว้ในรถยนต์ทดสอบเพื่อควบคุมพวงมาลัย เบรก และคันเร่ง นอกจากนี้เพื่อความปลอดภัย วิศวกรฟอร์ดจะนั่งประจำที่นั่งคนขับเพื่อช่วยควบคุมรถทดสอบเมื่อจำเป็น ในขณะที่วิศวกรอีกคนคอยสังเกตการทำงานของโรซีและเรย์ และเข้าควบคุมแทนได้เมื่อจำเป็น 

ขณะที่ เรย์ ซึ่งรับหน้าที่เป็นผู้ใช้ถนนที่อาจเสี่ยงอันตราย มาพร้อมเครื่องปล่อยตัวเพื่อสวมบทบาทเป็นคนเดินถนน เด็ก และผู้ขับขี่จักรยาน ได้ทั้งในช่วงกลางวันและกลางคืน 

บทบาทของเรย์คือการจำลองเป็นเด็กที่วิ่งผ่านหน้ารถที่จอดอยู่ ผู้ขับขี่จักรยาน หรือแม้กระทั่งคนเดินเท้าที่อาจเดินตัดหน้ารถในเวลากลางคืน ในประเทศอื่น ๆ ก็ใช้หุ่นยนต์แบบเดียวกันในการทดสอบ ทำให้ฟอร์ดแบ่งปันข้อมูลและสถานการณ์การทดสอบระหว่างกันได้ ที่ผ่านมามีการทดสอบในออสเตรเลีย เพื่อส่งข้อมูลให้แก่ทีมในยุโรปและอเมริกาด้วย ทำให้เทคโนโลยีช่วยขับขี่ของเราได้มาตรฐานตามเกณฑ์การทดสอบที่เข้มงวดของฟอร์ดและเกณฑ์ NCAP ทั่วโลก

รู้จักหุ่นยนต์ที่ช่วยพัฒนา Ford Ranger และ Everest ให้ได้ ANCAP 5 ดาว แต่คนไทยอย่าเพิ่งดีใจ 02

มุ่งส่งมอบความปลอดภัยเหนือระดับให้ผู้ใช้รถ

ทีมความปลอดภัยและทีมพัฒนาเทคโนโลยีช่วยขับขี่ของฟอร์ด ทุ่มเทใส่ใจพัฒนาฟอร์ด เรนเจอร์และฟอร์ด เอเวอเรสต์ เจเนอเรชันใหม่ ให้มีความปลอดภัยที่เหนือชั้น นับตั้งแต่การทดสอบกายภาพที่ศูนย์ทดสอบการชนของฟอร์ดทั่วโลก ไปจนถึงการทดสอบชนด้วยเทคโนโลยีเสมือนจริงหลายพันชั่วโมง และการใช้หุ่นยนต์ทดสอบเทคโนโลยีช่วยขับขี่

ฟรังโก โมราส ผู้จัดการด้านความปลอดภัยรถยนต์ฟอร์ด กล่าวว่า “โครงสร้างห้องโดยสารของฟอร์ด เรนเจอร์ และฟอร์ด เอเวอเรสต์ เจเนอเรชันใหม่ ผลิตจากวัสดุที่มีความแข็งแรงสูง เพื่อให้ห้องโดยสารมีความปลอดภัย วัสดุที่ใช้บริเวณเสา A ด้านหน้าคนขับ และเสา B ระหว่างห้องโดยสารตอนหน้าและตอนหลัง รวมถึงเสา C บริเวณกระจกหลังรวมถึงขอบประตูด้านล่าง ทำจากเหล็กกล้าที่แข็งแรง เพื่อช่วยกระจายแรงปะทะออกจากตัวผู้โดยสาร”

วิศวกรวิเคราะห์เพื่อพัฒนาความปลอดภัยสูงสุด

ฟอร์ดใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เพื่องานวิศวกรรม (Computer-Aided Engineering หรือ CAE) มาสร้างและวิเคราะห์รถฟอร์ด เรนเจอร์ และฟอร์ด เอเวอเรสต์ เจเนอเรชันใหม่กว่า 150 คัน โดยจำลองการชนในหลากหลายสถานการณ์ เช่น การเฉี่ยวชนด้านหน้า การกระแทกจากด้านหลังและด้านข้าง นอกจากนี้ยังจำลองสถานการณ์การชนแบบที่มีผู้โดยสารอยู่ภายในรถหลายสิบครั้ง เพื่อวิเคราะห์ความเสียหายและการซ่อมแซมชิ้นส่วนขนาดเล็ก และการปกป้องผู้โดยสารในทุกช่วงวัยทั้งเด็กและผู้ใหญ่ รวมถึงการชนด้วยความเร็วต่ำที่อาจพบบริเวณลานจอดรถ

หุ่นจิงโจ้ก็มา

นอกจากนี้ ทีมวิศวกรยังนำรถยนต์ฟอร์ด เจเนอเรชันใหม่ทั้งสองรุ่น ไปทดสอบการชนจริงอีกหลายสิบครั้ง โดยจำลองการชนด้วยรถเข็นซูเปอร์มาร์เก็ต ไปจนถึงหุ่นจิงโจ้จำลองที่ถูกชนในขณะรถวิ่งด้วยความเร็วสูง รวมถึงการชนกับรถอีกคัน โดยรวมแล้ว วิศวกรฟอร์ดทดสอบการชนรอบคันกว่า 100 ครั้ง และยังทดสอบการชนแบบรางเลื่อนอีกหลายร้อยครั้งเพื่อจำลองการชนตลอดทั้งคันขณะมีผู้โดยสารนั่งอยู่ภายใน และยังมีการทดสอบย่อยๆ และการทดสอบความปลอดภัยของชิ้นส่วนต่างๆ อีกหลายร้อยรายการ 

ด้วยระบบการทดสอบความปลอดภัยที่เข้มงวดของฟอร์ด และการทำงานของทีมความปลอดภัยทั้งหมด รวมถึงหุ่นยนต์เรย์ โรซี และโรแบร์โต ทำให้ฟอร์ด เรนเจอร์ และฟอร์ด เอเวอเรสต์ เจเนอเรชันใหม่ ได้รับรางวัลมาตรฐานความปลอดภัยระดับ 5 ดาวจากสถาบันทดสอบการชนประเทศออสเตรเลีย (Australian New Car Assessment Programme – ANCAP) 

รู้จักหุ่นยนต์ที่ช่วยพัฒนา Ford Ranger และ Everest ให้ได้ ANCAP 5 ดาว แต่คนไทยอย่าเพิ่งดีใจ 03

มาตรฐานความปลอดภัยระดับ 5 ดาว

ฟอร์ด เรนเจอร์ และฟอร์ด เอเวอเรสต์ เจเนอเรชันใหม่ เป็นรถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดที่ได้รับรางวัลมาตรฐานความปลอดภัยระดับ 5 ดาว จาก ANCAP นับเป็นการรักษามาตรฐานความปลอดภัยระดับ 5 ดาวที่ ฟอร์ด เรนเจอร์ และฟอร์ด เอเวอเรสต์ รุ่นก่อนหน้าเคยได้รับ

ตามหลักเกณฑ์การทดสอบมาตรฐานความปลอดภัยล่าสุดของ ANCAP ในปี 2565 ฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่ ได้คะแนนสูงในการปกป้องผู้โดยสารผู้ใหญ่ (Adult Occupant Protection หรือ AOP)  จาก
การทดสอบชนแบบประสานงา การชนจากด้านข้าง และการชนจากฝั่งตรงข้ามห้องโดยสาร นอกจากนี้ ฟอร์ด เรนเจอร์ และฟอร์ด เอเวเรอสต์ เจเนอเรชันใหม่ ยังได้รับคะแนนสูงสุด (ระดับ 'ดี') ในการปกป้องผู้โดยสารที่เป็นเด็กจากการชนทั้งด้านหน้าและด้านข้าง 

ได้รับรองจาก ANCAP

คาร์ล่า ฮูร์เวก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ ANCAP กล่าวว่า "การที่รถสักคันจะได้คะแนนความปลอดภัยระดับ 5 ดาวไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็มีความสำคัญอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงการใช้งานที่หลากหลายของ ฟอร์ด เรนเจอร์ และฟอร์ด เอเวอเรสต์"

เทคโนโลยีช่วยขับขี่อัจฉริยะของฟอร์ด เอเวอเรสต์ และฟอร์ด เรนเจอร์  รวมถึงระบบป้องกันการชนพร้อมระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางพร้อมระบบตรวจจับขอบถนน กล้องมุมกว้างใหม่ที่ช่วยตรวจจับคนเดินถนนและยานพาหนะที่สวนทางมาใน “ทางเลี้ยว ทางแยก” ทั้งหมดได้คะแนนสูงในการทดสอบ ANCAP

“นับเป็นข่าวดีสำหรับผู้ที่ใช้รถเพื่อการพาณิชย์ เป็นรถของครอบครัว หรือรถส่วนตัวเพื่อประกอบธุรกิจ รวมถึงผู้บริโภคทุกคนที่ใช้รถทั้งเพื่อการทำงานและการท่องเที่ยวพักผ่อน” ฮูร์เวก กล่าว 

รู้จักหุ่นยนต์ที่ช่วยพัฒนา Ford Ranger และ Everest ให้ได้ ANCAP 5 ดาว แต่คนไทยอย่าเพิ่งดีใจ 04

ความเข้มงวดของ ANCAP

ทั้งนี้ ระเบียบการทดสอบล่าสุดของ ANCAP นับว่ามีความเข้มงวดที่สุดเท่าที่เคยมีมา เช่น ความเร็วของการทดสอบชนจากด้านข้างเพิ่มขึ้นเป็น 60 กม./ชม. (จาก 50 กม./ชม.) ในขณะที่น้ำหนักของรถพ่วงที่พุ่งชนเพิ่มขึ้นเป็น 1,400 กก. (จาก 1,300 กก. ) การทดสอบระบบปกป้องความปลอดภัยก่อนเกิดการชนมีมากขึ้น (เมื่อเทียบกับปี 2018) ทำให้ยากต่อการได้รับคะแนนระดับ 5 ดาว และยังมีการทดสอบประสิทธิภาพของระบบ AEB ระหว่างยานพาหนะและผู้โดยสารบริเวณทางแยก ซึ่งกล้องมุมกว้างรุ่นใหม่ของเรนเจอร์ และเอเวอเรสต์ เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้รถได้คะแนนสูงในการทดสอบระบบปกป้องความปลอดภัยก่อนเกิดการชนของ ANCAP

สเปคไทยยังมีถุงลมไม่เยอะเท่า

แม้รถยนต์กระบะรุ่นเดียวกับไทย ได้ผ่านการทดสอบในต่างประเทศ แต่คอรถยนต์ในไทยอย่าเพิ่งดีใจไป เพราะ ANCAP เลือกทดสอบ Ranger และ Everest แบบสเปกออสเตรเลีย ซึ่งทุกรุ่นย่อยมาพร้อมถุงลมนิรภัยถึง 9 ตำแหน่ง ได้แก่คู่หน้า ด้านข้าง ม่านนิรภัย รวมถึงถุงลมนิรภัยปกป้องหัวเข่า ขณะที่ถุงลมนิรภัยกลางห้องโดยสารก็เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ที่ช่วยปกป้องการปะทะกันของผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหน้าอีกด้วย ส่วนในไทยมีถุงลมนิรภัยสูงสุด 7 ใบเท่านั้น ซึ่งถ้านำสเปคไทยที่ถุงลมน้อยกว่าไปทดสอบในออสซี่ อาจจะให้ผลการทดสอบแตกต่างกันไปก็เป็นได้

อ่านเพิ่มเติม : 2022 Ford Ranger ควง 2022 Ford Everest คว้า 5 ดาวความปลอดภัย แต่ยังมีข้อสังเกต

Mr.Argus

นักเขียน

คุณกัส ผู้จำชื่อรถได้หมดตั้งแต่เด็ก ขับรถเป็นตั้งแต่มัธยม ซ่อมรถใช้เองตอนปริญญาตรี สะสมรถคลาสสิคและรถหายาก ทำงานเรื่องรถมานาน 5 ปี ผ่านการอบรมขับขี่ปลอดภัยจาก Sach มีรถทดสอบผ่านมือมาตั้งแต่รถกระบะ รถเก๋ง จนถึงรถสปอร์ต งานอดิเรกก็แค่ซ่อมรถสะสมที่มีอยู่ ติดตามชีวิตคนบ้ารถได้ที่กลุ่ม https://www.facebook.com/groups/97434297973776

window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_relatedmodel_above_pc', [ 728, 90 ], 'div-gpt-ad-1685678175456-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678175456-0'); });
window._taboola = window._taboola || []; _taboola.push({ mode: 'thumbnails-a-2x2-stream', container: 'taboola-below-article-thumbnails', placement: 'Below Article Thumbnails', target_type: 'mix' });

ซื้อรถถูกกว่า ขายรถเร็วขึ้น

Ford Ranger XLS open Cab 2.0 Turbo 6AT 4×2 2023

แลก

เพิ่มรถของคุณ

ไม่อยากรอแลกรถ?   ขายรถ