Ferrari Portofino

การออกแบบภายนอก Ferrari Portofino

เริ่มจากด้านหน้า Ferrari Portofino (เฟอร์รารี่ พอร์โตฟิโน) มีความเป็นมิติโดยหน้าจะมีความยาวอย่างเห็นได้ชัด กระจังหน้า Ferrari Portofino มีช่องระบายอากาศขนาดใหญ่ที่แข็งแรงโดยมีม้าสีเงินสัญลักษณ์ประจำตัวของ Ferrari มีชุดไฟหน้าโฉบเฉี่ยวทรงสปอร์ตแบบ full-LED ที่ดูเป็นแนวนอนมากขึ้น ด้านมุมนอกของไฟหน้า Ferrari Portofino นั้นมีการซ่อนช่องอากาศที่ผ่านเข้ามาทางซุ้มล้อหน้าและออกไปทางด้านข้างเพื่อลดแรงเสียดทานอากาศการออกแบบด้านท้ายช่วยเสริมลักษณะอันดูสปอร์ตของรถ โดยเฉพาะการวางตำแหน่งของไฟท้ายที่ห่างกันมากขึ้น การออกแบบอันชาญฉลาดนี้ช่วยเก็บซ่อนพื้นที่สำหรับระบบ RHT (Retractable Hard Top) ที่มาพร้อมกับน้ำหนักที่ลดลงและสามารถยกขึ้นหรือลงได้ที่ความเร็วต่ำ ทำให้ Portofino เป็นรถเปิดประทุนที่มีกำลังมากที่สุดที่รวบรวมข้อดีของหลังคา Ferrari Portofino (เฟอร์รารี่ พอร์โตฟิโน) แข็งแบบ retractable ห้องเก็บสัมภาระและห้องโดยสารที่กว้างขวาง บวกกับ ที่นั่งเสริมด้านหลังอีกสองที่เหมาะสำหรับการเดินทางระยะสั้น มิติตัวถัง : ความยาวตัวถัง 4,586 มม. ความกว้าง 1,938 มม. ความสูง 1,318 มม.

การออกแบบภายใน Ferrari Portofino

Ferrari Portofino M มีทั้งหมด 4 ที่นั่ง เบาะนั่งนวัตกรรมใหม่ Ferrari Portofino (เฟอร์รารี่ พอร์โตฟิโน) ที่วิจัยขึ้นเป็นพิเศษโดยมีโครงสร้างจากแมกนีเซียมที่ทำให้เบาะนั่ง Ferrari Portofino มีความหนาแน่น และยังมีการระบายอากาศสามระดับสำหรับเบาะนั่ง เบาะคู่หน้า Ferrari Portofino ปรับไฟฟ้าได้ 18 ทิศทาง มีพนักพิงดีไซน์ใหม่ที่ช่วยเพิ่มพื้นที่วางขาของผู้โดยสารหลัง และระบบจอ Passenger Display สำหรับให้ข้อมูลการขับขี่ผู้โดยสารด้านหน้า ผู้โดยสารทั้งหมดจะได้รับความสะดวกจากระบบ Wind Deflector ใหม่ที่สามารถลดแรงลม และลดเสียงรบกวนในห้องโดยสารได้ถึง 30% พวงมาลัย multi-function ใหม่แบบท้ายตัดสุดทันสมัย แผงคอนโซลหน้ามีมิติ จะเห็นได้ว่าบนคอนโซลของ Ferrari Portofino จะมีหน้าจอสัมผัสขนาด 10.25 นิ้วอยู่ตรงกลางที่ผู้โดยสารด้านหลังก็สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนเบาะแถวหน้าไม่บดบัง ช่องแอร์แบบทรงกลม ระบบปรับอากาศใหม่ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นไม่ว่าจะเปิดหรือปิดหลังคา และที่วางแขนตรงกลาง Ferrari Portofino (เฟอร์รารี่ พอร์โตฟิโน) ค่อนข้างกว้างทั้งที่นั่งแถวหน้าและแถวหลังเลย โดยรวมทุกอย่างมีความสปอร์ตแบบจัดเต็มสุดๆ

เทคโนโลยีและสิ่งอำนวยความสะดวก Ferrari Portofino

การทรงตัวของ Ferrari Portofino (เฟอร์รารี่ พอร์โตฟิโน) นั้นได้รับการปรับใหม่หมดและได้ประโยชน์จากเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่นำมาใช้ เป็นครั้งแรกในรถยนต์ Ferrari ชนิดนี้ที่มีการนำระบบ electronic rear differential (E-Diff3) มาใช้โดยทำงานร่วมกับระบบ F1-Trac ซึ่งช่วยเพิ่มการยึดเกาะถนนและการควบคุม Ferrari Portofino เป็นรถประเภทGTคันแรกในอนุกรมที่ได้รับการติดตั้งระบบพวงมาลัย EPS (Electric Power Steering) ทำให้วิศวกรนั้นสามารถลดอัตราทดพวงมาลับได้ถึง 7% ผลดีก็คือการตอบสนองของพวงมาลัยที่ดีขึ้นโดยไม่กระทบกับความเสถียรเมื่อร่วมทำงานกับระบบ E-Diff3 ระบบกันสะเทือนแบบ magnetorheological damping system (SCM-E) นั้นได้ถูกเพิ่มประสิทธิภาพด้วยเทคโนโลยี dual-coil ที่ช่วยลดอาการโคลงในขณะที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการซึมซับแรงสะเทือนจากความไม่ราบเรียบของถนน ผลที่ได้ก็คือรถยนต์ที่มีความว่องไวปราดเปรียวและตอบสนองดีขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน Ferrari Portofino (เฟอร์รารี่ พอร์โตฟิโน) ก็มอบสัมผัสแห่งความสบายไปพร้อมๆกัน

ระบบความปลอดภัย Ferrari Portofino

• มี Adaptive Cruise Control พร้อมฟังก์ชั่น Stop & Go สำหรับการขับขี่ในการจราจร
• ไฟสูงอัตโนมัติเปิดและปิดโดยอัตโนมัติเมื่อขับรถในเวลากลางคืน
• Blind Spot Monitoring ช่วยแจ้งเตือนคนขับเมื่อรถอยู่ในจุดบอด
• เสียงเตือนเมื่อรถยนต์ออกนอกช่องทาง หรือภาพแจ้งเตือนว่ารถหลงออกนอกเลน
• ระบบเบรกฉุกเฉินแบบคาดการณ์ล่วงหน้าเพื่อแจ้งเตือนผู้ขับขี่ถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดการชน และลดผลกระทบจากการกระแทกด้านหน้า
• Rear Cross Traffic Alert เตือนผู้ขับขี่เมื่อเคลื่อนสิ่งกีดขวางที่ซ่อนอยู่ในจุดบอดด้านหลังของรถเมื่อถอยหลัง
• มุมมองรอบทิศทางพร้อมจอแสดงผล 3 มิติ
• การจดจำป้ายจราจร
• Side-Slip Control 6.0 และระบบ Ferrari Dynamic Enhancer เป็นระบบปรับแรงดันน้ำมันเบรกในคาลิเปอร์เบรกโดยอัตโนมัติ

ขุมพลัง Ferrari Portofino

Ferrari Portofino (เฟอร์รารี่ พอร์โตฟิโน) ใช้เครื่องยนต์ Ferrari F154 แบบ V8 ทำมุม 90 องศา ความจุกระบอกสูบ 3,855 ซี.ซี. ให้กำลังสุงสุด 600 แรงม้า ที่ 7,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 760 นิวตันเมตร ที่ 3,000-5,250 รอบต่อนาที สามารถเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ใน 3.5 วินาที ทำความเร็งสูงสุดไม่เกิน 320 กม./ชม. เคลมอัตราสิ้นเปลือง 10.5 ลิตร/100 กม.

กดคันเร่ง Ferrari Portofino (เฟอร์รารี่ พอร์โตฟิโน) เพียงเบาๆ ไปเรื่อยๆก่อนขอทำความคุ้นเคยสักหน่อย ต้องบอกเลยว่าทัศนวิศัย ชัดเจนดีมาก กระจกบานหน้าใหญ่ มุมมองเคลียร์ไม่ว่าจะกระจกมองหลังหรือมองข้าง เห็นชัด พวงมาลัยไฟฟ้าน้ำหนักเบามือ ควบคุมง่ายแม่นยำ เข้าโค้งมั่นใจ ถนนเริ่มว่างกดคันเร่งลงลองอัตราเร่งกันหน่อย กดปุ๊บกระโดดออกไปอย่างรวดเร็ว อดีนาลีนพลุ่งพล่านหลังติดเบาะ ความเร็วของ Ferrari Portofino พุ่งไปแตะระดับ 160 กม./ชม. ในเวลาชั่วอึดใจ เสียงคำรามของท่อไอเสียอันเป็นเอกลักษณ์ยังคงมีมนต์เสน่ห์เหมือนเดิม การเร่งแซง ขึ้น-ลง เขา สบายหายห่วงแรงเหลือๆ การทรงตัวดีเยี่ยม ตัวรถควบคุมง่าย แม้ในพื้นที่ถนนแคบๆ การป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอก Ferrari Portofino ยอดเยี่ยมแม้จะเป็นรถแบบเปิดประทุน เรากดคันเร่งต่อเนื่องเหลือบมองความเร็วโหแตะ 200 กม./ชม.ได้แบบสบายๆตัวรถนิ่งควบคุมง่าย

ระบบช่วงล่าง magnetorheological damping system (SCM-E) นั้นได้ถูกเพิ่มประสิทธิภาพด้วยเทคโนโลยี dual-coil ทำให้เจ้า Ferrari Portofino คันนี้มีช่วงล่างที่ยอดเยี่ยมสามารถดูดซัพแรงสั่นสะเทือนของพื้นผิวถนนขรุขระได้ดี วิ่งทางตรงด้วยความเร็วตัวรถ Ferrari Portofino (เฟอร์รารี่ พอร์โตฟิโน) ยังคงนิ่งควบคุมง่าย เค้าโค้งด้วยความเร็วสูงบอกได้คำเดียวว่าสนุก เพราะควบคุมง่ายเค้าโค้งได้เฉียบคม แน่น หนึบ มาก

Ferrari Portofino (เฟอร์รารี่ พอร์โตฟิโน) มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันอยู่ที่ 9.5 กม./ลิตร 

Ferrari Portofino (เฟอร์รารี่ พอร์โตฟิโน) นับว่าเป็นเฟอร์รารี่ ที่มีพื้นที่ใช้สอยเยอะ นั่งสบาย มีพื้นที่เก็บสัมภาระ พละกำลังของเครื่องยนต์ก็สุดยอดขับสนุก ขับขี่ง่าย ระบบช่วงล่าง Ferrari Portofino บอกเลยว่ายอดเยี่ยมมา สะดวกในการนำไปใช้แบบขับขี่ได้ทุกวันอย่างแท้จริงถ้า กับราคา Ferrari Portofino เริ่มต้นที่ 20,900,000 บาท ท่านไหนที่ชอบเฟอร์รารี่ที่ขับสบาย ขับง่าย แรง มีพื้นที่ในการเก็บสัมภาระ ผมว่า Ferrari Portofino (เฟอร์รารี่ พอร์โตฟิโน) น่าจะตอบโจยท์คุณไม่น้อย