BMW The Great Getaway หนีงานไปพักผ่อนกับ BMW R18 และผองเพื่อน!
สำหรับมนุษย์เงินเดือนแบบผมแน่นอนว่าเราย่อมมีวันที่เหนื่อยล้า จนอยากจะหลีกหนีหน้าที่การงาน และความวุ่นวายภายในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ ออกไปใช้ชีวิต ออกไปพักผ่อน ออกไปท่องเที่ยวกับกลุ่มเพื่อน ๆ ที่รู้ใจ และแล้วเหมือนพระเจ้าเห็นใจได้ส่งทริปอย่าง BMW The Great Getaway มาให้กับเรา AutoFun Thailand ได้ไปเข้าร่วมในครั้งนี้
BMW The Great Getaway
ถนนสวย รถดี อาหารอร่อยกับไฮไลท์ของวันที่วัดศรีโพธิ์ชัย
ความสุขมักสั้นเสมอ
เพราะชีวิตไม่ได้มีแค่การทำงาน
BMW The Great Getaway
BMW The Great Getaway
สำหรับการเดินทางในครั้งนี้ของเรามีชื่อว่า BMW The Great Getaway ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ทาง BMW Motorrad Thailand จัดขึ้นเพื่อให้บรรดาสื่อมวลชนได้หลีกหนีจากหน้าที่การงานได้ออกไปขี่รถท่องเที่ยวเสพธรรมชาติรับลมหนาวในช่วงปลายปีแบบนี้ ซึ่งภายในทริปนี้เราจะออกเดินทางไปกับพี่ ๆ เพื่อน ๆ น้อง ๆ สื่อมวลชนรวมทั้งสิ้น 10 ชีวิต กับรถมอเตอร์ไซค์คู่ใจสุดเท่อย่าง BMW R 18 First Edition , BMW R 18 Classic , BMW R 18 Bagger และพี่ใหญ่สุดกับ BMW R 18 Transcontinental กับเส้นทาง จ.พิษณุโลก สู่ ภูเรือ จ.เลย ซึ่งรวมระยะทางไปกลับทั้งสิ้นกว่า 500 กม. ตลอดระยะเวลา 2 วัน 1 คืน
พี่ใหญ่ประจำทริป BMW R 18 Transcontinental
ถนนสวย รถดี อาหารอร่อยกับไฮไลท์ของวันที่วัดศรีโพธิ์ชัย
เริ่มสตาร์ทวันพักผ่อนจากโชว์รูม BMW Motorrad นิธิบูรณ์ จ.พิษณุโลก กับจุดหมายปลายทางของเราที่ ภูเรือคีรี รีสอร์ท ซึ่งรวมระยะทางประมาณ 273 กม. ที่เราต้องขับขี่กันในวันนี้ ซึ่งตลอดเส้นทางการขับขี่นั้นต้องบอกเลยว่าเป็นอะไรที่ชิว และทางสวยมาก ๆ ซึ่งถือเป็นเส้นทางที่เหมาะกับรถอย่าง R 18 เป็นอย่างยิ่ง เพราะตลอดเส้นทางเป็นทางดำบวกกับโค้งสลับไปมาบนไหล่เขาซึ่งช่วยแก้ง่วงให้กับเราได้เป็นอย่างดี เนื่องจากอากาศที่ไม่ร้อน และหนาวเย็นสบายกำลังดีประมาณ 22-25 องศาชิว ๆ กับการแวะพักจิบกาแฟไปเรื่อยเปื่อยตลอดเส้นทาง
ทางสวย โค้งมีให้เล่นแก้ง่วง
ก่อนที่เราจะถึงจุดหมายปลายทางในยามเย็นทาง BMW Motorrad Thailand ก็ได้จัดเซอร์ไพรส์ชุดใหญ่ไว้ให้เมื่อเราได้เข้าสู่ตัวอำเภอนาแห้ว กับไฮไลท์ของวันนี้ที่วัดศรีโพธิ์ชัย วัดเก่าแก่ที่มีอายุมากกว่า 400 ปี ซึ่งมีไฮไลท์อยู่ตรงที่พระอุโบสถของตัววัดแห่งนี้จะมีลักษณะคล้ายกับ วัดเชียง ของเมืองหลวงพระบาง ในฝั่งของ สปป.ลาว นั่นเอง เนื่องจากอำเภอนาแห้วแห่งนี้อยู่ติดกับชายแดนของ สปป.ลาว แล้วนั่นเองจึงทำให้วัฒนธรรม และวิถีชีวิตของคนที่นี่ค่อนข้างที่จะได้รับอิทธิพลมาจากฝั่ง สปป.ลาว นั่นเอง
วัดศรีโพธิ์ชัย
ซึ่งเมื่อขบวนของเราเลี้ยวเข้ามายังวัดศรีโพธิ์ชัยแห่งนี้ ก็ได้มีกลุ่มน้อง ๆ มาคอยต้อนรับเราอยู่แล้วด้วยการเดินมาจูงมือเราไปจากรถ และพาไปยังที่นั่งที่ได้จัดเตรียมไว้ให้เพื่อชมการแสดงของน้อง ๆ ซึ่งมันเป็นภาพที่ประทับใจเรามาก ๆ บอกกับแสงสีทองอ่อน ๆ ของพระอาทิตย์ในยาเย็นจึงทำให้ภาพที่อยู่เบื้องหน้าของเรานั้นสวยงามอย่างบอกไม่ถูกเลยทีเดียว
น้อง ๆ เดินจูงมือพาเราไปชมการแสดง
ซึ่งกลุ่มน้อง ๆ ได้บอกว่าการแสดงชุดนี้ชื่อว่า “แห่ต้นดอกไม้” ซึ่งจริง ๆ แล้วประเพณีนี้จะจัดขึ้นแค่ปีละ 1 ครั้งคือในวันที่ 14 เมษายนของทุกปี แต่ครั้งนี้พิเศษสำหรับ BMW The Great Getaway ของเราทางชุมชนได้จัดการแสดงชุดนี้มาไว้ต้อนรับ และให้เราชมกันโดยเฉพาะซึ่งไม่ต้องรอให้ถึง 14 เมษายนแต่อย่างใด ซึ่งน้อง ๆ ก็ตั้งใจกันมากสำหรับโชว์ในครั้งนี้
การแสดงแห่ต้นดอกไม้
และเมื่อโชว์จบลงน้อง ๆ ก็ได้มอบของที่ระลึกให้กับชาวแก๊งของเราอีกด้วยซึ่งก็เป็นผ้าขาวม้า และถั่วแมคคาเดเมี่ย ซึ่งเป็นของขึ้นชื่อที่ผลิตขึ้นในอำเภอบ้านนาแห้วแห่งนี้ และแน่นอนก่อนที่เราจะเดินทางออกจากตัววัดศรีโพธิ์ชัยแห่งนี้เราก็ไม่พลาดที่จะเก็บภาพความประทับใจระหว่างตัววัด และรถคู่ใจของเราในทริปนี้กับ BMW R 18 เอาไว้อย่างแน่นอน
มีของที่ระลึกมอบให้เราก่อนกลับอีกด้วย
ก่อนที่คณะของเราจะออกเดินทางกันต่อเข้าสู่ที่พักภูเรือคีรี จ.เลย กับการขับขี่ยามค่ำคืนที่ต้องบอกเลยว่าทั้งมืด และหนาวสุด ๆ แต่จะกลัวอะไรในเมื่อทริปนี้เรามากับกลุ่มเพื่อนรู้ใจที่คอยช่วยเหลือกัน เพราะฉะนั้นในค่ำคืนนี้ก็จบลงไปด้วยความประทับใจ ปลอดภัย และเสียงหัวเราะอย่างมีความสุข สนุกสนานตลอดทั้งคืน ท่ามกลางมื้ออาหารแสนอร่อย และลมหนาวที่พัดโชยมาต้อนรับเราตลอดทั้งคืน
การเดินทางยามค่ำคืนมีเสน่ห์ไปอีกแบบ
ความสุขมักสั้นเสมอ
และแล้วการพักผ่อนของเราก็ต้องสิ้นสุดลง เมื่อเราต้องเดินทางกลับกันในวันนี้ ซึ่งเราจะออกเดินทางจาก จ.เลย มุ่งหน้ากลับเข้าสู่ตัว จ.พิษณุโลก ให้ทันไฟล์บินในตอนเย็น กับเส้นทางในวันนี้ที่เราจะมีโอกาสได้สัมผัสกับถนนอีก 1 เส้นที่ขึ้นชื่อว่าดี และมีโค้งสวย ๆ อยู่มากมายตลอดเส้นทางนั่นก็คือถนนรูท 12 พิษณุโลก-หล่มสัก นั่นเอง
ถนนรูท 12 พิษณุโลก-หล่มสัก
ซึ่งเรียกได้ว่าตลอดการเดินทางนั้นเราได้ทำการแลกเปลี่ยนสลับรถกันตลอดเส้นทาง เพื่อที่จะได้ทำความรู้จักกับเจ้า BMW R 18 ในแต่ละสไตล์ให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งมันก็เป็นอะไรที่สนุกมาก ๆ สำหรับการเดินทางกลับของเราในครั้งนี้ เพราะเราได้ลองใช้คันเร่ง และสมรรถนะของตัวรถ R 18 กันได้อย่างเต็มที่ ซึ่งบอกเลยว่านอกจากมันจะหล่อเหลาเอาเรื่องแล้ว การขับขี่ท่องเที่ยวไปบนเส้นทางดำยาว ๆ แบบนี้นั้น R 18 ทำออกมาได้น่าประทับใจเลยทีเดียว
ขี่กันสนุกสุด ๆ
เพราะชีวิตไม่ได้มีแค่การทำงาน
สุดท้ายนี้ก่อนเราจะจากกันไปเราอยากจะบอกว่าเราเข้าใจว่าทุกคนล้วนมีงาน มีภาระที่ต้องรับผิดชอบ แต่เราก็ควรมีเวลาที่จะหลบหนีจากสิ่งเหล่านั้นเพื่อออกมาพักผ่อน ออกมาใช้ชีวิตกับสิ่งที่เราชอบบ้าง เพื่อเป็นการเติมเต็มชีวิต ความคิด และพลังงานในการที่เราจะกลับไปลุยกับชีวิตในความเป็นจริงของเราได้อย่างมีแรงสู้
หลีกหนีความวุ่นวาย แล้วออกมาสนุกกับผองเพื่อนคอเดียวกัน
ซึ่งไม่ต้องออกมาขี่รถแบบผมก็ได้ เพราะหลายคนก็อาจจะไม่ได้ชอบขี่มอเตอร์ไซค์แบบพวกผม แต่การออกมาขี่รถรับลม สัมผัสธรรมชาติ และวิถีชีวิตของคนต่างถิ่น มันคือการพักผ่อนในแบบของผมก็เท่านั้น เพราะเราควรมีวิถีทางแบบ….The Great Getaway บ้าง
อ่านเพิ่มเติม : ลองขี่ BMW R 18 ได้ฟิวบุตรแห่งอนาธิปไตยอารมณ์โก๋มาเต็ม
อ่านเพิ่มเติม : ขี่ BMW R18 ตะลุยดอยเหนือภายในงาน BMW Motorrad CNX Season Start 2022
อ่านเพิ่มเติม : ครุยเซอร์รุ่นใหญ่ BMW R 18 Transcontinental และ BMW R 18 B มาถึงเมืองไทยแล้ว